“ขวัญ เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมอาบน้ำนานจัง” เขมินท์เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวขวัญออกไปค่ะ” อรินดาตอบกลับออกไป ก่อนที่เธอจะรีบจัดการตนเอง แล้วก็สวมชุดคลุมอาบน้ำ แล้วจึงเปิดประตูออกไป
อรินดาพบว่าเขมินท์ยืนรอเธออยู่ที่หน้าห้องน้ำ หญิงสาวหลบสายตาของชายหนุ่มด้วยความเขินอาย เมื่อเขมินท์เห็นอาการของหญิงสาวเขาก็อยากแกล้งเธอ ชายหนุ่มจงใจย่อตัวแล้วใช้สายตาจ้องเข้าไปในดวงตาของหญิงสาว เพราะแม่สาวที่เคยแก่นแก้วต่อปากต่อคำกับเขา ตอนนี้ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว เหลือเพียงหญิงสาวที่หน้าแดงด้วยความเขินอายเท่านั้น
“ทำอะไรน่ะพี่มินท์ หลีกทางเดี๋ยวนี้เลย ขวัญจะรีบไปแต่งตัว เดี๋ยวก็ไม่ทันพระหรอกค่ะ” หญิงสาวแสร้งโวยวายกลบความเขินอาย
“ไม่ทันก็ตามไปที่วัดเท่านั้นแหล่ะเมียจ๋า” เขมินท์กล่าวพร้อมทั้งหอมแก้มของหญิงสาว ก่อนที่เขาจะเดินผิวปากเข้าไปอาบน้ำอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่คนตัวเล็กได้แต่ฮึดฮัด เพราะเธอไม่สามารถเก็บความรู้สึกเขินอาย มันทำให้เขาเอามาล้อเลียนเธอได้เช่นนี้
อรินดาแต่งตัวด้วยความเร่งรีบ เธอกลัวว่าชายหนุ่มจะออกมายุ่มย่ามกับเธออีก และก็ไม่ผิดจากที่เธอคาด เขมินท์ออกมาวุ่นวายกับหญิงสาว ก่อนที่เธอจะใช้เสียงเข้มสั่งเขาให้รีบแต่งตัว และในที่สุดทั้งคู่ก็ลงมาทันเวลาใส่บาตรตอนเช้าไปอย่างฉิวเฉียด ทั้งสองได้รับพรจากหลวงพ่อ สำหรับวันแรกของการเริ่มต้นชีวิตคู่ อรินดารู้สึดสดชื่นเป็นอย่างมาก ในขณะที่เขมินท์ก็ไม่ต่างจากหญิงสาวเช่นกัน
และหลังจากทั้งคู่ใส่บาตรเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็เข้าไปหาคุณดวงใจที่ห้องนั่งเล่น ในขณะที่เขมินท์ก็เดินตามหญิงสาวไปติดๆ
“พี่มินท์ตามขวัญมาทำไม ไม่มีอะไรทำหรือไง” อรินดาหันมาบ่นชายหนุ่ม
“ก็ว่างน่ะสิ จะมาดูว่าขวัญใส่เสน่ห์ให้คุณยายหรือเปล่า ทำไมคุณยายถึงรักขวัญมากขนาดนี้” เขมินท์แกล้งเย้าหญิงสาว ซึ่งก็ได้ผลเพราะเธอจ้องเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ถ้าไม่พูดขวัญก็ไม่ได้ว่าพี่มินท์เป็นใบ้นะ ไม่ต้องตามมานะจะไปไหนก็ไป” อรินดาเดินเร็วไปที่ห้องนั่งเล่นทันที ในขณะที่ชายหนุ่มก็เดินตามเธอเข้าไปด้วยเช่นกัน