หลายวันแล้วที่หลุนเหอจิ้งมาขลุกอยู่ที่ร้าน นั่งทำบัญชี ดีดลูกคิดนับเงินอย่างสบายอารมณ์
บางวันนางก็นอนค้างที่ร้าน จวิ้นอ๋องก็ไม่ได้ว่ากระไร เพราะถึงจะว่า... นางก็ไม่สนใจอยู่ดี
เมื่อยามเหม่า องครักษ์เข้าไปรายงานจวิ้นอ๋องที่ห้องทรงอักษร
"เรียนจวิ้นอ๋องขอรับ พระชายาให้มาเรียนท่านว่าวันนี้นางจะค้างที่ร้าน นางบอกว่าเป็นประโยคบอกเล่า แจ้งให้ทราบ"
เฮ่อ! จวิ้นอ๋องถอนหายใจเฮือกใหญ่ นานเพียงไหนแล้วที่เขาไม่เคยได้กินข้าวร่วมกับผู้เป็นชายา
"ตามที่นางว่าก็แล้วกัน"
เขาตอบเพียงสั้นๆ บางวันเขาโผล่ไปเยี่ยมนางที่ร้าน นางก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับบัญชี หน้าเขานางแทบจะไม่เงยขึ้นมามอง
ร่างสูงถอนหายใจอีกหลายเฮือก แต่งกายด้วยชุดซ้อมรบสีเทาดำ หันไปสั่งการองครักษ์
"ยามกลางคืนให้เพิ่มเวรยามเป็นยี่สิบคน คอยเฝ้าดูนางให้ดี อย่าให้นางเป็นอันตรายหากมีสิ่งใดเกิดกับนางแม้เพียงนิด หัวของพวกเจ้าคงไม่ได้อยู่บนบ่า"
เขาเดินใจลอยไปขึ้นม้า ควบออกไปยังค่ายทัพ
ยามกลางวันมีจะองครักษ์เพียงสองสามคน แต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบเช่นเดียวกับพนักงานในร้าน ซึ่งนางตัดชุดให้พนักงานหมดทุกคน คนละห้าชุด เป็นสีน้ำตาลเข้ม ปักด้ายสีขาวตัวใหญ่ๆว่า โถสะดวก ให้ใส่เหมือนกันหมดเป็น uniform ของร้านโถสะดวก
ค่าชุดเก็บจากเบี้ยรายเดือน นางหักค่าชุดเพียงครึ่งราคา เพราะถือว่าเป็นการ promote ร้านค้าของนางไปในตัว ยามที่พนักงานเดินไปที่ใดหรือไปทำงานติดตั้งโถสะดวกให้บ้านไหน จวนใด จะได้จำง่ายและรู้ได้ทันทีว่าเป็นคนของร้าน
ร่างงดงามในชุดสีฟ้าน้ำทะเล สวมเพียงเสื้อแขนสั้นสอดเข้าในกางเกงคาดเข็มขัดหนังสีน้ำตาล สวมรองเท้าคอมแบทสีเดียวกับเข็มขัด นั่งนับเงินและทำบัญชีร้าน หลุนเหอจิ้งจ้างบัณฑิตหญิงชื่อหยุนเชียนกับหลิวเย่วมาช่วยทำบัญชี
บัณฑิตหญิงนางก็เลือกผู้ที่ฉลาดและงดงามเหนือผู้ใด เรียกว่าเลือกจากหน้าตาและความสามารถ
นางให้บัณทิตหญิงใส่ชุด uniform สีแดงเข้มกับกางเกงรัดรึงเรือนกายเช่นเดียวกับของนาง คาดเข็มขัดสีเข้มเน้นเอวคอดกิ่ว ใส่รองเท้าหุ้มข้อแบบกระชับ
"พวกเจ้าต้องใส่ชุดรัดรูปมันทำให้พวกเจ้าดูดี ขับเน้นความงามของร่างกาย อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก"
"เหตุใดพวกข้าจึงต้องใส่ชุดเช่นนี้ด้วย" บัณฑิตหญิงถามนาง
"พวกเจ้ามีร่างกายงดงามและฉลาดจะเก็บไว้ดูคนเดียวไปใย ต้องให้คนทั่วไปเขาได้เห็น"
บัณฑิตหญิงแสนงดงามทั้งสองถือว่าเป็น PR ของร้าน PR ก็คือ public relation เป็นการสร้างแรงดึงดูดให้ลูกค้าชายผู้หื่นกามมาใช้บริการซื้อสินค้าและติดตั้งโถสะดวกของทางร้าน
ตั้งแต่บัณฑิตหญิงทั้งสองมาช่วยเป็น PR และทำบัญชียอดขายก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหนำซ้ำยังมีขนมและของกำนัลมากมายจากลูกค้าชายเหล่านั้นที่นำมากำนัล PR ทั้งสอง จนได้เหลือแจกพนักงานคนอื่น ๆ กินกันถ้วนหน้า
หลุนเหอจิ้งเดินข้ามไปยังโรงเตี๊ยมฝูเจี้ยน ปัจจุบันเป็นโรงเตี๊ยมขึ้นชื่อเรื่องเป็ดย่างเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็น signature ของโรงเตี๊ยมเลยทีเดียว
นางมารับเป็ดฟรีเช่นเคยวันนี้นางมารับเป็ดห้าตัว ให้เสี่ยวเอ้อเอาไปส่งวางไว้ที่ร้าน
นางมาหาผู้จัดการโรงเตี๊ยมชื่ออี้เทียนเพื่อมารับของที่นั่งสั่งไว้อีกอย่างหนึ่ง
"ขนอ่อนเป็ด ขนอกและขนหน้าท้องเป็ดที่ข้าสั่งให้เจ้าเก็บไว้ เอามาให้ข้า"
"ท่านจะเอาขนเป็ดไปทำอะไร ขนอ่อน ขนอกเป็ดและขนหน้าท้องเป็ดใช้ทำการอันใดได้ขอรับ"
อี้เทียนเก็บขนอ่อนเป็ดขนอกเป็ดและขนหน้าท้องเป็ดไว้ให้นางเป็นจำนวนมากซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่านางจะเอาไปทำอะไรนางสั่งแต่ขนเป็ดส่วนเฉพาะที่นางต้องการเท่านั้น
"นี่ขอรับขนเป็ดที่ท่านต้องการ" เขากล่าวพลางยื่นกระสอบขนาดใหญ่หลายกระสอบที่เขาเก็บขนอ่อนเป็ดที่นางอยากได้ไว้ให้
หลายวันต่อมา
หลุนเหอจิ้งกลับมาพร้อมกับยื่นถุงผ้าใบใหญ่ที่ภายในใส่หมอนใบหนึ่งไว้ ยื่นให้อี้เทียน
"หมอนขนเป็ด ข้าทำความสะอาด อบร่ำและอบฆ่าเชื้ออย่างดี นำขนเป็ดนั้นไปทำไส้หมอน หมอนนี้นอนนุ่มสบายนัก ข้าฝากให้เถ้าแก่ ถือว่าขอบคุณที่ข้าได้กินเป็ดทุกวัน"
"อ้อ ต่อไปให้เก็บขนเป็ดเหล่านี้ไว้เสมอ ข้าจะมาซื้อไปทำหมอนขนเป็ดขาย หมอนขนเป็ดที่ข้าเย็บประดิษฐ์ขึ้น เถ้าแก่ของเจ้าได้ลองนอนเป็นคนแรก"
อี้เทียนได้แต่รับถุงนั้นมาแบบงงๆ มีผู้ใดบ้างที่จะนำขนเป็ดไปทำเป็นไส้หมอน เขานำหมอนนั้นไปให้ผู้เป็นนายที่อยู่บนชั้นสอง
"นายท่านขอรับ นางนำขนอ่อนเป็ด ไปทำหมอนมาให้ท่านนางกล่าวว่าขอบคุณที่ให้นางกินเป็ดย่างแบบไม่คิดเงิน"
ชายหนุ่มผู้สง่างามเปลือยกายท่อนบน นอนอยู่บนเตียงกว้าง เขากำลังจะเข้านอน มือหนาหยิบหมอนออกมาจากถุงผ้าใบใหญ่
หมอนที่นางฝากมาให้เป็นหมอนที่ตัดเย็บเรียบๆด้วยผ้าฝ้ายเนื้อละเอียดนุ่มมือสีส้มอ่อน มีลายปักดิ้นทองสัญลักษณ์ตัว A ที่ริมด้านหนึ่งของหมอนใบนั้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่เขาก็ไม่เข้าใจว่ามันคือสิ่งใด
เขากอดหมอนใบนุ่มแนบอก หมอนช่างนุ่มน่าจะนอนสบายนัก
"ข้าจะถือว่าเป็นของ'แทนใจ'จากเจ้า"
เขาสอดหมอนใต้คอ ล้มตัวลงนอน ในใจคิดถึงเพียงใบหน้างามล้ำของนางผู้มีน้ำใจทำหมอนมาให้
ของแทนใจจากนาง สำหรับเขาคือสิ่งล้ำค่ามากกว่าเงินทองเพชรพลอยเสียอีก