"พอดีว่าง"
"อ๋อ...มิน่านนท์เลยว่างไปรับหวานที่ร้าน"
ฉันยืนนิ่งเป็นหินเหมือนโดนสาปจากรูปปั้นเมดูซา คนที่ฉันเข้าใจมาตลอดว่าเป็นคนงานในไร่เขาคือนายหัวของที่นี่ แล้วทำไมเขาถึงไม่บอกฉันปล่อยให้ฉันพูดอะไรไปเรื่อย ทั้งอายทั้งโกรธเขาตั้งใจทำให้ฉันดูโง่สินะ พี่น้ำหวานกับพี่นนท์ก็ขอตัวกลับบ้านพักแต่ไม่ใช่โซนเดียวกับฉัน เขาชี้ว่าบ้านเขาอยู่โซนไร่ห่างไปไม่ไกล ฉันรีบก้าวหน้าหนีคนแสนร้ายคนนี้ทันทีไม่อยากจะคุยกับเขาอีกต่อไป แต่ทุกครั้งที่ฉันก้าว 2 ก้าวก็คงเท่ากับเขา 1 ก้าวเท่านั้น สุดท้ายก็ยังรู้สึกว่าร่างสูงของเขาเดินตามอยู่ด้านหลังตลอดเวลา พอเห็นบันไดบ้านฉันก็เลยตัดสินใจรีบวิ่งโดยที่ไม่หันหลังกลับมามองเขาอีกเลย ความอายถึงจะมีมากแต่ความเหนื่อยมันมากกว่าทำให้พออาบน้ำเสร็จใส่เสื้อผ้าหัวถึงหมอนก็หลับไปเลย เสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ช่วง 6 โมงเช้าทำฉันตื่นแต่ก็อยากจะนอนต่อสักหน่อย พอนึกถึงหน้านายหัวเหมืองฉันก็ดีดตัวเองขึ้นมานั่ง ฉันจะโดนอะไรบ้างก็ไม่รู้วันนี้ พอเปิดประตูกำลังจะเดินลงมาก็เห็นเขายืนอยู่แถวหน้าบ้านของตัวเขาเอง คงได้ยินเสียงฉันเลยทิ้งบุหรี่แล้วก็หันมาพูดบางอย่าง
"ไปกินข้าวแล้วจะได้ไปไร่"
"ค่ะ"
"เป็นไร"
"เปล่าค่ะ"
"ปกติพูดเป็นต่อยหอย"
"เพิ่งเจอกันวันเดียวจะรู้ได้ไงว่าปกติฉันเป็นแบบไหนคะ"
โอ๊ยฉันแอบหันข้างยกมือตีปากตัวเองทำไมถึงไปเถียงเขา แต่ช่วยไม่ได้พูดออกไปแล้วจะขอโทษไปก็เท่านั้น อีกอย่างฉันก็พูดตามจริงไม่ได้พูดอะไรผิดสักคำ เขาเองก็ไม่ได้ว่าต่อเอาตัวเองขึ้นมอเตอร์ไซต์รอฉัน งั้นฉันก็ปล่อยเลยตามเลยแล้วกัน ไปถึงโรงครัวก็มีคนงานคล้ายแบบเมื่อวานทุกคนหันมายกมือไหว้ คราวนี้รู้แล้วว่าไม่ใช่ฉันที่พวกเขาทักแต่เป็นคนที่วันนี้เดินนำเข้ามาที่นี่ เด็กผู้ชาย 2 คนอายุประมาณ 13-14 วิ่งปรี่เข้ามาทางฉันก่อนจะยิ้มให้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"นายหัวพาใครมาครับ"
"สวยจัง"
"ทะลึ่งไอ้นี่"
"พี่ชื่อดาจ๊ะ...พวกเราล่ะ"
คนตัวบางแนะนำตัวเองว่าชื่ออานิส อีกคนที่ตัวหนาหน่อยและสูงกว่าเล็กน้อยชื่ออาร์ม แนะนำตัวเองเสร็จทั้งคู่ก็โดนนายหัวไล่ให้ไปเล่นที่อื่น ฉันเลยได้แต่โบกมือลาก่อนจะหันไปหยิบถาดเพื่อตักข้าว ช่วงเช้าวันนี้มีข้าวเหนียวไก่ทอดและกาแฟ ชา อาหารจะไม่เยอะเท่าตอนช่วงเที่ยงแต่ก็ไม่น้อย
"น้องอยู่ที่นี่หรือคะ"
"อืม"
"พ่อแม่น้องทำงานที่นี่สินะ"
"เคยทำ"
"..."
"ทั้ง 2 เสียไปเมื่อหลายปีก่อน"
"อ้าวแล้วตอนนี้อยู่กับใครล่ะ"
"ฉัน...กินเร็ว ๆ อย่าถามมาก"
ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะต้องมาทำอะไรแบบนี้แต่เพราะคุณน้าณีหรืออาจารย์กัลยาณีของผู้หญิงคนนี้โทรมาฝากให้ผมดูแล ไอ้ครั้นจะโยนไปให้ไอ้นนท์ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องก็ทำไม่ได้เพราะมันเพิ่งจะแต่งงาน ให้มาดูแลนักศึกษาผู้หญิงคงไม่เหมาะจะโยนให้คนงานในไร่ก็กลัวคุณน้าไม่สบายใจ คุณน้าดูแลผมมาตั้งแต่เด็ก ๆ เรียกว่าเป็นแม่คนที่สองก็ได้ ผมใช้ชีวิตเรียนหนังสืออยู่ที่กรุงเทพจะกลับมาบ้านก็เฉพาะวันหยุด จนกระทั่งเรียนจบมหาลัยเลยตัดสินใจกลับมาดูแลงานที่บ้านและปรับพื้นที่บางส่วนเป็นไร่ชา งานหลักของบ้านผมคือสัมปทานรังนก ผมจึงอยู่ที่ไร่บ้างไปเกาะบ้างก็เลยตัดสินใจย้ายตัวเองมานอนที่บ้านพักตรงโฮมสเตย์เพราะทำงานง่ายกว่าเข้าออกเมื่อไหร่ก็ได้ แม่ผมจะได้ไม่ต้องคอยตื่นมาดูบ่อย ๆ บ้านใหญ่ของผมจะอยู่อีกฝั่งของไร่ซึ่งผมเองก็เข้าไปกินมื้อเย็นเกือบทุกวัน ถ้าไม่เข้าก็จะบอกแม่กับพ่อก่อนท่านจะได้ไม่ต้องรอ บางวันก็เป็นไอ้นนท์กับเมียไปทานเป็นเพื่อนพวกท่านแทนผม
"ฉันจะต้องทำงานกับนายหัวหรือคะไม่ได้มีพี่คนงานอื่นมาดูแลหรอ"
"เป็นฉันแล้วทำไม...ทำไม่ได้"
"ทำได้ค่ะ"
แรกเจอผมก็ว่าเด็กคนนี้ดูน่าจะเรียบร้อยไม่มีปากไม่มีเสียงจะอยู่ที่นี่ได้ครบ 3 เดือนหรือก็ไม่รู้ ที่ไหนได้เถียงตาใสตลอดเหมือนจะยอมคนแต่ไม่เห็นจะยอมผมสักเรื่อง นี่ขนาดรู้ว่าผมเป็นเจ้านายนะวันนี้ยังทำหน้าตาบู้บี้ใส่ผมตั้งแต่เช้าที่เจอ ที่กับคนอื่นพูดจาเสียงหวานใส่ยิ้มจนปากจะฉีกอยู่แล้ว
"ดี"
"ค่ะ"
"เดี๋ยวจะพาไปดูเขาเก็บใบชา"
"อืม"
"จ๊ะ จ้า แบบคนอื่นเขาทำเป็นไหมทำไมพูดจากับผู้ใหญ่เสียงแข็งแบบนี้"
"ก็ค่ะ คะ แล้วตรงไหนที่ไม่ดีคะนายหัว"
"อาจารย์เธอรู้ไหมว่าเธอเป็นคนแบบนี้"
"ทราบค่ะ"
"ก็ดี...ดูสิจะไปสุดที่ตรงไหน"
จะมาคอยดูฉันเพื่อ !!! เขาเองก็ไม่เห็นจะพูดจาดีกับฉันเลย ทั้งดุทั้งกระด้างสั่งแม้กระทั่งตอนกินข้าว เป็นใครก็ไม่ชอบหรอกขาก็ยาวตัวก็ใหญ่เวลาเดินนำหน้าชอบหยุดกะทันหัน ทำเอาฉันที่คอยจดสิ่งที่เขาบอกอยู่มองไม่ทันชนหลังเขาตลอด
"นายหัว"
"ว่า"
"ถ้าจะหยุดเดินช่วยบอกหน่อยไม่ก็หลบสักนิด"
"ทำไม"
"ฉันไม่ทันเห็นชนหลังนายหัวจนเจ็บหน้าไปหมดแล้ว"
"ไหน...ขอฉันดูหน่อยสิ"