เลี้ยงสาย

1567 คำ
“ใครเป็นผู้ริเริ่มว่าต้องมาเลี้ยงสายในร้านเนื้อย่างเนี่ย! กลิ่นควันลอยคลุ้งไปหมด เหม็นก็เหม็น” เสียงบ่นอุบจากอดีตดาวมหาวิทยาลัยทำให้ฉันอดที่จะกลอกตาอย่าง เบื่อหน่ายไม่ได้ ใครจะไปรู้ว่าสายรหัสของพวกเราต้องมากินเลี้ยงรวมกัน ทั้งสายพี่ไทน์ และยัยพี่แพมนี่ แต่ดีหน่อยที่มีออมสินมานั่งด้วย พอให้ได้มีเพื่อนคุย “ฉันก็บอกแกแล้วว่าฉันกับไอ้ไทน์จะพาน้องมาเลี้ยงสายที่นี่ แกเลือกที่จะตามมาเองนะแพม” พี่เรสตอบอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะคีบหมูบนเตาย่างใส่จานให้กับออมสิน แต่เหมือนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าควรจะคีบให้ฉัน เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกันทางสายรหัส “เอ่อ... ทะ โทษที มันชิน” อีกฝ่ายรีบคีบเนื้อในจานของออมสินมาใส่ให้ในจานของฉันแทน “ขอบคุณค่ะพี่เรส” ฉันมองพี่เรสกับออมสินสลับกัน รับรู้ได้ถึงความอึดอัดที่ลอยตลบอบอวลอยู่ในความสัมพันธ์ของทั้งคู่นี้ ฉันกับออมเราเพิ่งจะรู้จักกันเอง ยังไม่ทันได้สนิทกันมากเท่าไหร่ ฉันเลยไม่กล้าที่จะถามไถ่ในเรื่องส่วนตัวของพวกเขา “ไทน์ พรุ่งนี้หลังจากคัดเลือกดาวเดือนเสร็จเราไปดูหนังกันไหม? หนังที่เราเคยไปดูด้วยกันตอนภาคหนึ่งอะ ตอนนี้ภาคสองมันเข้าโรงแล้วนะ” ผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามเอ่ยชวนพี่ไทน์ แต่สายตากลับลอบมองฉันคล้ายกับจงใจจะบอกว่าพวกเขาสนิทกันมากแค่ไหน “ภาคแรกก็ไปกันเกือบทั้งห้องนะ ทำไมชวนแต่ไอ้ไทน์ล่ะ” พี่เรสไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ทำแต้ม รีบหักหน้าเธอทันทีตามประสา คนไม่ถูกชะตากัน “ก็ชวนแค่คนสนิทไง? เข้าใจยากตรงไหนเหรอเรส” อีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะยอมง่าย ๆ รีบต่อปากต่อคำกลับทันควัน “เอาละ ๆ ไม่ต้องทะเลาะกัน แพมไปเถอะ ไทน์ไม่ชอบดูหนัง ในโรงน่ะ” “ถ้างั้นเราไป...” “ไม่ไป... คัดเลือกเสร็จจะกลับไปพัก เหนื่อย” พี่ไทน์ตอบกลับอย่างชัดเจน ไม่เปิดโอกาสให้สาวสวยผมทองได้เอ่ยอะไรต่อ หลังจากกินเลี้ยงจนเสร็จก็ได้เวลาแยกย้าย ยัยพี่แพมขอแยกออกไปก่อน เพราะทนกลิ่นเหม็นควันในร้านเนื้อย่างไม่ไหว โคตรกระแดะ! “ไอ้ไทน์ มึงจะกลับห้องเลยปะ” “อืม” “งั้นฝากไปส่งน้องรหัสกูด้วยดิ ทางเดียวกันเลย” พี่เรสรีบเปิดโอกาสทองให้กับฉันอย่างรู้งาน “ไม่ได้ กูต้องไปส่งน้องออมสิน วันนี้น้องเขาไม่ได้เอารถมา” “เดี๋ยวกูไปส่งน้องรหัสให้มึงเอง” “แต่หอมึงอยู่คนละฝั่งกับน้องเขา?” พี่ไทน์ตั้งคำถามเชิงเย้าแหย่ นั่นทำให้พี่เรสต้องรีบหาคำแก้ตัวให้ลื่นไหล “เอ่อ... กูว่าจะไปหาเพื่อนสักหน่อย มันอยู่หอใกล้ ๆ หอน้องเขาพอดี เดี๋ยวกูไปส่งให้ ไม่ต้องห่วง” “เพื่อน? เพื่อนคนไหนวะ” พี่ไทน์ยังไม่เลิกแกล้ง ทำเอาพี่เรสเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้ว “เพื่อนกูเนอะ มึงไม่ต้องเสือกอยากรู้ครบทุกคน ไปส่งน้องก้านตองที่หอให้กูก็พอนะ” พี่เรสยิ้มกว้างแต่ตากลับจ้องเขม็งที่เพื่อนรัก พลางตบเบา ๆ เข้าที่หัวไหล่ “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวออมโทรเรียกเพื่อนมารับก็ได้” “เพื่อน? ใครอีกล่ะ” พี่เรสหันไปชักสีหน้าใส่คนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างฉันอย่างไม่พอใจ “เพื่อนก็คือเพื่อนไงวะ มึงไม่ต้องเสือกอยากรู้จักเพื่อนเขาทุกคนหรอกเนอะ” ได้ทีพี่ไทน์ก็เอาคืนพี่เรสบ้าง แต่ดูท่าจะไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสม เพราะพี่เรสไม่ได้สนุกด้วยเลยสักนิด “สรุปใคร? เพื่อนผู้ชายผู้หญิง” “ผู้ชายค่ะ” “ผู้ชาย!! ให้เพื่อนผู้ชายไปส่งถึงหอเนี่ยนะ” “ค่ะ ทำไมเหรอคะ” ออมสินเชิดคางขึ้น ปากก็ตะโกนเถียงปาว ๆ อย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว “ไปทางเดียวกันอยู่แล้ว จะเรียกคนอื่นมารับให้เสียเวลาทำไม ขึ้นรถซะ ฉันจะไปส่ง” “ไม่ขึ้นค่ะ! ออมไม่กลับกับพี่” “กมลลดา!” “ว่าไงคะพี่ปรวิทย์” “อย่า ลอง ดี!” “จะลองค่ะ ทำไมคะ?” ฉันเริ่มรับรู้ได้ถึงความรุนแรงที่ไต่ระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว เลยรีบรั้งแขนออมให้เธอหยุด แต่ช้าไปเสียแล้ว คนตัวเล็กถูกอุ้มขึ้นบ่าไปท่ามกลางสายตามึนงงของฉันและพี่ไทน์ “ปล่อยนะไอ้พี่เรส! ทำบ้าอะไรฮะ” คนตัวเล็กดิ้นขลุกขลักพยายามจะแหกปากตะโกนให้เขาหยุด แต่กลับ ไม่เป็นผล ในไม่ช้าเธอก็ถูกจับโยนขึ้นบนรถแล้วเคลื่อนตัวออกไป... “เอ่อ... ให้เขาไปด้วยกันแบบนี้จะไม่เป็นอะไรแน่เหรอคะ?” อดที่จะเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ แม้รู้ว่าพี่เรสไม่ใช่คนใจยักษ์ใจมาร แต่เห็นฉากปะทะฝีปากกันเมื่อกี้แล้วก็เริ่มจะไม่มั่นใจ “ปล่อยมันไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก” พี่ไทน์ตอบกลับมาราวกับชินชากับเรื่องแบบนี้แล้ว เขาเดินไปจ่ายเงิน ที่เคาน์เตอร์ จากนั้นก็พาฉันขึ้นรถเพื่อจะพามาส่งยังหอพัก “ขอบคุณนะคะพี่ไทน์” ระหว่างทางเงียบสนิท ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ฉันจึงต้องเอ่ยเปิดประเด็นก่อน “เรื่อง?” “ก็ที่พี่อุตส่าห์โดดเรียนเพื่อเอาเสื้อแขนยาวมาให้หนูที่ห้องน้ำ” “อย่าสำคัญตัว ฉันแค่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่แพมทำก็แค่นั้น” รับผิดชอบแทน? ทำไมต้องมารับผิดแทนผู้หญิงนิสัยเสียคนนั้นด้วยเล่า “แพมเขาไม่ชอบให้ใครเข้าหาฉัน โดยเฉพาะผู้หญิง” “ออ...” ฉันพยักหน้าเบา ๆ เพราะรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว “แล้วพี่ไทน์ก็ปล่อยให้เขามีสิทธิ์ได้ทำแบบนี้เหรอคะ?” “อืม ฉันพลาดเองแหละที่เผลอไปมีอะไรกับแพมน่ะ” “...” หัวใจกระตุกวูบอย่างเจ็บหน่วง ราวกับใครควานมือเข้าไปในอกแล้วบีบก้อนเนื้อที่กำลังเต้นอยู่เข้าไปเต็มแรง ฉันไม่อยากเชื่อหูเลยว่าจะเป็น อย่างนั้นจริง ๆ พี่ไทน์จะเคยผ่านผู้หญิงมาเป็นร้อยเป็นพันฉันไม่เคยติด แต่พอเป็นยัยนี่... ฉันกลับรู้สึกพ่ายแพ้จนอยากจะร้องไห้ออกมา “ถึงกับเงียบเลยเหรอ” “ปะ เปล่าค่ะ” ฉันเบือนหน้าหลบพยายามซ่อนความหงุดหงิดที่กำลังปะทุอยู่ตอนนี้ “หึ ๆ ล้อเล่นน่า สำหรับฉัน เพื่อนก็คือเพื่อน ฉันไม่กินเพื่อนตัวเอง อีกอย่าง... ยัยนั่นไม่ใช่สเปกฉันสักหน่อย” รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นมาบนมุมปากอย่างโล่งใจ อย่างน้อยยัยนั่นก็ไม่มีสิทธิ์มากกว่าเป็นเพื่อนพี่ไทน์ได้ “แล้ว... สเปกพี่ไทน์เป็นแบบไหนเหรอคะ” “เธอเป็นให้ฉันไม่ได้หรอก” “...” ฉันรีบหันขวับไปมองคนที่อยู่ข้างกัน ในตอนนี้อีกฝ่ายจดจ่อกับเส้นทางตรงหน้าเพราะเข้าสู่ซอยด้านหลังมอที่ทั้งมืดทั้งเปลี่ยว เลยไม่ทันได้เห็นว่าประโยคที่หลุดออกมาจากปากเขาทำฉันเหวออ้าปากค้างแค่ไหน “สเปกของฉันคือคนที่ลายมือสวย” “แค่นั้นเหรอคะ?” “ไม่... เธอคนนั้นต้องรับฉันได้ ไม่ว่าฉันจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม” ฟังดูแปลก ๆ แฮะ ไม่เห็นเข้าใจกับสเปกที่เขาบอกเลย รูปร่างหน้าตา เป็นแบบไหนก็ไม่ยอมพูด “แล้ว... พี่ไทน์เจอคนแบบนั้นหรือยังคะ” “เคยเจอ” แสดงว่าตอนนี้ไม่ได้เจอแล้วงั้นดิ ลำบากอีก้านตองกลับไปนั่งคัดลายมืออีกแล้ววว!! “แล้วเธอล่ะ สเปกแบบไหน” “แบบพี่ไทน์ค่ะ” ฉันตอบออกไปอย่างลืมตัว พอเขาหันมามองก็ได้แต่อ้ำอึ้งไม่รู้ว่าควรแก้ตัวแบบไหน “เอ่อ... คือ...” “ถ้าสเปกของเธอคือฉัน เธอจะเหนื่อยนะ เพราะเธอจะได้แค่วิ่งไล่ แต่ไม่มีวันได้ครอบครองฉันเด็ดขาด” “ค่ะ หนูพร้อมเหนื่อย” ก็วิ่งตามมาตั้ง 6 ปีแล้ว วิ่งต่ออีกหน่อยให้มันหมดแรงแล้วล้มไปเองจะเป็นไรไป “หึ ไหน มาทำให้ดูหน่อย” พูดจบเขาหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้ามาในซอยเปลี่ยวอันมืดทึบทั้งสองข้างทางทันที “ทะ ทำอะไรคะ” “ก็ทำให้ฉันดู ว่าเธอไม่ได้เก่งแต่ปาก” “ตรงนี้เลยเหรอคะ?” ฉันกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บริเวณอย่างรู้สึกไม่ดี มันมืดเสียสนิทแต่ยังรู้สึกกลัวว่าใครจะผ่านมาเห็น “ทำไม?” “หนูว่า... เรากลับไปทำที่ห้องดีไหมคะ” “ไม่! ถ้าไม่กล้าก็ไม่ต้องมาเอากับฉันอีก” “...” เอาแต่ใจจังวะ! ฉันลอบถอนหายใจเสียงเบาก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อเรียกความกล้าให้กับตัวเอง ในเมื่อเขาต้องการแบบนั้น ฉันก็จะสนองให้!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม