สีหน้าตกใจทำทุกคนชะงัก เขาหยิบกระดาษรายงานตัวของโนราห์วางทับไว้กับกองเอกสารปึกใหญ่
"ตอนนี้หมดเวลารับนักศึกษาแล้ว ปกติแกไม่ได้เป็นคนละเมิดกฎเกณฑ์อะไร" คำถามของเพื่อนเริ่มสงสัย
"ไม่ได้ยินหรือไง..ก็เด็กนี่บอกว่าหลงทาง โรงเรียนของเรากว้างใหญ่จะตายไป"
"น่าแปลกใจที่ผู้ชายบ้างานอย่างแกจะยินยอมเรื่องนี้อย่างไม่สะทกสะท้าน มีอะไรที่ฉันไม่รู้หรือเปล่า"
"แกเป็นเพื่อนฉันนะไม่ใช่แม่ ซักถามอย่างกับฉันเป็นลูกศิษย์ของแกอย่างนั้นแหละ!"
เบสไหวไหล่อย่างน่าหมั่นไส้ เพื่อนสนิทที่เขาคุยด้วยก็คือ บอย นอกจากเป็นอาจารย์สอนยังเป็นหุ้นส่วน
โรงเรียนนี้ ไม่ได้ขึ้นตรงในสารระบบรัฐบาล เป็นเพียงสถาบันสอนภาษาหลากหลาย รับเฉพาะผู้มีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์ขึ้นไป แบ่งแยกเรียนเป็นสี่ปีคล้ายกับมหาวิทยาลัย
เมื่อเรียนจบนักศึกษาจะถูกส่งไปฝึกงาน และ ทำงานที่ต่างประเทศ ทำให้สถาบันสอนภาษานี้กลายเป็นสถานที่แข่งขันของหลายบุคคลที่อยากเรียนรู้ทางด้านภาษาเพื่อต่อยอดอาชีพพัฒนาความเจริญทางหน้าที่การงานต่อไป
"พี่ชื่อ บอย เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ปีหนึ่งห้องสาม" หน้าตาดีแถมพูดจาสุภาพส่งยิ้มหวาน "ปกติแล้ว ผอ. ที่นี่มันเคร่งกฎมากแต่ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นห่าอะไร ฮ่าๆ"
"ผอ. ผู้อำนวยการของที่นี่หรือคะ?"
"ใช่ เบส ไอ้ผู้ชายท่าทางหยิ่งผยองเมื่อกี้นั่นแหละเป็นผู้อำนวยการสร้างของสถาบันที่นี่"
"ฉิบหาย.."
"ว่าอะไรนะ"
"อ๋อออ เปล่าค่ะแค่บอกว่าหิวข้าวจังเลย"
เพียงก้าวเข้ามาสถาบันศึกษาแห่งนี้ก็ไม่รู้ต้องถอนหายใจกี่เฮือก โนราห์ไม่สามารถย้ายโรงเรียนหรือไปมหาวิทยาลัยอื่นได้ เนื่องจากพ่อแม่บังคับให้เธอเรียนภาษาเพื่อต่อยอดธุรกิจในวันข้างหน้า
"เฮ้ยยย ชักช้ากูรองานอยู่เนี่ย" เสียงเรียกพร้อมถือแฟ้มงาม "มึงมัวทำอะไรอยู่วะไอ้บอย"
"กูก็กำลังรับนักศึกษาเข้าเรียนใหม่ มาช้ากว่าเวลาไปมากแต่ไอ้เบสดันสั่งให้รับเอาไว้"
"สวย น่ารัก น่าสนใจ"
"ตอนนี้มึงเป็นอาจารย์สอนแล้วหัดเก็บอารมณ์หื่นกระหายเอาไว้บ้างนะไอ้ ค็อป"
"กูก็แค่หยอกเล่น ฮ่าๆ ไปเถอะเข้าประชุม"
หลังจากทุกคนเดินเข้าไปในอาคาร โนราห์รีบหลับตาลงเธอกรีดร้องในใจดังมาก
ผู้ชายคนแรกที่เธอยอมมอบความบริสุทธิ์ให้เนื่องจากมึนเมา กลายเป็น ผอ.ของสถาบันศึกษา ที่เธอต้องเข้าเรียน
'ซวย!!'
โนราห์สบถออกมา สักพักก็เดินเข้าไปยังห้องนักศึกษาใหม่ปีหนึ่ง ภายในห้องโถงกว้างขวางบรรจุนักศึกษาได้หลายพันคน แต่ละปีจะมีหลากหลายห้อง เช่นตัวเธอได้อยู่ปีหนึ่งทับสาม ซึ่งแต่ละห้องจะมีอาจารย์ที่ปรึกษา ทุกคนต่างจ่ายค่าเล่าเรียนในราคาแพงเทียบเท่ามหาวิทยาลัยนานาชาติ
"มุมกระดาษสีแดง นักศึกษาโควตา" เสียงใครบางคนที่นั่งด้านข้างพูดพลางจิกตา "แย่จังทำไมห้องเราต้องมีพวกนักเรียนทุนด้วยนะ จนแต่ไม่เจียม"
"หมายถึงใคร.." นิสัยอาจหาญทำให้โนราห์ต้องเอ่ยถามอย่างสงสัย
"ก็หมายถึงเธอนั่นแหละ! ไม่มีเงินแล้วจะมาเรียนทำไม ที่นี่โรงเรียนสองภาษาเขาคัดเกรดมีแต่พวกลูกผู้ดีแต่มันน่าเบื่อที่มีพวกจนๆ มาร่วมแจม"
"ถ้าเธอมีเงินมากขนาดนั้น ซื้อหนังสือมารยาทแล้วต้มกินสักสิบวัน จะได้รู้ว่า..ถ้าไม่สนิทอย่าเสือก"
"!!!!"
"อีกอย่างนะ คนรวยอย่างเธอเรียนเก่งเท่าฉันหรือเปล่า? ถ้าไม่ ก็คงต้องใช้เงินพ่อแม่แก้ปัญหาไปจนตาย น่าเวทนา"
อีกฝ่ายอึ้งกิมกี่แม้อยากจะโต้เถียงแต่ก็นึกคำไม่ออก ใบหน้าสวยเฉียบพูดจาอย่างเรียบเฉยแต่เย้ยหยันภายในใจ รอบข้างต่างหัวเราะกับบทสนทนาสุดท้ายหลังจากรายงานตัวก็เป็นเวลา พักเที่ยง
"โนราห์"
เสียงเรียกทำให้ตัวเล็กหยุดชะงักเมื่อเธอหันหลังกลับไปปรากฏว่าเป็นเขา..ผู้อำนวยการ
"คืนนั้นเธอไม่ยอมบอกชื่อ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้ว แถมยังรู้ประวัติเธอแทบทุกอย่าง เรียนดีแต่ความประพฤติค่อนข้าง.."
"ค่อนข้างอะไรคะ?"
"ดื้อ ทะเลาะวิวาท ตีกับนักเรียน แถมยังมีปัญหากับอาจารย์ผู้สอนมาก่อน"
"แต่หนูไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อนนะ"
"ฉันไม่เชื่อหรอก"
"ทำไมถึงไม่เชื่อ"
"ขนาดครั้งแรกของเธอ..เธอยังเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเลย"
ไม่จริงหรอก แม้จะพยายามปฏิเสธแต่บางภาพก็แสดงให้เห็นบทบาท ไม่เคยผ่านชายใดมาก่อนแต่แอลกอฮอล์เร่าร้อนอาจจะทำให้จิตใต้สำนึกของเธอปลดปล่อยความรู้สึกมากมายออกมา
"อย่าหายใจแรงสิ" เบสกระซิบ "นมเธอมันกระเพื่อมสั่น ตัวนิดเดียวแต่เต็มไม้เต็มมือชะมัด ไว้เรา..มารำลึกความหลังด้วยกันอีกนะ หึ"