วันต่อมา คิรันโดนถามเรื่องนาเนียร์จากคนเป็นแม่จนรู้สึกหงุดหงิด เขาพยายามเต็มที่แล้วแต่นาเนียร์เลือกที่จะเล่นตัวไม่เข้าท่า มือหนาโยนโทรศัพท์ที่เพิ่งตอบแม่เสร็จลงโซฟา ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำออกมาเทใส่แก้วแล้วยกดื่ม “วุ่นวายฉิบหาย…” ปากหนาพึมพำเบาๆ ก่อนจะวางแก้วลงเคาน์เตอร์ครัวดัง ปึก! อย่างไม่สบอารมณ์ เขาไม่ได้อยากง้อนาเนียร์ ไม่ได้คิดจะง้อเลยด้วยซ้ำ ที่ทำก็เพราะเห็นแก่หน้าพ่อกับแม่เท่านั้น ถึงแม้เพนท์เฮาส์มันจะดูเงียบและอ้างว้างก็เคย ทว่าเขาก็ไม่ได้อยากให้ยัยนั่นกลับมาที่นี่ ร่างสูงเดินกลับมาทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างไม่สนใจมาดเจ้าพ่อที่เคยรักษา มือหยิบหมอนใบหนึ่งมาปาใส่ข้างฝาอย่างระบายอารมณ์ แล้วเอื้อมมือคว้าโทรศัพท์ที่เพิ่งโยนเมื่อครู่มากดจอแรงๆ ‘ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ ถ้าหนูจะกลับ เดี๋ยวกลับเอง’ คำตอบของนาเนียร์ยังติดหู ทั้งเย็นชาและทั้งห่างเหิน เล่นตัวอะไรนักหนา เขาเค้นหัวเราะเบา