ตอนที่ 3
พัชรินทร์กลับไปไม่นาน ติณห์ภัทรก็กลับมาจากการออกไปพบลูกค้า ตั้งแต่กลับมาติณห์ภัทรก็แอบส่งไลน์คุยกับเมญารินทร์ว่าเขาออกไปพบลูกค้ารายใหม่ตามที่ขจรเกียรติหัวหน้าของแฟนสาวแนะนำ ซึ่งอันที่จริงแล้วขจรเกียรติได้บอกให้เมญารินทร์เป็นคนไปพบลูกค้าด้วยตนเอง แต่เมญารินทร์ขอร้องกับขจรเกียรติเพราะอยากให้สามีของเธอมีผลงานบ้างจึงให้เขาไปแทน ติณห์ภัทรที่เป็นหวงแฟนสาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงไม่ปฏิเสธ และอยากออกไปพบลูกค้าด้วยตนเอง ซึ่งเย็นนี้ลูกค้าคนสำคัญก็นัดที่จะเปิดพอร์ตกับติณภัทรเรียบร้อยแล้ว ขจรเกียรติย้ำว่าอยากให้เมญารินทร์ไปช่วยติณห์ภัทร์ด้วยอีกแรงเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด เธอจึงยอมทำตามเพราะสามีของเธอประสบการณ์น้อยและก็ยังเป็นลูกทีมของเธออีกด้วย
ติณห์ภัทรส่งข้อความมาคุยกับแฟนสาว ระหว่างที่ออกมานั่งทานอาหารกลางวัน
พี่ติณห์ : ทำไมเป็นมาร์มันช่างยากเย็นนักนะ
เมญ่า : ใจเย็น ๆ สิพี่ เดี๋ยวเมญ่าจะช่วยเจรจาให้
พี่ติณห์ : ลูกค้ามันเรื่องมากกับพี่เอง
เมญ่า : เอาน่าพี่..คุณกฺษิดิศเค้าจะเปิดพอร์ตเยอะเลยนะ เค้าก็ต้องเรื่องมากนิดหนึ่งแหละ แต่คนนี้พี่ขจรเกียรติคอนเฟิร์มมาแล้วว่ายังไงเค้าก็เปิดพอร์ตกับเราแน่
พี่ติณห์ : ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงมาจิ้นคงได้เยอะแน่ ๆ เลย ยังไงเมญ่าไปช่วยพี่หน่อยนะ
เมญ่า : ค่ะ
เมญ่า : พี่ติณห์
พี่ติณห์ : อะไรเหรอ
เมญ่า : พี่ขจรติงมาน่ะ เรื่องความสัมพันธ์ของเรา
พี่ติณห์ : ทำไมเหรอ
เมญ่า : พี่เค้าไม่ให้แสดงตัวกับลูกค้าว่าเป็นคู่รักกันค่ะ ให้แสดงตัวว่าเป็นเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น
พี่ติณห์ : แต่พี่ขจรเค้าก็รู้นี่ ว่าเราคบกัน
เมญ่า : ก็นั่นแหละค่ะ แต่เค้าไม่อยากให้ลูกค้ารู้
พี่ติณห์ : พี่ว่ากฎนี้แมร่ง..โคตรบัดซบเลย
เมญ่า : มันก็มีมาตั้งนาน ก่อนที่เราจะคบแล้วนี่คะ ติณห์ภัทรถอนหายใจหลังจากที่เขาอ่านข้อความนั้นแล้ว ก่อนจะส่งท้ายเป็นสติ๊กเกอร์แล้วโยนโทรศัพท์ลงที่โต๊ะด้วยความหงุดหงิด
“เอ้า ๆ เป็นอะไรของแกอีก เดี๋ยวโทรศัพท์ก็พังหรอก” พีรวัสเพื่อนสนิทของติณห์ภัทรสมัยเรียนมัธยมเดินมาเห็นเพื่อนหงุดหงิดก็รีบร้องทักทันทีก่อนจะเดินถึงโต๊ะ
“ทำไมเพิ่งมาวะ” ติณห์ภัทรเงยหน้าขึ้นถามเพื่อน
“ก็แกเล่นมานัดไกลบริษัทฉันนี่หว่า” พีรวัสตอบเพื่อนก่อนจะนั่งลง
“แกมาก็ดีแล้ว ฉันว่าสิ้นปีนี้ถ้าไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง อยากจะย้ายไปทำงานที่บริษัทแกว่ะ มีตำแหน่งไหนพอจะว่างบ้างมั้ย”
“มันก็พอมี แต่เงินเดือนมันก็ไม่ได้มากเหมือนกับที่แกทำอยู่หรอกนะ แกจะรับได้รึ”
“พอดีฉันอยากได้ที่สบายใจว่ะ ถึงจะได้เงินน้อยหน่อย แต่ก็ไม่ต้องคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ นี่หว่า”
“กฎของบริษัทแกนี่ก็แปลกเนอะ ห้ามพนักงานเป็นแฟนกัน”
“เค้ากลัวพนักงานยักยอกเงินบริษัทไง แต่ส่วนใหญ่คนที่เป็นแฟนกัน เค้าก็จะรีบลาออกกันไปคนหนึ่ง เหลือแต่คู่ฉันเนี่ยแหละ”
“งั้นเดี๋ยวฉันจะส่งรายละเอียดการรับสมัครให้แกตัดสินใจอีกทีก็แล้วกัน...ว่าแต่แม่แกสบายดีนะ” พีรวัสอดถามไม่ได้ที่มารดาของเพื่อน
“สบายดี”
“แกหายป่วยหรือยัง”
“ก็เป็น ๆ หาย ๆ นั่นแหละ ต้องคอยกินยาตลอด” ติณห์ภัทรถอนหายใจแล้วตอบเพื่อน
“ก็อย่างว่าแหละ โรคนี้คนป่วยเค้าต้องการกำลังใจ แกน่ะยังดีที่มีแม่ ส่วนชั้นเนี่ยสิ!..ตัวคนเดียวเลย”
“แกก็รีบมีเมียสิวะ” ติณห์ภัทรตบไหล่เพื่อน
“ก็อยากมีอยู่ แต่มันจีบไม่ติดนี่หว่า จะฉันทำยังไง”
“สาว ๆ ในบริษัทฉันโสด ๆ ก็พอมีอยู่นะ แกสนใจป่ะละ”
“ไม่ใช่ว่ามีแฟนกันแล้ว แต่ต้องคอยปกปิดเหมือนแกหรอกรึ”
“ไอ้บ้าเอ๊ย!!..คงไม่ใช่ทุกคนหรอกมั่ง”
“ฉันว่าเรารีบสั่งอาหารกันเถอะ เดี๋ยวฉันต้องรีบกลับไปทำงานต่อ พอดีบ่ายมีประชุม” พีรวัสบอกเพื่อน
เย็นนี้ก่อนออกไปพบลูกค้า ติณห์ภัทรก็นัดเจอกับเมญารินทร์ที่ร้านหนังสือแห่งหนึ่งภายในห้างสรรพสินค้า ก่อนทั้งคู่จะได้คุยกันเล็กน้อย จากนั้นพัชรินทร์มารดาของติณห์ภัทรก็โทรมาหาเขา
“ครับแม่!!!..” ชายหนุ่มรับสาย เมญารินทร์ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอได้ยินทุกคำพูด
“ติณห์ อยู่ไหนลูก”
“ผมกำลังจะออกไปพบลูกค้าครับแม่”
“ติณห์ มีใครไม่รู้สี่ห้าคนมายืนอยู่ที่รั้วหน้าบ้านเรา แม่กลัว”
“ใครกันครับแม่ เดี๋ยวผมจะโทรแจ้งตำรวจให้แม่ แม่อย่าออกจากบ้านนะครับ” ติณห์ภัทรรีบบอกมารดาด้วยความเป็นห่วง
“แม่กลัว ติณห์ แม่กลัว!!!”
“ครับ ๆ งั้นผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
วางสายจากมารดาเรียบร้อย ติณห์ภัทรก็หันมาบอกภรรยาสาว
“เมญ่า พี่ต้องกลับบ้านตอนนี้”
“งั้นพี่รีบกลับเถอะค่ะ” โบรกเกอร์สาวรู้เหตุผลของสามีหนุ่มดี เธอชินแล้วกับนิสัยของแม่สามี พัชรินทร์เธอเป็นโรคซึมเศร้า และอ้างจะฆ่าตัวตายอยู่บ่อย ๆ หากลูกชายของเธอขัดใจ บางครั้งเธอก็เริ่มเบื่อ ไหนจะต้องคอยคบหากันอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เท่านั้นยังไม่พอ ยังต้องมาเจอกับแม่สามีที่สภาพจิตใจพิการอีก มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมญารินทร์ไปนอนค้างที่บ้านของติณห์ภัทร มารดาของเขาก็ยังขอมานอนกับลูกชายบนเตียงเดียวกันสามคนอีก เธอจำได้เป็นอย่างดี นับแต่นั้นเธอก็แทบไม่ไปบ้านเค้าอีกเลย เวลาวันหยุดไปเที่ยวไหนด้วยกัน ติณห์ภัทรก็ต้องคอยเอาแม่ของเขาไปด้วยเสมอ เพราะปล่อยเอาไว้สามีของเธอกลัวแม่จะคิดสั้นฆ่าตัวตาย
“เมญ่าเข้าใจพี่ค่ะ..พี่รีบไปเถอะ เดี๋ยวเมญ่าไปพบลูกค้าเอง” เธอยิ้มให้กำลังใจสามีหนุ่ม หลังจากเห็นเค้าแสดงความเป็นห่วงเธอออกมา