“ท้องเหรอ...ไม่เป็นไรหรอกลูก หลานคนเดียว พ่อกับแม่เลี้ยงได้” นายพนมเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกตกใจ แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาควรทำ นั่นก็คือการปลอบใจบุตรสาวที่กำลังเจ็บปวดมากกว่า
“หนูขอโทษค่ะ....หนูขอโทษค่ะ...” พลอยชมพูเอ่ยคำขอโทษซ้ำๆ อีกหลายรอบ พร้อมทั้งน้ำตาที่นองอาบสองแก้ม
“ไม่ต้องขอโทษหรอกลูก เรื่องที่ผิดพลาดไปแล้ว เราก็มาแก้ไขไปเป็นเรื่องๆ ดีซะอีกพ่อกับแม่จะได้มีหลานเสียที” นายพนมกล่าวปลอบใจบุตรสาว แม้ว่าจะเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่อยากซ้ำเติมบุตรสาวของเขา
“แต่พ่อกับแม่ต้องอายชาวบ้านนะคะ” พลอยชมพูเอ่ยด้วยความกังวล
“คนอื่นไม่สำคัญหรอกลูก เราไม่ได้ขอข้าวเขากิน” คราวนี้นางญาณีเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาบ้าง
“ขอบคุณนะคะพ่อกับแม่” พลอยชมพูยังร้องไห้ไม่หยุด เธอรู้สึกขอบคุณโชคชะตาเหลือเกินที่ทำให้เธอเกิดมาเป็นลูกของบิดามารดา
“ร้องออกมาให้พอนะลูก แล้ววันหลังไม่ต้องร้องแล้ว เดี๋ยวหลานแม่จะพลอยเศร้าไปด้วย” นางญาณีลูบศีรษะบุตรสาวด้วยความรัก ไม่ว่าลูกทำผิดมาจากไหน คนเป็นบิดามารดาก็พร้อมให้อภัยเสมอ
“ค่ะแม่” พลอยชมพูซาบซึ้งในสิ่งที่เธอได้รับวันนี้เหลือเกิน แม้ว่าเธอจะบาดเจ็บกลับมา แต่ก็ยังมีอ้อมกอดอุ่นๆ ของบิดามารดารอปลอบโยนเธออยู่เสมอ
ทางด้านเหมันต์ยังไม่รู้ตัวว่าเขาได้สูญเสียหญิงสาวอันเป็นที่รักของเขาไปแล้ว กว่าที่เขาจะรู้ตัวก็เป็นเวลาเย็นของวันนั้น เพราะเขาติดประชุมอยู่ตลอดทั้งวัน เลยทำให้เขาไม่มีเวลาโทรหาเธอ แต่พอตกเย็นถึงเวลาที่เขาจะกลับไปหาเธอ ปรากฏว่าเขาโทรติดต่อเธอไม่ได้ มือถือของหญิงสาวมีเสียงฝากข้อความอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเหมันต์ไม่รู้เลยว่าหญิงสาวได้เปลี่ยนเบอร์ไปแล้ว
เขาจึงให้เลขาเช็คไปที่แผนกของเธอ และคำก็ได้คำตอบว่าตั้งแต่เช้าหญิงสาวก็ไม่ได้มาทำงานเลย สิ่งที่ได้รับรู้มามันทำให้ชายหนุ่มร้อนใจเป็นอย่างมาก เขาจึงรีบบึ่งรถกลับคอนโดทันที และเมื่อถึงที่คอนโด เหมันต์เข่าแทบทรุดเมื่อเห็นสร้อยที่เขาสวมให้เธอเมื่อวานและของที่เขาซื้อให้เธอถูกวางทิ้งไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้ง ส่วนเสื้อผ้าของเธอนั้นหายไปทั้งหมด
เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆ พลอยชมพูก็จากไปไม่ลา หรือว่าเธอจะได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับมารดาเมื่อวาน นี่เธอคงเข้าใจผิดว่าเขาจะแต่งงานกับคนที่มารดาหาให้จริงๆ แต่แท้จริงแล้วเขาแค่ประวิงเวลาเพื่อรอให้เธอตั้งครรภ์ แล้วมัดมือชกมารดาให้รับพลอยชมพูเป็นสะใภ้