17.19 น.
เอี๊ยด...
"พ่อ...?"
เสียงของฉันดังขึ้นด้วยความประหลาดใจขณะที่ก้าวลงจากจักรยานก่อนจะวิ่งเข้าไปภายในบ้านชั้นเดียวของฉันที่มีพ่ออยู่ในนั้นทันทีที่เห็นรถยนต์คันใหญ่อยู่หน้าบ้าน
"พ่อคะ!"
"ข้าว!"
พรึ่บ!
ฉันยิ้มกว้างออกมาทันทีพร้อมกับกอดพ่อตัวเองแน่นด้วยความคิดถึง พ่อกอดตอบพร้อมกับกดจูบลงที่หน้าผากฉันทีนึง เรากอดกันนานนับนาทีก่อนที่ฉันจะละตัวเองออกจากพ่อและมองเขาด้วยความคิดถึง
"ทำไมพ่อดูซูบลงอีกแล้ว ข้าวบอกให้ทานเยอะๆ ไงคะ และนี่พ่อจะมาอยู่บ้านกี่วันข้าวคิดถึงพ่อสุดๆ เลย!"
"ทีละคำถามสิตัวเล็ก ถามซะพ่อไม่รู้ว่าจะตอบคำถามไหนก่อนแล้ว"
"ก็ข้าวคิดถึงพ่ออ่ะ เดียวพ่อมานั่งก่อนนะข้าวจะเอาน้ำให้ดื่ม"
"พ่อดื่มแล้วลูก...แล้วก็กำลังจะไป"
มือฉันที่กำลังจะวางกระเป๋าลงที่โซฟาชะงักไปทันทีที่พ่อพูดขึ้นมาแบบนั้น เขามองมาที่ฉันด้วยสายตาหนักใจอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะเดินมาหาฉันที่ยืนอยู่
"พ่อขอโทษจริงๆ นะข้าวที่อยู่กับลูกไม่ได้นาน..."
"พ่อยังไม่ได้พักเลยไม่ใช่เหรอคะ?"
"ก็ใช่...แต่พ่อต้องส่งของอีกเยอะเลย"
"ปะ...ปกติพ่อจะได้พักอยู่หนิ พ่อไม่เหนื่อยรึไง?"
ฉันว่าขึ้นอย่างไม่เข้าใจพร้อมกับมองพ่อด้วยความเป็นห่วง อะไรกันพ่อฉันออกไปทำงานเกือบจะสามเดือนแต่ได้กลับมาบ้านไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำแล้วเขาก็ต้องออกไปทำงานอีกเนี่ยนะ!?
พรึบ...
"ข้าว พ่อรู้ว่าหนูเป็นห่วง...แต่หนูก็รู้ว่าพ่อต้องรีบใช้หนี้ของเราให้หมดก่อน"
"..."
"พ่อขอโทษจริงๆ"
"ข้าวเข้าใจค่ะ...พ่อไม่ต้องขอโทษหรอก"
ฉันจับมือของพ่อที่จับมือฉันไว้หลังได้ยินเขาว่าขึ้นด้วยน้ำเสียงที่กำลังรู้สึกผิด ฉันพยายามยิ้มออกมาก่อนจะปล่อยมือออกจากพ่อและเดินไปที่ตู้เย็นทันทีที่นึกได้ว่าทำของกินไว้
"พ่อรอแป๊บนึงนะคะข้าวจะเตรียมอาหารไว้ให้กินตอนไปส่งของ"
"อืม ขอบคุณนะลูก"
ฉันยิ้มออกมาบางๆ และเริ่มห่ออาหารของให้พ่ออย่างคล่องแคล่ว พ่อฉันทำงานเป็นคนขับเรือส่งของน่ะ...และการส่งของแต่ละทีต้องใช้เวลาหลายเดือนถึงจะเสร็จกว่าพ่อจะไปครบทุกเกาะ ซึ่งฉันก็เข้าใจแต่ฉันเป็นห่วงพ่อมากกว่าฉันกลัวว่าพ่อจะป่วยเอาที่ต้องออกทะเลบ่อยขนาดนี้
"อีกนานไหมคะพ่อถึงจะกลับ?"
"ครั้งนี้น่าจะประมาณสองเดือนนะ...คงไม่ทันวันเกิดหนูแน่ๆ เลย"
ริมฝีปากฉันเม้มเข้าหากันแน่นขณะที่มือตัวเองก็กำลังเอากล่องอาหารมาจัดไว้ที่รถให้พ่อ ฉันยิ้มออกมาเหมือนไม่ได้อะไรกับการที่พ่อจะมาไม่ทันวันเกิด
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่พ่อกลับมาก็พอแล้ว"
"..."
"ดูแลตัวเองดีๆ นะคะอย่าป่วยล่ะ แล้วก็โทรหาหนูบ่อยๆ ด้วยเข้าใจไหม?"
"จ้า ถ้าสัญญาณมันมีน่ะนะ"
ฉันมองค้อนพ่ออย่างไม่พอใจจนมันทำให้เขาหัวเราะออกมาเบาๆ และดึงฉันเข้าไปกอดไว้อีกครั้ง
"ล้อเล่นน่า...หนูก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะตั้งใจเรียนด้วยเข้าใจไหม?"
"ค่ะ เข้าใจแล้ว"
"อ่ะนี่เอาไว้ใช้"
"ข้าวบอกแล้วไงว่า..."
พรึบ!
"พ่อ!"
"เอาไว้ใช้เถอะน่า ซื้อชุดสวยๆ มาใส่บ้างพ่ออยากเห็นหนูแต่งตัวน่ารักๆ"
ฉันก้มมองเงินที่พ่อยัดใส่ในมือตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมกับพยักหน้าตอบท่านไปช้าๆ พ่อยกมือลูบผมฉัน ก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถกระบะคันใหญ่ของตัวเอง
"อ่อ..."
"อะไรคะ?"
"ถ้าพวกนั้นมาอีกรีบโทรแจ้งตำรวจเลยนะ ไม่ก็หนีอย่าให้พวกมันเจอหนูได้ล่ะ"
"ค่ะ หนูรู้แล้ว"
"พ่อไปก่อนนะ"
"ค่ะ...ข้าวรักพ่อนะ"
"พ่อก็รักหนู ไว้เจอกันนะ"
ฉันพยักหน้าตอบพ่อพร้อมกับเขาที่ขึ้นไปนั่งบนรถและปิดประตู ฉันเงยหน้ามองพ่อตัวเองก่อนจะยกมือโบกไปมาช้าๆ และยิ้มออกมาบางๆ พ่อยิ้มให้ฉันอีกครั้งก่อนจะขับรถออกไปจากหน้าบ้าน พร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆ ไหลลงมาจากดวงตาฉัน
พรึบ
มือของฉันยกขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองทันทีขณะที่สายตาตัวเองก็มองรถของพ่อที่ขับออกไปจนลับสายตา...ไม่เคยชินเลยเวลาที่ต้องมาส่งพ่อไปทำงานแบบนี้ แถมไปทีก็เป็นเดือนๆ แต่จะทำไงได้พ่อก็ต้องหาเงินมาใช้หนี้ที่เขาไปกู้เขามาเพื่อลงทุน แต่เพื่อนพ่อกลับหักหลังเลยทำให้พ่อต้องล้มละลายแถมหนี้อีกเป็นล้าน
"เฮ้อ.."
เสียงถอนหายใจของฉันดังขึ้น ก่อนที่ฉันจะเดินเข้าบ้านเพื่อไปเตรียมตัวไปทำงานต่อ ก็เพราะอย่างงี้แหละฉันถึงต้องทำงานเยอะๆ อย่างน้อยมันก็ได้ช่วยพ่ออีกทาง...
01.05 น.
"ข้าวเอาขยะไปทิ้งที"
"ค่ะ"
ฉันที่เพิ่งจะเดินเข้ามาหลังร้านรับคำพี่ที่ทำงานทันทีที่เธอว่าขึ้นแบบนั้นและเดินไปจัดการถุงขยะที่ตั้งอยู่ก่อนจะถือพวกมันออกมาหลังร้านที่เป็นซอกตึกสูงนับสิบชั้น...มันค่อนข้างจะเปลี่ยวแต่เพราะฉันชินแล้วฉันถึงไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่นัก ฉันลากถุงขยะใบใหญ่ไปที่ถังขยะใหญ่ที่อยู่ห่างจากหลังร้านไปไม่มากนักอย่างทุลักทุเล
ตุบ!
"เฮ้อ...เสร็จสักที"
ฉันปัดมือตัวเองไปมาอย่างเพลียๆ หลังจากที่เอาขยะทิ้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องยอมรับจริงๆ แหละว่างานนี่มันค่อนข้างจะเหนื่อยแต่หากคิดถึงค่าแรงที่จะได้...มันก็คุ้มในระดับนึงเลยล่ะนะ
"น้องพนักงานคนสวย"
ฟึ้บ!
ดวงตาฉันเบิกกว้างทันทีที่หันกลับมาเจอผู้ชายสามสี่คนยืนตีวงเข้าหาฉันอยู่ และหนึ่งในนั้นก็เดินออกมาตรงกลางนั้นทำให้ฉันได้เห็นหน้าเขาชัดๆ ซึ่งนั้นทำให้ฉันเบิกตากว้างมากขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาเป็นใคร
"มีลูกสาวสวยก็น่าจะบอกกันบ้าง...บางครั้งเราอาจจะคุยเรื่องธุรกิจของเราง่ายขึ้นพวกแกว่าไหม?"
"ครับท่าน"
"มาคุยกันหน่อยไหม...ฉันอยากจะคุยอะไรด้วยหน่อย"
ริมฝีปากฉันเม้มเข้าหากันแน่นพร้อมกับมือตัวเองที่กำเข้าหากันอย่างวิตก ฉันมองคนตรงหน้าที่อยู่ในชุดสูทสีดำน่ากลัวตรงหน้าด้วยแววตาที่กำลังกลัวอย่างเห็นได้ชัดแต่จะให้วิ่งหนี...ฉันก็คงจะไปไหนไม่รอดเพราะลูกน้องเขาที่ยืนรอบฉันอยู่ แล้วฉันจะทำยังไงได้นอกจากเดินไปตามพวกเขาแต่โดยดี..
(เจ้าสมุทร)
พรึบ
"บัญชีของวันนี้ครับ"
"วันนี้ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?"
"ครับ เรียบร้อยดี"
"อืม กลับเถอะครับ"
"สวัสดีครับ"
ผมพยักหน้าตอบกลับผู้จัดการคิม ก่อนจะหยิบสมุดบัญชีของร้านขึ้นมาดูขณะที่เขาก็เดินออกจากห้องผมไป วันนี้ผมเพิ่งกลับมาที่ร้านเพราะไปงานเลี้ยงบริษัทพ่อมา...ใจจริงก็ไม่อยากจะไปแต่ตาแก่นั้นรบเร้าจนน่ารำคาญ ตาแก่ที่ว่าก็พ่อผมนั่นแหละยิ่งแก่ยิ่งขี้บ่นบ่นได้บ่นดี
"ให้ตาย"
พรึบ!
ลืมกุญแจรถอีกกู ผมส่ายหน้าไปมาอย่างเซ็งๆ ขณะที่ลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งอยู่และเดินออกมาจากห้องที่ผมอยู่อีกครั้ง...ผมนอนที่ร้านทุกวันจะมีบ้างที่กลับนอนบ้านแต่ส่วนมากก็มักจะนอนที่คลับมากกว่าน่ะนะมันค่อนข้างจะส่วนตัวดี
"จะไปไหนเหรอครับ?"
"ผมลืมกุญแจน่ะไม่มีอะไรหรอก"
"อ่อครับ"
ผู้จัดการคิมยิ้มให้ผมนิดๆ ก่อนที่เขาจะหันไปเตรียมตัวกลับผมจึงมองไปทั่วร้านเพื่อดูความเรียบร้อยอีกครั้ง ตอนนี้ร้านปิดแล้วและพนักงานกำลังจะกลับกัน ผมพยักหน้าให้พนักงานบางคนที่หันมาก้มหัวลาตามมารยาทก่อนจะเดินไปที่หลังร้านที่จอดรถของผม
เพียะ!!
"อึ่ก!"
"ปากดีนักมันก็ต้องเจอแบบนี้ล่ะอีหนู!"
"ไอ้ชั่ว!"
เพียะ!!!
"เอามันไปขึ้นรถ!"
มือของผมที่กำลังหยิบกุญแจมาเก็บชะงักไปนิด เมื่อได้ยินเสียงที่ดังมาจากซอกตึกอีกมุมซึ่งตรงนั้นถ้าผมจำไม่ผิดมันเป็นตรงหลังร้านของผมที่เป็นคลับ ส่วนผมอยู่อีกทางที่เยื้องกัน...และซอกตึกนี้มันเงียบมากจนพอจะรู้ว่าเสียงเมื่อกี้นั้นมันคือเสียงของคนที่โดนตบหน้า ถึงสองครั้งเชียวนะ
พรึบ
ผมออกมายืนมองไปที่รถตู้สีดำคันใหญ่ที่จอดอยู่อีกฝั่งด้วยสายตานิ่งเรียบขณะที่ตรงนั้นก็มีชายร่างสูงในชุดสูทอีกสองคนกำลังล็อกแขนผู้หญิงตัวเล็กกว่าตัวเองมากไปทางรถที่จอดอยู่
"มะไม่ๆ ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ปล่อยฉันนะ!!"
"ก็บอกว่าอยู่เฉยๆ ไงนังนี่อยากตายรึไง!"
"ไม่ฉันไม่ไป!!"
พรึ่บ!
มันใช่เรื่องของผมไหมวะ...ผมไม่อยากจะไปยุ่งเท่าไหร่ ผมมองเธอที่กำลังดิ้นไปมาอย่างน่าสงสารด้วยสายตาที่ยังคงนิ่งอยู่ก่อนที่ผมจะเดินกลับเข้ามาที่หลังร้านของตัวเองอีกครั้ง มันไม่ใช่เรื่องของผมหนิ
"ชะช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยฉันที!!"
ผวัะ!!
"อึ่ก!"
"กูบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าปากดี!"
ให้ตาย...
พรึ่บ! พลั่ก!!
"อ๊าก!!"
"ใครวะ!?"
"ไง"
พลั่ก!!
เสียงหมัดของผมที่เข้าไปเต็มๆ ท้องมันดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงของชายชุดสูทที่ตัวงอไปทันทีก่อนที่มันจะล้มลงไปกับพื้นเป็นเพื่อนกับเพื่อนมันอีกคนหลังผมถีบมันเต็มแรง มือของผมดึงร่างบางที่เกือบจะล้มเข้ามาแนบอกก่อนจะพบว่าเธอสลบไปแล้ว...หน้าคุ้นๆ แฮะ
"ไปจัดการมันสิวะ!!"
"มึง!"
ผวัะ!
ใบหน้าผมหันตามแรงต่อยของมันทันทีที่ผมเผลอมองเธอนานไปหน่อย ผมหลบไปอีกทางและวางร่างที่ไร้สติลงไปนั่งอิงพนังตึกก่อนจะหันมาทางไอ้เมื่อกี้อีกครั้ง ผมเหยียดยิ้มออกมาช้าๆ พร้อมกับวิ่งเข้าหามันกระโดดถีบจนมันเสียหลักล้มผมจึงใช้เท้าเหยียบข้อมือมันไว้
พรึ่บ!
"เมื่อกี้มึงใช้มือไหนต่อยกู...มือนี้??"
กึ่ก!!
"อ๊ากกกก"
เสียงร้องของชายชุดสูทดังขึ้นลั่นซอยเมื่อผมกระทืบข้อมือมันจนหักอย่างไม่มีความปรานีก่อนที่ผมจะเหยียบอกมันไว้และเหลือบมองคนที่น่าจะเป็นหัวหน้าใหญ่ของมัน เขาที่นั่งอยู่บนรถมองมาที่ผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกลัวอย่างปิดไม่มิด
"มึง มึงเป็นใคร!!?"
"สำคัญด้วยรึไง?"
"อย่ามายุ่งกับกูถ้ามึงไม่อยากตาย!"
"สู้ผมทำให้คุณตายก่อนไม่ดีกว่าเหรอ...คุณจะได้ไม่วกมาฆ่าผมได้น่ะ"
"อึ่ก...!"
ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะยกเท้าออกจากลูกน้องเขาที่นอนอยู่ และถอยออกมาเพื่อให้เพื่อนอีกสองคนของมันมาพยุงมาออกไปให้พ้นทาง
"ว่าแต่จะพาเธอไปไหนเหรอ?"
"ไม่ใช่เรื่องของมึง!"
"เธอเป็นพนักงานร้านผม ผมก็ต้องถามเป็นธรรมดา"
"มึงเป็นเจ้าของคลับนี้!?"
"ครับว่างๆ ก็มาเที่ยวได้นะ แต่คลับผมคัดคนน่ะสิคนอย่างพวกคุณคงไม่ได้เข้ากันแน่"
"หึ...ที่แท้ก็พวกคนรวย"
"รวยสิถึงเปิดคลับได้"
"อย่ามาปากดีนะไอ้หนู"
"อย่านอกเรื่องครับลุง ตกลงมีอะไรกับเธอ?"
ผมกลับเข้าเรื่องทันทีที่ไอ้แก่ตรงหน้ามันเริ่มจะออกนอกเรื่องที่ผมถาม มันมองมาที่ผมก่อนจะเลื่อนสายตามองไปที่คนที่สลบอยู่ด้วยสายตาดุดัน
"มันเป็นหนี้ฉันเป็นแสน!"
"กี่แสนล่ะ?"
"หึ พูดเหมือนจะจ่ายให้"
"กี่แสน?"
มันเป็นอะไรกันหนักหนาคนสมัยนี้ผมถามก็ตอบสิวะจะพูดอ้อมค้อมหรือแดกดันไปเพื่อ?
"รวมดอกก็สองแสนสาม!"
ผมหันมองไปที่คนที่กำลังสลบตรงนั้นอย่างไม่เชื่อสายตา...ตัวแค่นี้ทำไมเป็นหนี้เยอะจังวะ? ผมขมวดคิ้วเข้าหากันนิดๆ ก่อนจะหันกลับมามองคนตรงหน้าอีกครั้ง
"ขอดูหนังสือสัญญาหน่อย"
"แกคิดว่าแกเป็นใครกันห๊ะ ถามนั้นถามนี่เหมือนเป็นผัวมัน!"
"อยากได้เงินคืนไหม หรือจะเอาอย่างอื่น?"
ลุงนั้นสบสายตากับผมนานนับนาทีซึ่งผมก็สบสายตาเขาไม่ได้หลบไปไหน มันหลบสายตาผมก่อนจะหันไปหยิบหนังสือสัญญาที่ผมต้องการมาและยื่นให้ลูกน้องมันเอามาให้ผม ซึ่งผมก็อ่านมันจนจบมันก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาและกดโทรออกไปที่ผู้จัดการคิม
(ครับคุณเจ้าสมุทร)
"พี่กลับยัง?"
(ยังครับ)
"เอาเช็คลงมาให้ผมที่หลังร้านหน่อย"
(ได้ครับสักครู่นะครับ)
ติ๊ด...
"นะ นี่แกจะใช้หนีให้ยัยเด็กนั้นจริงๆ เหรอ??"
"แล้วจะเอาไหมล่ะเงิน หรือจะรอเอากับยัยนี่...เธอดูเหมือนจะหาเงินแสนมาให้พวกลุงได้เหรอถามจริง?"
"..."
"เงียบปากไปซักวิก็ไม่มีใครว่าหรอกลุง"
"ไอ้เด็ก..."
ลุงนั้นเงียบไปทันทีที่ผมตวาดสายตากลับไปมองก่อนที่มันจะถอนหายใจออกมาเสียงดังและหันไปทางอื่น ผมจึงเดินไปหาคนที่กำลังสลบไม่รู้เรื่องอยู่
พรึบ
มือของผมเอื้อมขึ้นไปเชยคางเธอขึ้นมานิดๆ หลังจากที่นั่งยองๆลงไปอยู่ระดับเดียวกับเธอมันจึงทำให้ผมเห็นว่าตอนนี้ใบหน้าเธอมันเต็มไปด้วยรอยช้ำจากแผลที่ถูกตบ ก่อนหน้าที่ผมจะมาทันเห็นเธอคงโดนมาก่อนอีกแน่...เจอกันครั้งก่อนก็มีเรื่องในคลับเจอกันวันนี้ก็มีเรื่องหลังคลับยัยแว่นนี่มันเป็นคนยังไงกัน?
"มาแล้วครับ"
พรึ่บ...
ผมรับเช็คที่ผู้จัดการมาก่อนจะเซ็นมันทันทีและยื่นให้เขาอีกครั้งก่อนจะอุ้มยัยแว่นขึ้นมา และมองไปที่ลุงเจ้าหนี้ด้วยสายตานิ่งเรียบ
"คนนี้จะจัดการเรื่องเงินแล้วก็เรื่องสัญญา...ผมฝากด้วยนะครับพี่"
"ครับ เดียวเสร็จผมจะเอาขึ้นไปให้นะครับ"
ผมพยักหน้าตอบ ก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นขณะที่ตัวเองกำลังอุ้มยัยแว่นอยู่ ผมพาเธอเดินขึ้นมาบนห้องของผมอย่างไม่มีทางเลือก
พรึบ
"ใช่เรื่องกูไหมเนี่ย?"
เสียงของผมเอ่ยขึ้นเบาๆ ขณะที่สายตาตัวเองก็จ้องมองไปที่ยัยแว่นที่กำลังหลับอยู่อย่างเพลียๆ ใบหน้าขาวซีดตอนนี้เต็มไปด้วยรอยบอบช้ำเต็มไปหมดจนผมต้องเดินไปที่ตู้ยาเพื่อหาอะไรมาทาให้...คือมันก็ไม่ใช่เรื่องของผมแต่สุดท้ายผมก็ยื่นมือเข้าไปเสือกจนเธอมานอนอยู่ในห้องตัวเองเนี่ยนะ?
"เฮ้อ"
ฟึ้บ ฟึ้บ
มือของผมจัดการบิดผ้าขนหนูผืนเล็กที่เพิ่งเอาลงน้ำจนมันชุ่มก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำและตรงไปที่เธออีกครั้งก่อนจะทิ้งยาในมือตัวเองลงที่เตียงพร้อมกับตัวเองที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ร่างยัยแว่น
ผมมองคนที่กำลังหายใจสม่ำเสมอด้วยสายตานิ่งเรียบก่อนจะเอื้อมมือที่มีผ้าไปซับที่ใบหน้านั้นเบาๆ เพื่อทำความสะอาดและเช็ดคราบน้ำตาออกให้ก่อนจะตามด้วยยาทาที่เอามาด้วย ผมแตะมันลงที่มุมปากเธอเบาๆ ขณะที่สายตาตัวเองก็มองสำรวจใบหน้าตรงหน้าด้วยสายตานิ่งเรียบ
คืนนั้นผมเมามาก...และผมก็พอจะรู้ว่าตัวเองคงไม่ได้แค่ดึงยางรัดผมเธอออกมาแน่ๆ ผมจำได้ว่าผมเห็นเธอเป็นแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกกันมันจึงทำให้อารมณ์ผมขึ้นหน่อยๆ ซึ่งอารมณ์นั้นคืออารมณ์ที่อยากจะเอาชนะเลยเกือบจะทำอะไรที่เลวร้ายกับคนที่ไม่รู้เรื่องไป ผมไม่ใช่คนที่ดีอะไรแต่ผมก็ไม่ใช่คนที่จะดึงใครเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวแต่เธอมีบางอย่าง บางอย่างที่ทำให้ผมเผลอตัวทำมันต่อทั้งๆ ที่เริ่มจะรู้ตัวว่านั้นไม่ใช่วา..