ตอนที่ 17 ไม่มีสิทธิ์
ระหว่างที่อคิณณ์พาเฌอรีนเข้ามาในห้อง VVIP เขา ช่วงเวลาการเดินขึ้นไปยังชั้นสองเฌอรีนเกาะแขนซบหน้าตัวเองลงที่ต้นแขนของอคิณณ์ตลอดและเธอไม่ลืมที่จะหันหน้ากลับไปยิ้มเยาะเย้ยเฟย์
“อคิณณ์ เฌอรีนเจ็บมากเลย ไม่รู้ว่าบวมไหม” เฌอรีนที่นั่งลงบนโซฟาแล้วก็เอ่ยด้วยใบหน้าอ้อน ๆ ซึ่งมันใช้ไม่ได้ผลกับผู้ชายอย่างอคิณณ์
แต่เขาก็ไม่อาจจะปล่อยหญิงสาวอยู่สภาพนี้โดยไม่ทำอะไร อคิณณ์รู้ว่าคนอย่างเฌอรีนไม่ยอมใครหากเธอจะเอาเรื่องเฟย์ก็คงไม่ยากเพราะมีการทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นแล้ว เขาไม่อยากให้เฟย์ต้องเดือดร้อน ยังดีที่เฟย์ยอมขอโทษให้เรื่องมันจบที่ตรงนี้
“เดี๋ยวดูให้” อคิณณ์ไม่เพียงแต่พูดเพราะเขาโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้หน้าเฌอรีน รอยช้ำบนใบหน้าของเฌอรีนตอนนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเฟย์แรงเยอะไม่น้อยเพราะยังไม่ถึงสิบนาทีขอบเบ้าตาของเฌอรีนเริ่มบวมเป็นสีม่วงแล้วและอคิณณ์ไม่ได้แปลกใจเลยเพราะจากรูปร่างของเฟย์แล้วแรงตบของเธอจะเยอะก็ไม่แปลกแต่ที่เขาเห็นคือเฟย์ไม่ได้ตบแต่แฟย์กำหมัดต่อยเข้าไป
เวลาผ่านไปนานกว่าครึ่งชั่วโมงคนทั้งสองก็ยังไม่ลงมาจากห้อง VVIP คนที่ทำงานอยู่จิตใจยังคงไม่สงบ
@เคาน์เตอร์บาร์
ติ้ง!
เสียงโทรศัพท์ของเฟย์ดังขึ้นในขณะที่หญิงสาวกำลังเหม่อลอยชงเครื่องดื่มให้ลูกค้าอยู่นั้น เมื่อเสิร์ฟค็อกเทลให้ลูกค้าแล้ว เธอจีงหันมามองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองทันที
คิ้วเรียวสวยของเฟย์ขมวดเข้าหากันอย่าเป็นคำถามเมื่อเธอเปิดกล่องข้อความที่มีคนส่งข้อความทาง Facebook มาให้แต่ไม่ได้ระบุที่มาของผู้ส่ง เป็นแอคเคาน์ที่ไม่มีรูปโปรไฟล์ ซึ่งเฟย์เดาได้ว่าคนที่ส่งมาให้กับเธอจะเป็นใครไม่ได้นอกจากเฌอรีน
เป็นภาพและคลิปของอคิณณ์ที่กำลังจูบอยู่กับเฌอรีนทำให้เฟย์ตาร้อนผ่าว ใจสั่นไหว แม้ว่าเธอจะรู้ตัวเองดีว่าเธอกับอคิณณ์ไม่ได้เป็นอะไรกันและจบทุกอย่างกันแล้ว แต่เธอไม่อาจจะห้ามหัวใจของตัวเองได้ เฟย์พาตัวเองมายังชั้นบนของไนต์คลับโดยไม่รู้ตัวเองเลยด้วยซ้ำ ว่าเธอเดินมาตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกที่ก็ตอนที่หยุดยืนอยู่หน้าห้องพัก VVIP
เฟย์เปิดประตูเข้าไปภายในห้องโดยไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของห้อง แต่พอเปิดประตูเข้าไปแล้วเธอก็เห็นภาพแบบเดียวกับที่ได้จากวิดีโอคลิป
อคิณณ์กำลังจูบกับเณอรีน อีกทั้งการมาของเธอไม่ได้ทำให้อคิณณ์ดูตกใจเลยแม้แต่น้อย มีแต่เณอรีนเท่านั้นที่ทำเหมือนคนที่กำลังเขินอายอยู่
“เป็นบ้าอะไรของเธอ เฟย์” อคิณณ์เอ่ยถามอย่างหัวเสียในการกระทำของเฟย์ในตอนนี้ แต่เฟย์ก็เอาแต่มองใบหน้าของชายหนุ่มอย่างไม่ได้คิดจะเอ่ยอะไรออกมา
“ออกไปเดี๋ยวนี้” อคิณณ์ยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนชี้ไปทางประตูห้อง ท่าทีของเขาเฟย์พอจะมองออกว่าอีกฝ่ายโกธรตัวเองมากแค่ไหน แต่จะให้เธอนิ่งมองทั้งสองมีความสุขกันเธอทำไม่ได้
“ออกไป เพื่อให้พวกคุณทำเรื่องอย่างว่ากันอ่ะเหรอ” เฟย์เอ่ยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของเธอสั่นไหว
ภาพของทั้งสองในตอนนี้ทำให้หัวใจเฟย์เจ็บร้าว ราวกลับมีคนกำลังใช้มีดกรีดมันอย่างช้า ๆ เธอกำลังทำอะไรที่ขาดสติไป
“แล้วทำไม ฉันจะทำอะไรเธอก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งวุ่นวายกับฉัน”
“ไม่มีสิทธิ์” เฟย์เอ่ยถามย้ำพร้อมน้ำตาที่คลอเบ้า น้ำเสียงของเธอสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด
“ใช่...เธอเป็นแค่บาร์เทนเดอร์ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องของฉัน สถานะของเธอเป็นแค่พนักงานเท่านั้น ” อคิณณ์มองเฟย์ด้วยแววตาไม่พอใจในการกระทำของเธอ แต่พอได้เห็นน้ำตาของหญิงสาวเขากลับรู้สึกเจ็บหัวใจอย่างบอกไม่ถูก เขาเป็นคนที่ไม่เคยคิดจะมีความรักและจะไม่มีวันต้องการความรัก แต่วันนี้เขากลับรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังถูกเข็มทิ่มแทงเพียงเพราะแววตาที่สั่นไหวมีน้ำตาคลอตาของอีกฝ่าย
“แต่...”
“ถ้าเธอยังไม่ออกไปฉันจะไล่เธอออก”
“ค่ะ คุณอคิณณ์” เฟย์เอ่ยด้วยเสียงที่ฝืนใจกลั้นเสียงสะอื้นที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ก่อนจะหันหลังเตรียมเดินออกมาจากห้อง ทว่าความตั้งใจของเธอก็ไม่ได้เป็นอย่างหวัง
“เดี๋ยว”
“คะ” เฟย์ใช้มือเช็ดน้ำตาแบบลวก ๆ ก่อนหันไปมองอีกฝ่ายอีกครั้ง
“ถ้าเธอยังทำเรื่องแบบวันนี้อีก อย่าหวังจะมาทำงานที่นี่อีก”
เฟย์ไม่เอ่ยอะไรเพียงแต่เดินออกมาจากห้อง VVIP ของอคิณณ์ เธอตรงกลับมายังชั้นล่าง แต่ไม่ได้กลับไปที่เคาน์เตอร์บาร์ เฟย์เข้าไปห้องน้ำก่อนจะปล่อยตัวเองร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะทนและไม่ชอบตัวเองเอาเสียเลยที่ทำแบบนั้นลงไป
“เธอไม่มีสิทธิ์นะเฟย์ ไม่มีสิทธิ์ ฮือ ฮือ”
การกระทำของอคิณณ์ทำให้เฟย์ได้รู้แล้วว่าเธอตกหลุมพรางของเฌอรีนแล้วที่กำลังสร้างสถานการณ์ให้เธอทำอะไรที่ขาดสติ
และในขณะเดียวกันที่ผ่านมาอคิณณ์คิดกับเธอเป็นเพียงแค่สถานะเจ้าหนี้ลูกหนี้ที่ชดใช้ทางกายเท่านั้น ไม่ใช่คู่นอนด้วยซ้ำ หรืออาจเป็นของเล่นของเขาเท่านั้น เฟย์ใช้เวลาในการร้องไห้อยู่นาน ก่อนที่จะออกไปทำงานต่อ
ตลอดการทำงานของเฟย์ในคืนนี้ อคิณณ์ยังคงมองมาจากห้อง VVIP ซึ่งหลังจากที่เฟย์ออกมาจากห้องน้ำแล้ว เขาก็เดินกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเอง โดยสั่งให้คนของตัวเองไปตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้และส่งข้อมูลกล้องวงจรปิดมาให้เขา และคืนนี้ระหว่างเฟย์กับเฌอรีนต้องจับแยกจากกัน โดยอคิณณ์เลือกไปส่งเฌอรีนกลับบ้านเพื่อให้เฟย์ได้ทำงานต่อจนกว่าจะเลิกงาน
เฟย์มองทั้งสองคนเดินออกจากร้านจนลับสายตา เท่านั้นก็ชัดเจนแล้วว่า คนที่ถูกเลือกเป็นแฟนเก่าที่เขารอคอย นั่นคือ เฌอรีน
วันต่อมา
เฟย์ยังคงมาเรียนที่มหาวิทยาลัยทั้ง ๆ ที่เหมือนวานนี้เธอเพิ่งผ่านการร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วง
“เฟย์ ตาเป็นไรหรือเปล่าทำไมดูบวม ๆ ไม่ใช่ร้องไห้มานะ” อะตอมที่เห็นใบหน้าเฟย์ดูผิดปกติขณะที่หญิงสาวกำลังเดินมานั่งลงข้าง ๆ ตัวเอง อะตอมจึงเอ่ยถามอย่างสงสัย
“พอดีดูซีรีย์เศร้าๆเลยร้องน่ะ ” เฟย์โกหกสาเหตุของการร้องไห้ออกมา ทั้งที่เป็นเพราะเหตุการณ์ที่ไนต์คลับทำให้เฟย์ร้องไห้ตลอดคืนมีผลกระทบให้ดวงตาของเธอบวมอย่างเห็นได้ชัด
“จริงเหรอ...” อะตอมยังคงมองดวงตาคู่สวยของเพื่อนสนิทอย่างไม่วางตา เธอไม่เชื่อว่าที่เพื่อนเธอพูดจะเป็นเรื่องจริง
“เป็นไงบ้างยัยอ้วน ฉันบอกเธอแล้วก็ไม่เชื่อคนอย่างพี่อคิณณ์เขาไม่เอาเธอหรอก” ปริมเห็นเฟย์ก็รีบเดินเข้ามาหา เพราะเมื่อวานตอนที่เธอไปหาเรื่องเฟย์ หลังจากเกิดเรื่องเธอยังไม่ได้พูดคุยอะไร เฌอรีนก็ไล่เธอออกมาจากไนต์คลับเสียก่อน
“นี่...วัน ๆ ไม่มีอะไรทำหรือไงถึงเที่ยวมากัดคนอื่นแบบนี้” อะตอมเห็นว่าเฟย์เอาแต่เงียบเธอจึงได้ออกโรงปกป้องเพื่อนของเธอ
“ไม่ต้องยุ่งสักเรื่องได้ไหม” ปริมมองอะตอมอย่างไม่พอใจ
“ทำไมจะยุ่งไม่ได้ในเมื่อฉันเป็นเพื่อนเฟย์”
“งั้นเธอก็รู้เอาไว้นะ ว่าเพื่อนของเธอมันเป็นได้แค่ของเล่นที่พี่อคิณณ์ไม่เอาแล้ว” คำพูดของปริมเป็นเหมือนมีดคม ๆ ที่ปักเข้ากลางใจของเฟย์
การกระทำของอีกฝ่ายในตอนนี้เหมือนกำลังจะมาประกาศให้เฟย์อับอาย ว่าเธอเป็นเพียงของเล่นของผู้ชายคนนั้น
“เฟย์...เดี๋ยวสิเฟย์” อะตอมที่เห็นท่าทีของเฟย์ในตอนนี้เธอก็พอจะเดาออกว่าเพื่อนของเธอคงกำลังมีปัญหา
“เฟย์หยุดก่อน...มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” อะตอมวิ่งเข้ามาจับข้อมือของเพื่อนสนิทเพื่อให้อีกฝ่ายหยุดเดิน ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“อะตอม...มึงอย่าโกธรกูนะ ไม่หาที่คุยกัน กูจะเล่าให้มึงฟัง”
อะตอมขับรถพาเฟย์ไปที่บ้านของตัวเอง บ้านของอะตอมหลังใหญ่มาก เฟย์ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเพื่อนของเธอจะเป็นคนรวยมากขนาดนี้และอะตอมไม่เคยแสดงความอวดรวยหรือใช้ของแบรนด์เนมราคาหนักๆเลย