“อืม…"
ขนตางอนกระพริบถี่ ดวงตากลมโตพยายามเพ่งมองภาพรอบตัวที่ยังพร่าเลือนด้วยความมึนงง ห้องสี่เหลี่ยมกว้างที่เธอไม่คุ้นเคยทำให้หัวใจเต้นแรง คิ้วสวยขมวดมุ่นลงทันทีที่รู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องของเธอ พร้อมกับความเจ็บแสบที่กลางหว่างขา จนเธออดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปสัมผัส แล้วพบว่ามันบวมเป่งผิดจากเดิมไปหมด
"เกิดอะไรขึ้นเนี่ย"
เธอพึมพำยังไม่ทันได้ขาดคำ ก็ได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอดังแผ่วข้างกายทำให้เธอสะดุ้งเฮือก ร่างบางหันกลับไปมองแทบจะทันที และเพียงเสี้ยววินาที ความทรงจำบางส่วนเมื่อคืนก็แล่นเข้ามาในหัวราวกับสายฟ้าฟาด
“ตะ…ตายแล้ว ทะ…ท่านประธาน”
เสียงเธอสั่นพร่า หลุดออกมาเพียงเสียงกระซิบแผ่วเหมือนลม ผ่านริมฝีปากซีดเผือดด้วยความตกใจ
ดวงตากลมโตเบิกกว้างแทบไม่กะพริบ ขณะที่มือเล็กรีบดึงผ้าห่มขึ้นมากอดร่างตัวเองแน่น แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้เลือดในกายแทบหยุดไหล ร่างเธอเปลือยเปล่าไร้สิ่งปกปิด ไม่ต่างอะไรจากร่างสูงใหญ่ที่นอนนิ่งข้างกาย
“นี่ฉันเมาขนาดนี้เลยเหรอ”
เสียงเธอแผ่วแตกพร่า ร่างกายสั่นสะท้านด้วยทั้งความกลัวและความอับอาย
มือเรียวกำผ้าห่มไว้แน่นจนเส้นเลือดปูดนูน ความคิดในหัวตีกันยุ่งเหยิง พยายามหาทางหนี พยายามหาคำอธิบาย แม้จะรู้ดีว่าทุกอย่างไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขได้อีกแล้ว แต่หัวใจก็ยังพร่ำบอกกับตัวเองซ้ำๆ ว่าเมื่อคืนมันต้องเป็นแค่ฝันร้าย เธอเพียงแค่ฝันไปเท่านั้น
“นี่ฉันกำลังฝันใช่ไหมเนี่ย จริงสิก็แค่ฝันไปสินะ"
มีนาพึมพำเสียงแผ่วเบา พร้อมยกมือขึ้นตบแก้มตัวเองเบาๆสองสามที เหมือนพยายามปลุกตัวเองให้ตื่นจากภาพฝันร้าย
แปะ…แปะ...
“อ๊ะ โอ้ย! ก็เจ็บนิ นี่ฉันไม่ได้ฝันไปหรอกหรอเนี่ย โอ้ย…!! ตายแน่ๆแสดงว่าเมื่อคืนเขาคือคนที่ถอดเสื้อผ้าของฉันออกจนหมดก็คือ ฮื้อ! ไม่นะ"
คำพูดของเธอทั้งตื่นทั้งกลัว หัวใจดวงน้อยเต้นโครงครามแทบไม่เป็นจังหวะ ภายในใจคิดว่าท่านประธานยักษ์ใหญ่ของบริษัทที่เธอทำงานอยู่ ต้องรู้แล้วแน่ๆว่าเธอคือเลขาหน้าห้องของเขา และเมื่อคืนเธอเผลอทำอะไรไปบ้างก็ไม่รู้
เสียงห้าวตัดขึ้นข้างหูอย่างนิ่งเย็น
“หึ! เธอไม่ได้แค่ฝันไปหรอก เมื่อคืนเธอครางเสียวทั้งคืนนั่นคือความจริง”
ดวงตาดำกริบมองมาที่เธอด้วยความเย็นชา ที่ไม่มีแม้แต่ล่องลอยความหยอกล้อ
มีนากระอักหันหน้าหนี ร่างกายร้อนผ่าวชาไปทั้งตัว
“อ๊ะ…คือหนู…เอ่อ…”
คำพูดติดขัดจนแทบกลั้นหายใจ เธอรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดกายจนมิด ดวงตากลมโตหลบสายตาเขาทันที ไม่แม้แต่จะหันไปมองเพราะเธอกลัว กลัวว่าถ้าเขาจำเธอได้ เธอจะต้องอับอายและเขาเองก็คงรับไม่ได้ ที่รู้ว่าตัวเองมานอนค้างคืนกับเลขาเฉิ่มๆแบบเธอ
สายธารยิ้มมุมปากมองคนตรงหน้าที่เอาแต่หันหลังให้
“หึ! เธอไม่ต้องมาทำเขินหรอก เมื่อคืนฉันเห็นหมดแล้ว และเธอก็เป็นคนยั่วยวนฉันเอง จะโทษว่าฉันเป็นคนข่มขืนเธอคงไม่ได้หรอกนะ แต่เมื่อคืนฉันเอาเธอไปหลายรอบ ฉันจะจ่ายเงินเป็นการตอบแทนให้แล้วกัน”
พูดจบสายธารก็เปิดลิ้นชักหัวเตียง แล้วโยนบัตรเครดิตใบสีดำ ที่มีวงเงินจำนวนไม่น้อยให้เธอทันที ก่อนจะขยับตัวขึ้นไปเอนกายพิงหัวเตียง มองแผ่นหลังของคนตรงหน้าอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก
คำพูดนั้นเหมือนตอกตะปูลงกลางอก มีนายกมือบีบจมูกตัวเองไว้ พยายามกลั้นน้ำเสียงจริงของตัวเองไม่ให้หลุด เธอพูดออกมาเสียงอู้อี้
“เอ่อหนู…หนูรู้ดีค่ะ หนูไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น เพราะฉะนั้นแล้วโปรดลืมเรื่องเมื่อคืนไปเถอะนะคะ ถือซะว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น ต่างคนต่างได้สิ่งที่ต้องการ แล้วก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันเถอะค่ะ”
เธอลุกขึ้นพลางกอดผ้าห่มพันรอบกายแน่น ดวงตาสั่นระริกด้วยความอับอาย แต่เธออก็ยังไม่ลืมที่จะคว้าหยิบบัตรเครดิตขึ้นมาด้วย เพราะเธอคิดว่านี่เป็นสิ่งที่เธอควรจะได้ หลังจากที่เขาเพิ่งได้ความบริสุทธิ์ของเธอไปเมื่อคืน จากนั้นเธอก็เดินตรงไปที่ห้องน้ำทันที
สายธารยังคงนั่งมองนิ่งดวงตาคมกริบไม่ไหวตีง แต่ในความนิ่งนั้นกลับปะปนไปด้วยความอยากรู้ เขาพยายามนึกอยู่ตลอด ว่าเขาเคยเห็นเธอที่ไหน เธอดูคุ้นหน้าเกินกว่าคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกซะอีก
มีนาใช้เวลาหลายนาทีในห้องน้ำ ความคิดแล่นพล่านเหมือนคลื่นซัดโหม ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนวนเวียนไม่หยุด จุกขึ้นมาในอกเมื่อเธอจินตนาการถึงความเป็นไปที่เลวร้ายกว่านั้น ถ้าหากเมื่อคืนไม่ใช่เขา หากเป็นผู้ชายคนอื่น พาเธอไปในสถานที่ที่ไม่มีใครยื่นมือช่วยเหลือ เธอคงถูกข่มขืนหรือพาไปให้ผู้ชายคนอื่นๆรุมโทรมไปแล้วแน่ๆ หากเป็นแบบนั้นเธอคงอับอายไปมากกว่านี้
น้ำอุ่นๆไหลรดตัว เธอขัดถูผิวจนเป็นรอยแดงไปทั่ว มือนุ่มพร้อมความร้อนบีบถูเหมือนจะชะล้างความอับอายออกให้หมด แต่ยิ่งขัดยิ่งรู้สึกว่าร่องรอยในใจไม่ได้จางลงเลย น้ำตาแห่งความเสียใจไหลออกมาโดยไม่อาจยับยั้ง ไม่ใช่เพราะเขาทำให้ใจเจ็บ แต่เพราะเมื่อคืนนี้เธอเพิ่งเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว เพราะตัวเธอเองและเพราะผู้ชายคนเดียวที่ทิ้งเธอไปอย่างไม่ใยดี เขามองว่าเธอเป็นเพียงผู้หญิงเฉิ่มที่ไร้ความตื่นเต้น
“เป็นเพราะแกคนเดียว ไอ้พี่บอส ไอ้ตัวซวย”
เธอพึมพำด้วยเสียงแหบพร่า คำด่าด้วยความเกลียด ท่ามกลางสายน้ำอุ่นที่ไหลผ่านร่างกาย เหมือนจะชะล้างแต่ไม่อาจลบความเจ็บปวดที่ฝังลึกลงในอกได้
พึบ!!
ทันทีที่มีนาเปิดประตูออกจากห้องน้ำ เสื้อเชิ้ตราคาแพงก็ตกลงมากองที่พื้นด้านหน้าเธอทันที ทำให้ใจดวงน้อยเต้นแรงรัว
“เธออ้วกใส่เสื้อฉันเลอะไปหมด รับผิดชอบเอาไปซักให้ฉันด้วย”
คำพูดเรียบนิ่งแต่เต็มไปด้วยน้ำเสียงบังคับ ทำให้มีนาหยุดชะงักชั่วขณะ
“คะ…คุณรู้…”
ในใจของเธอคิดว่านี่ต้องเป็นเพราะเขารู้แล้วแน่ๆว่าเธอคือใคร เขาถึงกล้าให้เธอเอาเสื้อไปซักมาคืนแบบนี้
“เสร็จแล้วก็กลับได้แล้วฉันจะนอน”
สายธาพูดจบพร้อมทั้งทิ้งตัวลงบนเตียงโดยไม่มองหน้าเธอแม้แต่น้อย ราวกับไม่ได้สนใจเลยว่าตอนนี้เธอกำลังยืนอยู่ในสภาพที่กลิ่นอาเจียน ยังติดเสื้อผ้าของตัวเธออยู่
มีนาก้มหน้ามองเสื้อเชิ้ตตรงพื้น แล้วพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“เขาไม่รู้จริงๆใช่ไหมเนี่ย"
ใบหน้าสวยค่อยๆหมุนตามร่างคนตัวโตไปช้าๆ ก่อนจะเห็นว่าเขาไม่ได้สนใจเธอขนาดนั้น นั่นแปลว่าเขาจำเธอไม่ได้จริงๆ
"เฮ้อ...โล่งอกไปที ขอให้จำไม่ได้จริงๆทีเถอะ"
จากนั้นเธอก้มลงเก็บเสื้อเชิ้ตขึ้นมาทันที รู้สึกทั้งอายและแค้นใจปนกัน ก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้องของเขาอย่างรวดเร็ว พร้อมปิดประตูลงอย่างสนิท แล้วรีบหนีหายไปจากคอนโดนี้ให้เร็วที่สุด
โชคดีที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เธอไม่ต้องรีบร้อนออกไปเผชิญสายตาใครในที่ทำงาน นั่นเป็นข้อดีเพียงเล็กน้อยที่ทำให้เธอมีเวลาได้ทำใจ ในขณะที่ยังคงพยายามตั้งคำถามกับตัวเอง จากนี้เธอจะทำยังไงไม่ให้เจ้านายหน้าดุของเธอรู้ ว่าเธอคือผู้หญิงคนที่นอนกับเขาเมื่อคืนจนเช้า