บทที่ 4-1

1059 คำ
กระจกรถฝั่งที่นีรญานั่งค่อยๆ ลดลงเมื่อรถมาถึงหน้าคฤหาสน์คาสซาโน่ นีรญาหันไปพูดกับยามเฝ้าประตูที่วิ่งเข้ามาสอบถามเพราะเห็นว่าเป็นรถที่ไม่คุ้นตา “นีรเองค่ะ” ยามคนดังกล่าวทำความเคารพ ก่อนจะวิ่งกลับไปที่ป้อมยามแล้วกดปุ่มเปิดประตู ประตูอัลลอยด์สีทองค่อยๆ เลื่อนเปิด รถจึงค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปด้านใน “ขอบคุณนะคะ” นีรญากล่าวขอบคุณพร้อมกับที่มือบางเอื้อมไปปลดเข็มขัดนิรภัยออก แต่ก่อนที่หญิงสาวจะทันได้ก้าวลงจากรถ เอริคก็พูดบางอย่าง “คุณนีรรอแป๊บนึงนะครับ” นีรญายังไม่ทันตอบรับ เอริคก็เปิดประตูแล้วก้าวลงจากรถไปเรียบร้อยแล้ว นีรญามองตามชายหนุ่มที่เดินอ้อมมาอีกฝั่ง ก่อนที่เขาจะเปิดประตูรถให้เธอ “ขอบคุณค่ะ” นีรญากล่าวขอบคุณกับความเป็นสุภาพบุรุษของเอริค ร่างแบบบางก้าวลงมาจากรถ หญิงสาวถอดเสื้อสูทคลุมไหล่คืนให้เขา เอริครับเอาไว้ “ขับรถกลับดีๆ นะคะ” นีรญากล่าวตามมารยาทอย่างที่ควรจะเป็น เอริคยิ้มรับก่อนจะกล่าวลา “ครับ เจอกันพรุ่งนี้นะครับ” “ค่ะ” นีรญารับคำ เอริคจึงก้าวขึ้นรถ ก่อนที่ชายหนุ่มจะขับออกไป นีรญามองตามหลังจนรถของเอริคลับสายตา หญิงสาวจึงขยับเท้าเข้าไปในตัวบ้าน เท้าเล็กก้าวพ้นประตูได้เพียงสองก้าว ก็ต้องชะงักเท้าอยู่ตรงนั้น เมื่อร่างสูงของฟอซโซก้าวมาขวางหน้าเธอไว้ “พี่ฟอซ” “ดีจังนะ เพิ่งจะรู้จักกันไม่ทันไร ก็ให้ผู้ชายมาส่งถึงบ้าน” ดวงตาคู่สวยเหลือบมองคนสูงกว่าที่กำลังแค่นยิ้ม นีรญาไม่เข้าใจเลยสักนิดกับคำต่อว่าของอีกฝ่าย เป็นเขาไม่ใช่หรอกหรือที่พยายามจะยัดเยียดให้เอริคมาส่งเธอ ทั้งที่เธอตั้งใจจะปฏิเสธอยู่แล้วแท้ๆ ยิ่งพอคิดถึงเรื่องที่เขาตกปากรับคำจะไปกินมื้อค่ำที่ีบ้านของโมนิกา ซึ่งแน่นอนว่าน่าจะมีการพูดถึงเรื่องแต่งงาน นีรญาก็รู้สึกว่าเธอควรจะต้องอยู่ให้ห่างจากชายหนุ่มมากที่สุด ทั้งที่ไม่ใช่อย่างที่ใจต้องการ แต่เป็นเพราะเขาพยายามผลักไส ตั้งแต่เกิดเรื่องในคืนนั้นดูเหมือนว่าไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ดูขัดหูขัดตา สร้างความไม่พอใจให้เขาไปเสียทุกอย่าง และตอนนี้หญิงสาวก็คร้านจะโต้แย้งอีกแล้ว “พี่ฟอซมีอะไรจะต่อว่านีรอีกไหมคะ ถ้าไม่มีนีรจะขอตัวขึ้นไปข้างบน” นีรญาสบสายตากับเขา เมื่อไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากหยักลึก นีรญาจึงเดินเลี่ยงไปอีกทาง เพราะคนที่สูงกว่าไม่ยอมหลีกทางให้เธอ ซ้ำพอเธอเดินเลี่ยง เขาก็ขยับเท้ามาขวางเธอเอาไว้ จนหญิงสาวต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา “พี่ฟอซมาขวางทางนีรทำไมคะ” “พี่ยังไม่อนุญาตให้เธอไป เธอก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” เปลือกตาบางปิดลงครู่หนึ่งแล้วเปิดขึ้น ร่างเล็กพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ดวงตากลมโตจับจ้องที่ใบหน้าหล่อเหลา “แล้วพี่ฟอซมีอะไรจะพูดกับนีรอีกหรือคะ” “พี่จะบอกว่าทำอะไรควรจะนึกถึงหน้าพ่อกับแม่บ้าง ตอนกลางวันเธอก็ทำตัวสนิทสนมกับผู้ชายอีกคน พอตกกลางคืนก็ทำตัวสนิทสนมกับผู้ชายอีกคน แบบนั้นมันสมควรแล้วอย่างนั้นเหรอ” นีรญามองคนที่สูงกว่าอย่างตัดพ้อ นี่เขาคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน กลีบปากนุ่มเม้มเหยียดจนเป็นเส้นตรง และหญิงสาวก็คร้านจะแก้ต่างให้ตัวเอง เพราะถึงอย่างไรชายหนุ่มก็ได้ตัดสินเธอไปแล้ว “ค่ะ ต่อไปนีรจะระมัดระวังให้มากกว่านี้ พี่ฟอซมีอะไรอีกไหมคะ ถ้าไม่มีนีรขอตัว” ฟอซโซบดกรามเข้าหากันแน่น อารมณ์กรุ่นแล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆ หญิงสาวควรจะปฏิเสธไม่ใช่หรอกหรือ ทำไมถึงได้ตกปากรับคำง่ายดายแบบนี้ บ้าเอ๊ย! ทำไมเขาต้องรู้สึกหงุดหงิดด้วยวะ ฟอซโซไม่เข้าใจตัวเองเลยสักนิด และคนมองอย่างนีรญาก็ไม่เข้าใจท่าทางหัวเสียของอีกฝ่ายเช่นกัน หญิงสาวทราบเพียงแต่ว่าตั้งแต่เกิดเรื่องคืนนั้น ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ดูขัดหูขัดตาของชายหนุ่มไปเสียหมด ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เธอขอพูดเรื่องที่ค้างคาใจอยู่เลยก็แล้วกัน “พี่ฟอซคะ เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นนีรขอโทษนะคะ ต่อจากนี้นีรสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก และถ้าพี่ฟอซหงุดหงิดใจเวลาที่เห็นนีร นีรจะพยายามอยู่ให้ห่างจากพี่ฟอซมากที่สุดก็แล้วกันนะคะ” นีรญากล่าวในสิ่งที่ค้างคาใจออกไป หญิงสาวทราบดีว่าตัวเองผิดที่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องของเขา ต่อจากนี้เธอจะพยายามห้ามปรามความรู้สึกของตัวเอง เธอกับเขาควรจะเป็นแค่พี่น้องกัน และที่สำคัญไปกว่านั้น เขารังเกียจเธอ เธอยังจำภาพนั้นได้ติดตา ภาพที่เขายกหลังมือขึ้นเช็ดริมฝีปากหลังจากที่เธอเสียหลักล้มลง ริมฝีปากของเธอกับเขาสัมผัสกันอย่างไม่ตั้งใจ นั่นทำให้เธอรู้ว่าเขารังเกียจเธอมาก หากดันทุรังไปก็มีแต่เจ็บปวด เพราะฉะนั้นเธอจะอยู่ให้ห่างจากเขามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อพูดเรื่องที่ต้องการจบ นีรญาก็เดินจากไป และฟอซโซเองก็ไม่ได้รั้งหญิงสาวไว้อีก ชายหนุ่มทำเพียงพูดด้วยเสียงเย็นชาไล่หลัง “ดี แล้วทำให้ได้อย่างที่พูดล่ะ” ความรวดร้าวคืบคลานเข้าสู่กลางอกอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อได้ยินประโยคดังกล่าวออกมาจากริมฝีปากหยักลึก แต่ถึงกระนั้นนีรญาก็เลือกที่จะเก็บมันลงสู่ก้นบึ้งหัวใจ “ค่ะ” หญิงสาวรับคำแล้วขยับเท้าต่อไปโดยไม่ได้เหลียวมามองคนด้านหลังอีก ฟอซโซบดกรามเข้าหากันแน่น นัยน์ตาสีเทาอ่อนวาววับ ริมฝีปากหยักลึกคำรามอย่างหัวเสีย ซึ่งนีรญาไม่ได้ยินเพราะหญิงสาวหายขึ้นไปชั้นสองเรียบร้อยแล้ว “อวดดี”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม