อารมณ์เปลี่ยวอยากเคี้ยวหญ้าอ่อน

1412 คำ
ตอนที่ 7 หลังจากนั้นก็เหลือเพียงเมญารินทร์ที่นั่งคุยกับคุณลุงจำเนียร และคอยเป็นพี่เลี้ยงให้ปันปัน ก่อนเธอจะชวนคุณลุงคุยไปเรื่อย ๆ “คนใช้คุณลุงไปไหนซะแล้วคะ เมื่อตอนเย็นนี้..หนูยังเห็นอยู่เลย” “อ่อ ยัยมะหน่อน่ะรึ เค้ามาขอลุงกลับบ้านนะสิ มันเป็นแรงงานพม่านะ ขอกลับประเทศช่วงนี้ทุกปีแหละ” “เค้าชื่ออะไรเหรอคะ..คุณลุง” “ตามบัตรมันชื่อว่า..มีเต๊ด เรียกให้ถูกล่ะ ฮ่า ๆ ” คุณลุงหัวเราะแล้วก็อมยิ้มหลังจากบอกชื่อจริงของสาวใช้พม่าที่คนระแวกบ้านคุณลุงไม่มีใครกล้าเรียก “ห๊า!!..ใช่เหรอคะคุณลุง” เธอถามแล้วก็ยิ้ม ๆ “อื้อ!!.. ก็ใช่สิ..ในใบแรงงานต่างด้าวมันเขียน Me Thet ตัวภาษาอังกฤษมันสะกดและออกเสียงอย่างนั้นจริง ๆ จะให้ลุงออกเสียงยังไงล่ะ” “แต่เห็นคุณลุงกับพี่ติณห์เรียกเค้าว่ามะหน่อ” “อ๋อ..มะหน่อมันก็แปลว่าสาวพม่านั่นแหละ ไม่มีใครกล้าเรียกชื่อนั้นหรอก กลัวเรียกผิดฮ่า ๆ ๆ” เมญารินทร์เห็นว่าคุณลุงจำเนียรคุยสนุกและเป็นกันเองเธอจึงไม่กล้าเสียมารยาทที่จะขอตัวกลับห้องในตอนนี้ ถึงแม้เธอจะไม่ดื่มแต่ก็นั่งคุยเป็นเพื่อนกับคุณลุงได้ ส่วนปันปันเด็กน้อยวัยห้าขวบที่ยังไม่ง่วงนอนก็คุยจ้ออยู่กับเมญารินทร์ และดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะชอบเมญารินทร์เข้าเสียแล้ว ก่อนจะเอ่ยปากขอร้องให้เธอไปนอนด้วยในค่ำคืนนี้ “พี่มะหน่อไม่อยู่แล้ว ปันปันเหงาจัง พี่เมญ่าไปนอนกับปันปันได้มั้ยค๊าบบ” “เดี๋ยวพี่มะหน่อก็กลับมาแล้ว” เมญารินทร์พยายามปลอบเด็กน้อย “ปันปันต้องเรียกว่าคุณน้าเมญ่าสิ ไม่ใช่เรียกพี่นะ” คุณลุงจำเนียรสอนหลานชายตัวน้อย “ไม่เป็นไรค่ะ..คุณลุง เรียกพี่ก็ได้” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะ “ถ้างั้นหนูเมญ่าก็ต้องเรียกลุงว่า พี่จำเนียรแล้วล่ะ” ลุงจำเนียรพูดขึ้นบ้างพร้อมกับหัวเราะตามเธอไป ก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำและบอกกับเมญารินทร์ เมญารินทร์นั่งนึกไปถึงคืนนี้ที่ต้องนอนเบียดกันสามคนบนเตียงก็เลยยังไม่อยากกลับห้อง เธอรู้สึกหวั่น ๆ แต่ก็คิดไปว่าติณห์ภัทรที่เมาหนักเช่นนั้นคงไม่มีแรงลุกขึ้นมาทำอะไรเธอต่อหน้ามารดาได้อย่างแน่นอน และต่อให้ยังไงคืนนี้ไงพัชรินทร์ก็คงจะต้องนอนบนเตียงกับลูกชายของเธออยู่วันยังค่ำ แต่สิ่งที่เมญารินทร์หวั่น ๆ ก็คือเด็กน้อยที่ชวนเธอไปนอนที่ห้องไม่หยุดเนี่ยสิ!..จะทำอย่างไรดี เมญารินทร์เดาว่าเด็กน้อยคงไม่ได้นอนกับสาวใช้พม่า และคงจะต้องนอนกับคุณปู่อย่างแน่นอน ส่วนมะหน่อนั้นอาจจะเป็นแค่พี่เลี้ยง ซึ่งเธอเดาว่าคุณลุงจำเนียรคงไม่ปล่อยให้หลานนอนกับคนใช้หรอกมั่ง เมญารินทร์รับปากเด็กน้อยไปเพราะความเอ็นดู และคิดว่าอีกสักพักก็จะตามไปเล่านิทานให้ฟังพอเด็กน้อยหลับเธอก็ค่อยกลับไปนอนที่ห้องของตัวเอง “นะค๊าบ...น้าเมญ่า ไปนอนกับปันปันนะค๊าบ ห้องปันปันมีม้าตัวใหญ่ด้วยน้า... ปันขี่มันเล่นทุกวันเลย” เด็กน้อยวัยห้าขวบเจื้อยแจ้วและหว่านล้อมเธอสารพัด “โอ้โห!!..แบ่งให้น้าขี่บ้างได้มั้ยค๊าบ” “ได้สิค๊าบ แต่น้าเมญ่าต้องสัญญากับปันปันก่อนนะค๊าบว่าจะไปนอนกับปันปันจริง ๆ ” “คร๊าบ.. น้าไม่โกหกหรอก” แล้วเด็กน้อยวัยห้าขวบก็ดีใจสุดฤทธิ์ จากนั้นก็พยายามจุงมือเมญารินทร์เข้าไปที่ห้องนอนของตนเอง ก่อนที่คุณลุงจำเนียรจะขอร้องให้เมญารินทร์พาปันปันไปนอนและทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในค่ำคืนนี้แทนสาวใช้พม่าที่ขออนุญาตกลับประเทศไป พอปันปันพาเมญารินทร์เข้ามาในห้องได้เรียบร้อย เด็กน้อยก็เล่าว่าคุณปู่ของเขาจะคอยมาเล่านิทานให้ฟังจนหลับทุกคืน ส่วนคนที่คอยอาบน้ำให้ก็จะเป็นพี่มะหน่อ เมญารินทร์จึงพาเด็กน้อยไปอาบน้ำ ก่อนจะเช็ดตัวให้แล้วพามานอนบนเตียง “แล้วคุณปู่ไม่นอนกับปันปันเหรอครับ” เธอแอบถามเด็กน้อย เพราะอยากรู้ว่านี่คือห้องของเด็กจริง ๆ หรือห้องนอนของคุณลุงจำเนียรกันแน่ “ไม่ค๊าบ คุณปู่บอกว่าคุณปู่สูบบุหรี่ก็เลยไม่นอนกับปันปัน น้าเมญ่าสูบบุหรี่มั้ยคร๊าบ” “ไม่ค่ะ น้าไม่สูบ มันเหม็น” “ดีเลย ปันปันก็ไม่ชอบ แต่เห็นผู้ใหญ่ชอบ” เด็กน้อยพูดเป็นต่อยหอย หลังจากที่เมญารินทร์เล่านิทานให้เด็กน้อยฟังไปหลายเรื่อง แต่เด็กน้อยก็ไม่มีทีท่าว่าจะง่วง ก่อนอาบน้ำให้เด็กน้อยเมญารินทร์ก็พาเล่นจนเหงื่อ สงสัยคงจะตื่นเต้นที่มีเธอเล่นด้วย “ปันปันคร๊าบ เดี๋ยวน้ามานะค๊าบ น้าขอไปอาบน้ำก่อน” เมญารินทร์ตัดสินใจบอกกับเด็กน้อย “น้าเมญ่ามาอาบน้ำที่ห้องปันปันสิค๊าบ” เด็กน้อยยื่นข้อเสนอ “ไม่เป็นไรค๊าบ เสื้อผ้าน้าอยู่ห้องนู้น น้าไปแป๊บเดียวนะค๊าบ..” “ก็ได้ค๊าบ” เด็กน้อยทำตาละห้อย เมญารินทร์อดไม่ได้จึงดึงเข้ามากอด เมญารินที่เป็นห่วงอาการเมาของสามี เธอจึงจะรีบกลับห้องเพื่อไปดูอาการของเขา และเธอก็ตั้งใจว่าจะกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อยแล้วค่อยกลับมาใหม่ เพราะตอนนี้ทั้งตัวเธอเต็มไปด้วยเหงื่อหลังจากที่เล่นกับเด็กน้อยมานาน แล้วถ้าหลานชายตัวแสบของคุณลุงยังไม่ยอมหลับยอมนอนอีกละก็..เธอจะเดินไปบอกให้เขามารับช่วงต่อจากเธอ ก๊อก..ก๊อก.. หญิงสาวยืนเคาะประตูหน้าห้องแต่ว่าไม่มีเสียงตอบรับจากคนด้านใน เธอจึงค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปอย่างเบาที่สุด ก่อนจะได้ยินเสียงของแม่สามี “เบา ๆ หน่อยสิ..พี่เค้าหลับไปแล้ว!!!” ยังไม่ทันที่เธอจะเดินถึงตัวสามีเลยด้วยซ้ำเสียงของพัชรินทร์ก็ดังขึ้น เมญารินทร์ก้าวเข้ามาภายในห้องด้วยความเงียบสนิทเท่าที่เธอจะพอทำได้ แต่ก็ยังไม่วายที่แม่สามีจะต้องต่อว่าเธอ เมญารินทร์มองเห็นติณห์ภัทรหลับปุ๋ยไปแล้วเธอก็เลยตัดสินใจไปอาบน้ำ พอเดินออกมา ก็เห็นพัชรินทร์ผู้เป็นมารดานอนกอดลูกชายหลับไปเสียแล้ว เมญารินทร์รู้ดีว่าแม่สามีนั้นคงไม่ได้หลับจริง ๆ แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือพัชรินทร์ไม่คิดที่จะเผื่อที่นอนสำหรับเธอเลย หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะเดินออกไปดูเด็กน้อย และถ้าเผื่อว่าปันปันหลับไปแล้วเธอก็จะกลับมานอนที่พื้นเอง เมญารินทร์คิดเอาไว้อย่างนั้น มือเรียวบางขาวสะอาด ค่อย ๆ เลื่อนประตูห้องของเด็กน้อยเข้าไปอย่างช้า ๆ เธอไม่ได้ยินเสียงของเด็กน้อยทักเธอในตอนแรกและเดาว่าเด็กน้อยคงจะหลับไปแล้ว ในเงามืดสลัวเธอเหลือบไปเห็นลุงจำเนียรนั่งอยู่บนโซฟามุมห้อง เมญารินทร์ตกใจเล็กน้อย เธอจึงรีบกล่าวคำขอโทษและหันหลังกลับทันที แต่ลุงจำเนียรก็เรียกเธอขึ้นเสียก่อน “หนูเมญ่า เดี๋ยวก่อนสิ!!” “คุณลุงยังไม่นอนเหรอคะ” หญิงสาวหยุดเดินแล้วหันกลับมาคุยกับชายชรา “ยังหรอกลุงยังไม่นอน หนูล่ะ!!!.. จะกลับไปนอนแล้วรึ” “ค่ะ คุณลุงมีอะไรหรือเปล่าคะ” “ช่วยนั่งดื่มเป็นเพื่อนลุงหน่อยสิ” “ขอโทษค่ะคุณลุง พอดีหนูไม่ถนัดดื่มเหล้าจริง ๆ ค่ะ” เมญารินทร์รีบปฏิเสธทันที คุณลุงจำเนียรที่เพิ่งย้ายมาดื่มต่อในห้องของหลานชาย เห็นเมญารินทร์ใส่ชุดนอนบางเบาแนบเนื้อก็เกิดอารมณ์ขึ้นมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม