bc

Heart Rate จังหวะหัวใจยัยจอมจุ้น!

book_age18+
296
ติดตาม
2.0K
อ่าน
ครอบครัว
จบสุข
รักต่างวัย
มาเฟีย
ผู้สืบทอด
คนใช้แรงงาน
หวาน
เบาสมอง
สาสมใจ
ปิ๊งรักวัยเด็ก
like
intro-logo
คำนิยม

ในวันที่ฉันต้องเผชิญกับความสูญเสีย จนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อและกำลังคิดหาวิธีจบชีวิตตัวเอง ทว่าคำพูดของผู้ชายคนหนึ่งกลับทำให้ฉันได้สติ ...ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดของเขาในวันนั้น ฉันก็คงไม่เจอความรักดี ๆ ในวันนี้

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
Ep.1
Ep.1 ณ ชุมชนแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพมหานคร “ไฟไหม้! ทุกคนไฟไหม้! ไฟไหม้บ้านยายศรี!!” เสียงร้องตะโกนของหญิงวัยกลางคนดังขึ้น ทำให้ผู้คนในชุมชนแตกตื่น รีบหอบข้าวหอบของมีค่า และวิ่งออกจากบ้านตัวเองไปอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นไม่นานก็เสียงไซเรนของรถดังเพลิงก็ดังสะนั่นไปทั่วเมือง สลับกับเสียงไซเรนของรถพยาบาล เกิดความวุ่นวายขึ้น ทุกคนต่างวิ่งหนีเอาตัวรอด หอบข้าวของพะรุงพะรัง เพลิงไหม้ยังคงลุกลามและขยายเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีท่าทีว่าจะสงบลงง่ายๆ ด้วยความที่อาคารบ้านเรือนที่อยู่ในชุมชนแห่งนี้ ส่วนมากจะเป็นบ้านที่ทำจากไม้ เลยทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว และยากจะควบคุม “เกิดอะไรขึ้นเหรอจ๊ะป้าแก้ว” หญิงสาววัยมัธยมคนหนึ่งที่เพิ่งกลับมาจากทำงานพาร์ตไทม์ เอ่ยถามคนที่กำลังวิ่งออกมาจากชุมชนด้วยความสงสัย คนที่ถูกถามหยุดวิ่งพร้อมกับหายใจหอบด้วยความเหนื่อย และเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ถาม “อีเปรี้ยว!” “จ้ะป้า เปรี้ยวเอง ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นเหรอจ๊ะป้า ทำไมทุกวันวิ่งกัน หนีอะไรกันเหรอ” เปรี้ยวพยักหน้ารับ ก่อนจะถามและหันไปมองรอบๆ อย่างไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ “ไฟไหม้!...แฮ่กๆ” “จ๊ะ ? ไฟไหม้ที่ไหนอะป้า” หญิงสาวหน้าตาตื่นและรีบถามต่อทันที “ไฟไหม้บ้านมึง เพราะบ้านมึง ทุกคนถึงได้วุ่นวายกันแบบนี้!” “!!!” หญิงสาวไม่ได้สนใจที่จะฟังคำต่อว่าใดๆ เพราะทันทีที่เธอรู้ว่าไฟไหม้บ้านเธอหัวใจเธอก็หล่นวูบลงทันที “มึงต้องรับผิดชอบอีเปรี้ยว มึงทำพวกกูเสียหาย” “ยาย...ยาย!!” ทันทีที่ได้สติ หญิงสาวก็ตะโกนขึ้นพร้อมกับทิ้งของทุกอย่างในมือลงพื้น และวิ่งตรงไปที่บ้านของตัวเอง “พี่เปรี้ยว! อย่าเข้าไป มันอันตราย พี่เปรี้ยว!” นนท์ เด็กหนุ่มที่วิ่งสวนออกมาพอดีรีบตะโกนขึ้นเมื่อเห็นว่าเปรี้ยววิ่งสวนเข้าไป พร้อมเตรียมจะวิ่งตามเข้าไป แต่ก็ถูกพ่อที่วิ่งตามมาดึงตัวเองไว้ก่อน เปรี้ยววิ่งเข้ามาในชุมชุน ยังไม่ถึงบ้านตัวเอง แต่ก็ไปต่อไม่ได้ เพราะทางข้างหน้าถูกไฟไหม้หมดแล้ว เธอจึงหันไปมองรอบๆ พร้อมกับกู่วิ่งเข้าไปถามคนที่อยู่ละแวกนั้นแทน “ยาย!! ยายอยู่ไหน เห็นยายเปรี้ยวออกมาหรือยัง ?” แต่คำตอบที่เธอได้นั้นกลับไม่เป็นดังใจ เพราะทุกคนที่เธอถามต่างตอบแบบเดียวกันว่า... “ไม่เห็น” “ไม่รู้” “ไม่ได้สังเกต” “น่าจะยังไม่ได้ออกมานะ” และพอคำตอบไม่ได้ทำตอบที่ดี เธอจึงตัดสินใจถอดเสื้อแขนยาวตัวเองออก แล้วเอาไปจุ่มลงที่อ่างปลาที่อยู่แถวนั้น เพื่อที่จะใช้คลุมตัวเองฝ่ากองไฟเข้าไปช่วยยายออกมา ยายสำคัญกับเธอมาก ทั้งชีวิตเธอเหลือแค่ยายคนเดียวที่เป็นที่พึ่ง ยังไงเธอก็ต้องช่วยยายให้ได้ เพราะถ้ายายจากไป เธอก็ไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไรแล้วเหมือนกัน หมับ!! ในขณะที่เธอกำลังจะวิ่งเข้าไปนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่วิ่งเข้ามาคว้าตัวเธอเอาไว้เสียก่อน “เข้าไปไม่ได้นะครับ ข้างในไหม้หมดแล้ว เข้าไปไม่ได้ครับ อันตราย” “ปล่อย! เปรี้ยวจะเข้าไป ยายเปรี้ยวอยู่ข้างใน ฮือๆๆ ยายจ๋า” “ยังไงก็เข้าไม่ได้ครับ” “ยาย! ยายเปรี้ยวยังไม่ได้ออกมา เปรี้ยวจะไปช่วยยาย!” “ช่วยไม่ได้แล้วครับ ตอนนี้เพลิงลุกไหม้ไปทั่วแล้ว ทำใจเถอะครับ” ให้ทำใจงั้นเหรอ ? พูดออกมาได้ เฮงซวย!! “ฮรืออๆๆ” หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งร้องไห้อย่างหมดแรง และหมดหนทาง เมื่อรู้ว่าตัวเองเข้าไปไม่ได้ เพราะไม่ว่าเธอจะทำยังไง เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอมให้เธอเข้าไปเลย “...” เจ้าหน้าที่หนุ่มได้แต่ยืนมองเธอด้วยความเห็นใจ เพราะเขาเองก็ไม่รู้จะช่วยเธอยังไงเหมือนกัน “ฮือๆ ยายจ๋า เปรี้ยวขอโทษ ฮือๆๆ เปรี้ยวรักยายนะ” และนั่นก็เป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่สติของหญิงสาวจะดับวูบไป... ณ โรงพยาบาล “ไหน! ไหนวะ! อีเปรี้ยวมันอยู่ไหน มันต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น” “ไหม้บ้านมันหลังเดียวยังไม่พอ มันลามมาถึงบ้านกูด้วย เพราะบ้านมันหลังเดียว!” “อีเปรี้ยว! มึงอยู่ไหน” “ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย!” เสียงเอะอะโวยวายที่ดังมาจากหน้าห้องฉุกเฉิน เปรี้ยวที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาจึงค่อยๆ พลิกตัวไปอีกทางพร้อมกับหลับตาลงช้า ปล่อยให้น้ำตามันไหลลงมาอย่างไม่รู้จะทำยังไง อีกอย่างเรื่องยายเธอก็ยังช็อก ยังทำใจไม่ได้ เพราะตั้งแต่เธอจำความได้ ในความทรงจำของเธอก็มีแค่ยายเพียงคนเดียว ถ้าเธอไม่มียาย เธอก็ไม่เหลือใครแล้วจริงๆ ‘เปรี้ยว!’ ‘จ๋ายาย’ ‘มากินข้าว แล้วรีบไปอาบน้ำนอน พรุ่งนี้เอ็งต้องไปโรงเรียน’ ‘โหยาย เปรี้ยวไม่ไปไม่ได้เหรอ ขี้เกียจอะ’ ‘ไม่ได้! เดี๋ยวเถอะ! เอ็งนิ ยิ่งโตยิ่งขี้เกียจ ใช้ไม่ได้จริงๆ’ ‘ถึงจะขี้เกียจ แต่เปรี้ยวรักยายนะ’ ‘เดี๋ยวจะโดนตี มัวแต่เล่น ไปอาบน้ำได้แล้ว’ ในขณะที่เธอกำลังนอนหลับตาร้องไห้อยู่นั้น ความทรงจำต่างๆ ที่เกี่ยวกับยายก็หลั่งไหลเข้ามาในหัว ยิ่งเป็นการตอกย้ำเธอ และยิ่งทำให้เธอร้องไห้หนักกว่าเดิม “คนไข้มีแค่นี้ใช่มั้ย ?” “ค่ะ อ้อ! มีอีกหนึ่งคนค่ะ เธอเป็นลม แต่ตอนนี้เธอน่าจะฟื้นแล้ว” “อืม งั้นเคสนี้ไปเรียกนักศึกษาแพทย์ที่อยู่เวรมาตรวจแทนละกัน ผมขอไปพักก่อน” “ค่ะ คุณหมอ” เสียงคุณหมอและพยาบาลคุยกันอยู่หลังม่านเงียบไป สักพักก็มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้เตียงที่เปรี้ยวนอนอยู่ ก่อนที่ม่านกั้นเตียงจะถูกเปิดออก “สวัสดีค่ะคนไข้ ชื่ออะไรคะ ?” พยาบาลสาวเอ่ยถามเปรี้ยวที่ยังนอนหันหลังให้ “…” เงียบ “คุณคะ คุณหมอมาตรวจค่ะ” “…ฮึก!T^T” พยาบาลสาวหันไปหานักศึกษาแพทย์หนุ่ม อย่างขอคำปรึกษา เมื่ออยู่คนไข้ก็ส่งเสียงสะอื้นออกมาอย่างหนัก “พี่ไปดูคนไข้คนอื่นเถอะครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง” นักศึกษาแพทย์หนุ่มเห็นคนไข้อาการไม่ค่อยดี และดูท่าแล้วน่าจะค่อนข้างใช้เวลา ก็เลยหันไปบอกพยาบาลให้ไปดูแลคนไข้คนอื่น ก่อนที่พยาบาลจะหมุนตัวเดินออกไป นศ.แพทย์หนุ่มดึงเก้าอี้ที่อยู่บริเวณนั้นมา แล้วนั่งลงข้างๆ เตียงผู้ป่วยก่อนจะพูดขึ้น “ไหน มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ บอกหมอหน่อยได้ไหม” นศ.แพทย์เอ่ยถามพร้อมกับปรับสายน้ำเกลือและเช็กค่าต่างๆ ไปด้วย “…” แต่เปรี้ยวก็ยังเงียบ และยังร้องไห้อยู่ “มีอะไรปรึกษาหมอคุยกับหมอได้นะ ความตายไม่ใช่ทางออกของทุกเรื่องเสมอไปหรอกนะ” “ฮึก!” เปรี้ยวหยุดนิ่งไปสักพัก เธอรู้สึกแปลกใจ ว่าหมอรู้ความคิดของเธอได้ยังไง เพราะที่เธอเงียบ เธอกำลังคิดจะฆ่าตัวตาย เธอไม่รู้จะอยู่ไปทำไม อยู่ไปก็ไม่เหลือใคร “ทุกปัญหามันมีทางออก ค่อยๆ แก้ไปทีละอย่าง หมอเชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้” “หมอไม่มาเป็นฉันหมอไม่รู้หรอก ฮึก!” เปรี้ยวพูดขึ้นแต่ยังไม่ยอมหันไปมองหน้าหมอ “งั้นก็แย่หน่อยนะ เพราะหมอก็ไม่รู้จริงๆ นั่นแหละ” “…” “แต่หมออยากให้เราลองคิดดูดีๆ นะ มีคนอีกตั้งมากมายที่พยายามไขว่ขว้าเพื่อมีชีวิตรอด บางคนลำบากกว่าเรา เจอเรื่องราวหนักหนาสาหัสมากกว่าเรา เป็นร้อยเท่าพันเท่า พวกเขายังสู้เลย...แล้วเราล่ะ จะไม่สู้หน่อยเหรอ ? เพิ่งอายุเท่าไหร่เอง” “แต่ฉันไม่เหลือใครแล้วนะหมอ อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ฮึก!” “...” “ถึงอยู่ไปก็ไม่รู้จะสู้เพื่อใครแล้ว ยายไม่อยู่กับฉันแล้วหมอ ฮือๆๆ” พูดจบเปรี้ยวก็ปล่อยโฮออกมา เมื่อเธอหวนนึกถึงยายขึ้นมาอีกครั้ง เพราะที่เธอทั้งเรียนทั้งทำงานพาร์ตไทม์อยู่ทุกกวันนี้ก็เพราะว่า เธอต้องคอยเลี้ยงดูยาย ยายอายุเยอะแล้วไม่สามารถออกไปทำงานได้ จะมีก็แต่รับจ้างปลอกกระเทียมที่รับมาทำที่บ้านก็เท่านั้น รายได้ก็ไม่กี่ร้อย บางวันก็ไม่มีมาเลยด้วยซ้ำ “ก็สู้เพื่อคนที่จากไปไง ทำให้ยายรู้ว่าเราเข้มแข็ง ทำให้ยายภูมิใจในตัวเรา หมอเชื่อว่าถึงยายจะไม่อยู่กับเราแล้ว แต่ยายก็ยังเฝ้ารอดูวันที่เราประสบความสำเร็จอยู่นะ” “…” คำพูดของหมอทำให้เปรี้ยวนิ่งไป และคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่ยายเคยกล่าว เคยสอนเอาไว้ ‘ตั้งใจเรียน จบมาจะได้สบายๆ มีการมีงานดีๆ ทำ’ ‘เปรี้ยวของยายเก่งที่สุด’ ‘อย่าท้อนะลูก ยายเชื่อว่าเปรี้ยวไปได้ไกลกว่านี้’ “ฮึก!! ฮือๆๆๆๆ” “หมอจะให้เรานอนพักนะ ร่างกายเราไม่มีอะไรผิดปกติ ถ้าน้ำเกลือหมดเราก็กลับบ้านได้ หรือถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรติดต่อพยาบาลที่เคาน์เตอร์ได้ตลอด หมอไปก่อนนะ” “…”

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
10.4K
bc

พะยอมอธิษฐาน

read
2.3K
bc

วิญญาณตามรัก

read
1K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
15.8K
bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
7.3K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
1.9K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook