ตัดมาที่ชบาในห้องเก็บของ
เธอพยายามร้องเรียกให้คนด้านนอกมาเปิดประตูให้กับเธอ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจเสียงเรียกของเธอเลย ในห้องนี้มันน่ากลัวมากทั้งมืดและเหม็นอับ ไม่รู้ว่ามันคือห้องอะไร
บรรยากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ เพราะเข้าสู่ช่วงกลางดึก อยู่ในป่าแบบนี้แถมไม่มีผ้าห่มไม่มีอะไรเลยสักอย่างเดียว ชบาต้องนั่งกอดเข่าอยู่ตรงมุมมืดๆ คนเดียว
อยากจะหลับเธอก็หลับไม่ลงเพราะเสียงต้นไม้ใบไม้ที่ดังอยู่รอบนอกมันทำให้เธอรู้สึกกลัวจนไม่อยากจะหลับตาลง
คำพูดของนายหัวอาชาทำให้เธอเริ่มคิดหนัก เพราะเขาบอกกับเธอว่าถ้าติดอยู่ในป่าตอนกลางคืนจะทำยังไง เพราะสัตว์ร้ายมันชอบออกมาหากินตอนกลางคืน
และตรงที่ชบาอยู่มันก็คือกลางป่า ซึ่งอยู่ไกลจากตัวบ้านพอสมควร เสียงใบไม้แห้งเสียงกิ่งไม้แห้งหล่นลงพื้นเหมือนกับเสียงเดินของใครบางคนเดินย่ำไปมา พร้อมกับเสียงต้นไม้ที่โยกไหวไปตามแรงลม ฟังดูแล้วมันน่าขนลุกยังไงก็ไม่รู้
มันเหมือนกับเสียงของคนกำลังคุยกันด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
พรึบ!!
"หึ้ย!" ชบาสะบัดแขนอย่างแรง เมื่อจู่ๆ ก็มีตัวอะไรก็ไม่รู้กระโดดมาเกาะที่แขนของเธอแล้วไต่ไปมา ซึ่งเธอก็ไม่รู้ด้วยว่ามันคือตัวอะไรมีพิษหรือเปล่า
เริ่มดึกบรรยากาศก็ยิ่งหนาวมากขึ้นเรื่อยๆ
ชบาไม่แม้แต่จะกล้าตะโกนออกไปเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ เพราะเธอรู้ดีว่าแถวนี้ก็มีแต่ป่าเท่านั้น เธอได้แต่นั่งกอดเข่าอยู่เงียบๆ คนเดียว
แกร้ก!!
"หึ้ย!!" เธอตกใจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเหมือนของหล่นจากด้านนอก
แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถามว่าเป็นเสียงของอะไร เพราะเธอก็เป็นเด็กชาวบ้านคนหนึ่งที่มีความเชื่อเรื่องโบราณอยู่ไม่น้อย
"ชบา...ชบา นี่พี่เองนะ พี่หาญ.."
"...." ชบาไม่ได้ขานตอบรับ แต่เธอพยายามเอียงศีรษะเพื่อฟังเสียงนั้น เพื่อให้แน่ใจว่านั่นคือคนจริงๆ
"ชบาพี่เอง พี่หาญตอบหน่อย"
"....."
"พี่รู้ว่าเรากลัว พี่เอาไฟฉายมาให้วางอยู่ตรงนี้นะ พี่เปิดไฟไม่ได้เดี๋ยวนายหัวจะเห็นว่ามีคนแอบมาตรงนี้" สักพักก็มีวัตถุบางอย่างแทรกเข้ามาทางช่องโหว่ประตู พอชบาลองเอามือไปคลำๆ ดู ก็พบว่ามันเป็นกระบอกไฟฉายเล็กๆ
เธอหยิบมันเอามากำไว้ในมือแน่น
"พี่กลับก่อนนะ พี่คงช่วยเราได้แค่นี้แหละ" สิ้นสุดเสียงของหาญ ทุกอย่างก็เงียบสงัดลงเหมือนเดิม
ชบาที่ได้ไฟฉายก็เริ่มเปิดและส่องไปรอบๆ ตัวเอง เพื่อดูว่ารอบตัวของเธอมันมีอะไรบ้าง และไอ้ตัวที่ไต่เธอเมื่อครู่มันคือตัวอะไร
สิ่งที่ชบาเห็นก็คือเป็นของเก่าๆ พวกของใช้ในบ้านตู้เสื้อผ้า เตียงนอน ของอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ได้ใช้แล้ว ถูกนำมาเก็บไว้ที่นี่หมด และแต่ละอย่างก็ถูกแมงมุมทำอยากได้ขึ้นเต็มไปหมด
พอมีแสงสว่างความกลัวที่มีอยู่ในใจก็ลดหายไปเกือบครึ่ง อย่างน้อยเธอก็มีไฟฉายพอจะเป็นแสงสว่างส่องให้เธอได้เห็นทุกอย่างในนี้
ความจริงมันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ความมืดต่างหากที่ทำให้น่ากลัว
"โอ๊ะ!?" ชบาร้องเบาๆ เมื่อมีอะไรบางอย่างกัดเข้าที่แขนของเธอ พอเธอหันกลับไปมองก็เจอกับแมงมุมตัวสีดำแดงตัวใหญ่มากๆ มันน่าจะเข้ามากัดเธอเพราะชบารุกล้ำเข้าไปในเขตพื้นที่ของมัน
ตอนนี้แขนของชบาเริ่มมีเลือดไหลออกมา และเธอก็เริ่มปวดตรงแผลที่มีเลือดไหล และมันก็หนักขึ้นเรื่อยๆก่อนที่ตัวของเธอจะทรุดนั่งลงกับพื้น
แขนที่ถูกกัดเริ่มเป็นสีแดงลามไปทั่วทั้งแขน น่าจะเกิดจากอาการพิษของแมงมุมตัวนั้น
"จะ เจ็บ โอ้ย!! ชะ ช่วยด้วย ฮึก...." ชบาพยายามที่จะส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่อาการบาดเจ็บตรงแผลมันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดจนไม่มีเสียง
เธอพยายามเปล่งเสียงอย่างเต็มที่เพื่อให้นายหัวอาชาได้ยินเสียงของเธอ เพราะเขาอยู่ใกล้เธอมากที่สุด
"นะ นายหัว ชะ ช่วยชบาด้วย ฮึก ชบาเจ็บ" สายตาของเธอเริ่มพร่ามัว ที่เกิดจากพิษของแมงมุมและน้ำตาของเธอ
ชบานั่งคิดในใจขณะที่กำลังพยายามทนต่อการเจ็บปวด แมงมุมอะไรกันทำไมถึงได้ทำให้เธอเจ็บปวดได้ขนาดนี้ เธอเองก็เคยเจอแมงมุมมาแล้วหลายครั้ง แต่เธอไม่เคยโดนมันกัดอย่างนี้มาก่อนเลย
"แม่....พ่อ...ชบา...อึก" น้ำเสียงของเธอเริ่มแผ่วลงเรื่อยๆ แขนของเธอมันไม่มีแรงแม้กระทั่งจะจับไฟฉายส่องไปรอบๆ
อยู่ๆ ก็มีภาพลอยเข้ามาในหัวของชบา เป็นภาพการใช้ชีวิตของเธอ อะไรที่ทำให้เธอมีรอยยิ้มได้ อะไรที่ทำให้เธอเสียใจ
ที่ผ่านมาเธอเองก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตของตัวเอง จนกระทั่งความสุขมันหายไปเมื่อพ่อกับแม่ของเธอพาเธอมาอยู่ที่นี่ โดยให้เธอใช้ตัวเป็นการขัดดอกรีดไถเงินจากผู้ชายที่เธอไม่แม้แต่จะเคยเห็นหน้ามาก่อน
ใครมันจะไปกล้าทำ.....
เพราะชบาเธอไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ใครต่อใครก็ไม่รู้จะพูดว่า พ่อแม่เป็นแบบไหนลูกก็จะเป็นแบบนั้น เหมือนดั่งคำสุภาษิตที่ว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
แต่ชบาเธอไม่ได้เป็นคนโลภเลย เธอไม่ได้เป็นคนเห็นแก่เงิน
"ถ้าชบาตาย...พ่อกับแม่จะเสียใจมั้ย" ตอนนี้ชบาพูดออกมาไม่เป็นเสียงแล้ว เธอทำได้เพียงขยับปากมุบมิบทั้งน้ำตา แต่ในใจของเธอรู้ดีว่าเธอกำลังพูดอะไร
"ชบารักพ่อกับแม่นะ แล้วพ่อกับแม่ล่ะรักชบาบ้างหรือเปล่า ทำไมต้องเอาชบามาทิ้งไว้ที่นี่ ทำไมชบาถึงไม่มีอิสระเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ"
ตั้งแต่อายุครบ 15 ชบาก็แทบจะไม่เคยได้ใช้ชีวิตส่วนตัวเลย เพราะในหัวของเธอมีแค่งานอย่างเดียวเท่านั้น
จนกระทั่งเรียนจบมัธยมปลายเธอก็ไม่ได้ไปเรียนต่อเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ ที่ได้ไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัย
ชบาเคยมีเพื่อนเคยเที่ยวกับเพื่อนในช่วงวัยเด็ก แต่พอเธอเริ่มโตมาเพื่อนๆ เริ่มตีตัวออกห่างจากชบา เพราะเธอไม่ค่อยจะมีเวลาให้กับเพื่อนๆ เลย
"หนะ....หนูรัก.....พ่อแม่นะ....." นี่เป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ชบาจะหลับตาลงทั้งน้ำตา และตัวเธอก็ไม่ได้สติอีกเลย
เธอพยายามทนความเจ็บปวดเพื่อรอให้เช้า แล้วจะได้มีคนเข้ามาช่วยเหลือเธอ แต่ตอนนี้เธอทนความเจ็บปวดนั้นไม่ไหวแล้ว