ภาพของสาวใช้ลี่ลี่ ภาพที่นางผูกปอยผมเข้าด้วยกัน ใส่ลงในกล่องไม้แกะสลัก ในกล่องมีแหวนทองงดงามกับขวดกระเบื้องเคลือบสีแดงใบเล็กนอนอยู่
ภาพนั้นทำให้หลุนเหอจิ้งที่แอบอยู่ข้างเรือนถึงกับชาวาบ ขยับกายออกก้าวหนึ่งหลบไปอยู่ในพุ่มไม้ ใจเต้นกระหน่ำในอก
หลุนเหอจิ้งเพียงตามมาแอบดูสาวใช้ลี่ลี่ เพียงเพราะเกิดความรู้สึกบางอย่างตอนเดินผ่าน ทั้งอึดอัด คับข้องใจ นางคิดไปเองว่าอาการไม่ชอบหน้าลี่ลี่คืออาการ ‘เหม็นกลิ่นเมียน้อย’ แต่แล้วสิ่งที่ได้เห็นกลับทำให้หลุนเหอจิ้งถึงกับอึ้งไป
หากสตรีใดผูกผมกับบุรุษย่อมหมายถึงสตรีนั้นยอมอยู่เป็นคู่กับบุรุษจนวันตาย นางสงสัยว่าผมของบุรุษที่นำมาผูกกันนั้นเป็นของผู้ใด
คงต้องถามจวิ้นอ๋องเสียหน่อยว่าได้ตัดผมบ้างหรือหรือไม่ นางเองก็ไม่ได้สังเกตว่าผมเขาสั้นยาวมากน้อยลงไปอย่างไร ตอนเดินเข้าไปก็มัวแต่มองมัดกล้ามหน้าอกกับจรวดยักษ์ NASA ของเขา
หลุนเหอจิ้งเร้นกายอย่างเงียบเชียบ กลับไปยังเรือนอวี้ฮวา หยิบบิกินีแบบกางเกงว่ายน้ำจีสตริงที่นางเพิ่งสั่งตัดออกมาจากกล่องเก็บอาภรณ์ลวดลายงดงาม หยิบผ้าฝ้ายเนื้อหนาสำหรับเช็ดกายออกมาสองผืนแล้วเดินไปยังตำหนักของจวิ้นอ๋อง
หลุนเหอจิ้งสาวเท้าเร็ว มาหน้าตำหนักของสวามี องครักษ์หลี่เจี๋ยและหลี่เว่ยค้อมกายคารวะนาง
“จวิ้นอ๋องเล่า อยู่ที่ใด”
“จวิ้นอ๋องหลับอยู่ในตำหนัก พะยะค่ะ เอ่อ ขอรับ” องครักษ์ใช้คำราชาศัพท์
“ไม่ต้องใช้คำราชาศัพท์ลงท้ายอันใดกับข้า นอกเสียจากอยู่ในพิธีการ” นางบอกอย่างรำคาญ
ตำหนักจวิ้นอ๋องบ่าวไพร่ สาวใช้ องครักษ์ต่างลงท้ายเสียงด้วยคำสุภาพ ยกเว้นสาวใช้ประจำเรือนและประจำตำหนักบางคนที่ถูกอบรมมาอย่างดี นอกนั้นก็มักลงท้ายด้วย เจ้าค่ะ หรือขอรับ เนื่องจากจวิ้นอ๋องมิได้เคร่งครัด ที่ค่ายทัพก็มิได้ใช้คำราชาศัพท์แต่อย่างใด เรียกได้ว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ที่มิได้ถือศักดิ์มากมายปานนั้น
ภรรยาเห็นสามีกำลังหลับ เห็นจวิ้นอ๋องผู้หล่อเหลาสง่างาม ฟุบหลับอยู่บนโต๊ะในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง น้ำลายย้อยที่มุมปากนิดๆ
“ท่านพี่ ตื่น” นางปลุกเขา
“จิ้งเอ๋อร์ มาหาพี่ มีเหตุอันใด” เขางัวเงียขึ้นมา
“เปล่า ข้าเพียงแต่มาดูท่านเท่านั้น เหนื่อยรึไม่เจ้าคะ วันนี้ช่วยข้าคุมงาน ติดตั้งโถสะดวกจนแล้วเสร็จ”
“เหนื่อย พี่ขอรางวัลได้รึไม่” ชายผู้หัวยุ่งเอ่ยถามนาง
“รางวัลอันใด ที่ทำอยู่ก็เพื่อตำหนักท่านพี่เองทั้งนั้น” นางบ่นอุบ
“หอมแก้มพี่ได้หรือไม่”
“......” นางไม่ตอบ เขาเอียงหน้ารออย่างมีความหวัง
‘จุ๊บ’ นางหอมเขาไปหนึ่งทีเบา ๆ ที่แก้มซ้าย เขากลั้นยิ้มทำหน้าเหมือนคนไม่ได้ดีใจอะไรมาก
นางเดินไปหยิบหวีมาสางผมเขา เอ่ยหลอกถามเรื่องผม
“ท่านพี่ผมยุ่ง ข้าจะสางผมให้ท่าน” นางสางผมให้
“ท่านพี่ตัดผมรึเจ้าคะ ผมท่านดูเหมือนสั้นขึ้น”
“อืม ใช่ เมื่อยามเหม่า ข้าให้ลี่ลี่มาตัดผมให้ข้า เจ้าว่าความยาวเป็นอย่างไร อยากให้ข้าตัดสั้นขึ้นอีกดีไหม” เขากระหยิ่มใจ อย่างน้อยชายารักก็สังเกตเขาบ้างไม่มากก็น้อย
หลุนเหอจิ้งที่ตอนนี้ยืน stun ได้แต่เอ่ยตอบอย่างแผ่วเบา
“ความยาวพอดีแล้วเจ้าค่ะ”
ในหัวนางราวกับถูก wrecking ball หนักสิบตันพุ่งชน ผมที่สาวใช้ลี่ลี่ผูกในกล่องนั้นคือผมของสวามีของนางคงไม่ผิด มันแน่ยิ่งกว่าแน่ ทำให้นางขนลุกซู่
“เป็นอันใด จิ้งเอ๋อร์ ไม่ชอบผมพี่รึ” เขาเอ่ยถามอย่างงงๆ
“เปล่าเจ้าค่ะ เราไปแช่น้ำพุร้อนคลายเหนื่อยกันดีรึไม่”
นางชวนเขาไปแช่บ่อน้ำพุร้อนท้ายตำหนัก ซึ่งใช้เวลาเดินไปเพียงครึ่งถ้วยชา เขาดีใจแทบอยากกระโดดเต้นระบำ ลุกขึ้นพรวดพราด เดินนำหน้านางออกไปอย่างรวดเร็ว
“ท่านพี่จะไปที่ใดเจ้าคะ”
“เอ๊า ก็ไปแช่น้ำพุร้อนกับเจ้าอย่างไรเล่า” เขารีบเดินกึ่งลากนางออกไป มือคว้าผ้าพันกายมาผืนหนึ่ง
เขาหันไปสั่งองครักษ์ห้าคน ให้ตามไปอารักขายังบ่อน้ำพุร้อนท้ายตำหนัก ร่างบางถูกแม่ทัพหนุ่มร่างกำยำกึ่งจูงกึ่งลากเดินไปตามทาง ผมเผ้าทั้งสองยุ่งเหยิงเล็กน้อย หน้ามันเยิ้มขะมุกขะมอม รองเท้าคู่และชุดคู่ที่เคยสวยงามเขรอะกรังไปด้วยฝุ่นดิน
“พวกเจ้าเฝ้าอยู่อย่าให้ใครเข้ามาได้ ข้าจะแช่น้ำกับชายาข้า” เขาหันไปสั่งองครักษ์
ร่างสูงกำยำถอดผ้าของตนเองออกอย่างรวดเร็ว เขาถอดรองเท้าวางไว้ข้างโขดหิน หลุนเหอจิ้งถึงกับต้องหันกายไปโดยพลันเขินอายกับความหน้าทนของเขาที่ถอดผ้ามิได้อายฟ้าดิน เขาเอาผ้าผืนน้อยมาพันกลางกายดูหมิ่นเหม่คล้ายจะหลุด
“ท่านพี่หันไปก่อนเจ้าค่ะ” นางบอกเขาหันหลังไป นางจะเปลี่ยนเสื้อผ้า
“พี่เห็นหมดแล้ว จะอายอันใดอีก”
“ท่านพี่! คนลามก!” นางแหวใส่
เขาหันหลังไปยืนอมยิ้ม นางเปลี่ยนไปใส่บิกินี่จีสตริงสีดำ
“เสร็จแล้วเจ้าค่ะ”
เขาหันมาตาเบิกค้าง อยากบอกนางว่าใส่อย่างนี้ก็มิได้ต่างกับเปลือยเปล่าแต่อย่างใด ร่างสูงจูงนางลงไปในบ่อน้ำร้อน ไอน้ำลอยกรุ่นขึ้นจากบ่อหิน น้ำอุ่นกำลังสบาย นางเหยียบย่างลงไปแช่กาย น้ำสูงเพียงอก
เขานั่งอยู่บนขอบบ่อ มองเรือนร่างอรชรแทบเปลือยนั้นเพลินๆ มองสะโพกกลมกลึงบนบิกินี่จีสตริง พลางคิดว่าชุดเอี๊ยมอันใดกันช่างประหลาดวาบหวิวนัก
เขาก้มมองมังกรยักษ์ที่บัดนี้มันก็ยังนอนเป็นหนอนชาเขียวแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“จิ้งเอ๋อร์ วันนี้พี่ทำงานดีรึไม่ เจ้าหายโกรธพี่แล้วรึยัง” เขาเอ่ยถามแบบคนมีความผิด
“อืม ดี” นางตอบสั้นๆ
“เอ่อ แล้ว ยาถอนพิษพี่เล่า เมื่อใดเจ้าจะให้พี่”
นางหันมาอมยิ้ม ว่ายน้ำมาผุดกายขึ้นตรงหน้าเขา ดึงเขาลงมาแช่น้ำด้วยกัน
นางจูบไปบนปากหยักหนา ลิ้นเรียวดันยาเม็ดหนึ่งเข้าปากเขากลืนลงท้องไป
“อีกสองเค่อ มังกรท่านก็จะฟื้นดังเดิม”
นางยิ้มหวานยั่วเย้า ดำผุดดำว่ายอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนนั้นดั่งเงือกสาวแสนงดงาม เหยียนจื่อหยามองภรรยาแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
เขาเข้าใจแล้วว่านางมิได้เป็นลูกไก่ในกำมือ นางคือเม่นน้อยขนอาบยาพิษที่นอนอยู่บนฝ่ามือเขาต่างหาก ยามเม่นน้อยทำตัวน่ารักยอมสยบนั้นช่างน่ารักน่าใคร่ แต่หากนางพองขนอาบยาพิษตำมือเขาเมื่อไร เขาเองทั้งเจ็บใจและเจ็บตัว ใยจะกล้าหักหาญนางอีก
รอเพียงให้นางเห็นใจเขาเท่านั้น