บทที่๑ บทนำ
คนที่ชอบแกล้งกันทุกครั้งที่เจอหน้า แต่กลับเป็นคนเดียวกับที่คอยปลอบหลังแกล้ง
“พี่มีอะไรจะให้” รุ่นพี่ในวัยสิบสองขวบพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมซ่อนของบางอย่างไว้ด้านหลัง
“อะไร” รุ่นน้องในวัยสิบขวบเอียงหัวถามอย่างไม่ไว้ใจ เพราะเขาชอบแกล้งเธอ แกล้งบ่อยจนเธอไม่อยากเล่นกับเขา
“แบมือมาก่อน”
“ไม่เอาหรอก พี่ธีร์ชอบแกล้งหนู” ยี่หวา บึนปากปฏิเสธไม่รับของจากเขา
“ไม่อยากรู้จริงดิ?” เลิกคิ้วทำหน้าผิดหวัง “ก็แล้วแต่”
ธีร์ ไหวไหล่ราวกับไม่ใส่ใจเท่าไหร่ ไม่บังคับเธอให้รับของจากเขา
“ก็ได้” แต่เด็กที่อยากรู้อยากเห็น สุดท้ายก็แพ้ทางเขาแล้วตอบรับเมื่อรุ่นพี่ตรงหน้ากำลังจะเดินหนี
“...” ธีร์ยกยิ้มให้รุ่นน้องตรงหน้า พอเธอแบมือออกมา เขาก็วางหนอนด้วงใส่ในมือเธอทันที
“อ้ากก!!” เสียงเล็กร้องด้วยความตกใจกลัวแล้วสะบัดมือจนหนอนกระเด็นตกไปไหนก็ไม่รู้ “พี่ธีร์แกล้งอีกแล้ว!”
เธอว่าให้เขาอย่างไม่พอใจ น้ำตาคลอออกมาจะร้องไห้
“ฮ่า ๆ ๆ” แต่คนทำกลับหัวเราะอย่างขบขันกับสีหน้าของเธอ “ขอโทษ ๆ”
ไม่นานก็ก้าวเข้ามาลูบหัวรุ่นน้องตรงหน้าแล้วขอโทษออกมา
“หนูไม่อยากเล่นกับพี่ธีร์แล้ว!” เธอว่าให้เขาอย่างจริงจัง
แต่กี่รอบแล้วนะที่พูดคำนี้
“แกล้งน้องมาก ๆ เดี๋ยวโตขึ้นให้แต่งงานกับน้องนะ” ป้าสำรวยแม่ของธีร์พูดขึ้นกับสิ่งที่เห็นบ่อย ๆ
“ไม่เอาหรอก เด็กมอมแมมแบบนี้” ธีร์ปฏิเสธออกมาอย่างไม่เสียเวลาคิด
แต่
“หนูจะแต่งงานกับพี่ธีร์!” เสียงใสดังขึ้นอย่างเจื้อยแจ้วทันที น้ำตาคลอก่อนหน้านี้กลับมาพร้อมรอยยิ้มแฉ่งอย่างน่ารัก
“แก่แดดจริง ๆ เลยเอ็งนี่” น้าเพ็ญว่าให้ลูกสาวตัวน้อยอย่างไม่จริงจัง
“ป้ารวยพูดแล้ว พี่ธีร์ต้องแต่งงานกับหนูนะ” เด็กตัวเล็กรีบขยับเข้าไปใกล้รุ่นพี่แล้วพูดขึ้นอย่างจริงจัง
รู้ว่าแต่งงานคืออะไร แต่ก็ไม่ได้เข้าใจความหมายของการแต่งงานทุกอย่าง
แต่ที่เธออยากแต่งงานกับธีร์ เพราะจะได้อยู่กับพี่ชายคนนี้ตลอดไป ถึงเขาจะชอบแกล้งเธอ แต่เขาก็ใจดีกับเธอมากด้วยเหมือนกัน
“ไม่เอาหรอก พี่ไม่ชอบเด็กขี้เหร่แบบเอ็ง” พูดด้วยท่าทางขยาดแล้วรีบเดินหนีไปทันที
“ดูปากมัน” ป้าสำรวยได้แต่ส่ายหัวให้กับความปากไวของลูกชาย
ส่วนเด็กหญิงยี่หวากลับวิ่งตามพี่ชายที่เล่นด้วยกันบ่อย ๆ ไปอย่างไม่ยอม
“หนูไม่ได้ขี้เหร่ มีแต่คนบอกว่าหนูน่ารัก” เธอพูดไล่หลังระหว่างวิ่งตามเขาไม่หยุด
“คนอื่นเขาโกหกไง” คนตอบโต้ไม่ได้หยุดเดินหนี
“ป้ารวยก็บอกว่าหนูน่ารัก” งั้นแปลว่าแม่เขาก็โกหกเหรอ
“แม่พี่ก็โกหกนั่นแหละ ขืนบอกว่าเอ็งขี้เหร่เดี๋ยวร้องไห้ขี้มูกโป่งยิ่งขี้เหร่”
“หนูไม่เชื่อหรอก!” เพราะไม่เคยมีใครว่าเธอขี้เหร่ คนเดียวที่พูดมีแค่เขาคนที่ชอบแกล้ง
งั้นก็แปลว่าเขายังคงแกล้งเธอ
“ไม่เชื่อก็ช่าง แต่พี่ไม่มีวันแต่งงานกับเอ็งแน่นอน!” หันกลับมาประกาศชัดแล้วยักคิ้วใส่อย่างกวนเด็กน้อยตรงหน้า
“คอยดูนะ ถ้าหนูไม่เล่นกับพี่เมื่อไหร่ พี่จะต้องเสียใจ!”
หลายปีต่อมา
“ว่าไงลูกสะใภ้”
“ป้ารวยอ่ะ” เสียงกระเง้ากระงอดดังขึ้นเมื่อป้าตรงหน้าเอาแต่เรียกเธอแบบนี้มาตลอด “แม่ให้เอาปลามาฝากจ้ะ”
ยื่นถุงใส่ปลาที่พ่อเธอออกไปใส่เบ็ดมาให้กับป้าสำรวย เจ้าของที่นาที่พ่อกับแม่เธอเช่าทำมานานหลายสิบปี และนี่ก็เป็นหนึ่งเหตุผลที่เธอกับธีร์สนิทกันตั้งแต่ตอนเด็กจนโต
“ว่าไงคนขี้เหร่” เสียงทักทายของธีร์ที่เดินออกจากบ้านมาเห็นรุ่นน้องเข้าพอดี
“ไม่ว่าไงหรอก คนขี้เหร่กว่า!” ยอกย้อนกลับไปอย่างหมั่นไส้
เจอหน้ากันก็ชอบว่าเธอ แกล้งเธอ แต่ก็ยุ่งเรื่องของเธอไปตลอด
“ปากแบบนี้เดี๋ยวสาวก็ทิ้งกันพอดี” ป้าสำรวยหันไปว่าให้ลูกชายตัวเองอย่างเหนื่อยใจ
“สาวธีร์เยอะแยะ” ไหวไหล่ตอบอย่างมั่นหน้า แต่ใครโกหกล่ะ ไม่เชื่อถามเด็กขี้เหร่ตรงหน้าดูสิ
“ลูกสะใภ้แม่มีคนเดียว จองไว้ให้แล้ว” ยกยิ้มใส่ลูกชายอย่างหมั่นไส้ ยิ่งอีกฝ่ายต่อต้านยิ่งสนุกกับการยัดเยียด
“ไม่เอาหรอก แค่คิดก็ขนลุกแล้ว” มองสำรวจคนตรงหน้าแล้วทำท่าทางขนลุกขนชัน
“ถามหนูก่อนไหม” แหมท่าทางสะดีดสะดิ้งเหมือนหล่อตายแหละ “หนูกลับแล้วนะจ๊ะ ไม่อยากเห็นหน้าคนหลงตัวเอง!”
หันไปบอกป้าสำรวยแล้วยกมือไหว้เดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซต์เพื่อกลับบ้านของตัวเอง
แต่กลับบิดไม่ออก
“พี่ธีร์!” พอหันไปสำรวจว่ารถเป็นอะไร ก็เห็นไอ้พี่บ้ามันดึงท้ายรถของเธออยู่
“ฮ่า ๆ ๆ” หัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งเธอไม่เปลี่ยน แม้ว่าตอนนี้เขาและเธอจะอยู่มัธยมปลายกันแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนไปเลย