บทที่สาม

1808 คำ
เช้าวันแรกของการเป็นสามีภรรยาป้ายแดงคือควงกันเดินห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง หญิงสาวโดนชายหนุ่มปลุกตั้งแต่ฟ้าสว่างจาง ๆ เมื่อวานหลังตกลงกันเรียบร้อยพายุก็ดื่มตรงเคาน์เตอร์บาร์ต่อ หญิงสาวไม่แน่ใจว่าเขาเอาพลังงานมากมายจากที่ไหน “พี่ลมจะรีบไปไหนปลุกเทียนเช้าขนาดนี้จะให้ตื่นมาเปิดห้างแข่งกับยามหรือไงคะ” “พึ่งรู้นะว่าเทียนขี้บ่น” ไฮโซหนุ่มถอยรถเข้าโซนวีไอพีที่ล็อกไว้ให้จอดเพียงไม่กี่คัน เขามีอภิสิทธิ์ก็เพราะมูลค่าช็อปปิงสินค้าต่อปีหมดไปหลายล้านบาท “พูดว่าเรียกร้องสิทธิ์ตัวเองจะถูกต้องกว่าค่ะ เราตกลงกันเมื่อวานก็จริง แต่พี่ลมก็ไม่มีสิทธิ์ลากเทียนไปไหนต่อไหนแบบไม่ถามความสมัครใจอย่างนี้” “พูดมากน่า ลากมาวันนี้ก็จะให้ทำหน้าที่เมียนี่แหละ” “หน้าที่เมีย?” เทียนหอมเหลือบมองเขาด้วยแววตาสงสัย ให้เธอทำหน้าที่เมียที่ห้างสรรพสินค้าเนี่ยนะ พายุต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ “เป็นเมียที่ดีต้องหัดเชื่อฟังผัวบ้างนะ ไม่รู้หรือไงพักหลังนี้เทียนกำลังดื้อตาใสใส่พี่อยู่” “ก็พี่…” เขาใช้นิ้วชี้แนบริมฝีปากอิ่มเป็นการออกคำสั่งนัย ๆ เทียนหอมหน้าแดงแจ๋ หัวใจเต้นตึกตักเพียงวงหน้าหล่อร้ายโน้มใกล้ชิด “หยุดพูดแล้วทำหน้าที่ตัวเองด่วน” “รู้แล้ว!!” เมื่อศึกบนรถคันหรูสงบพายุก็เดินนำเทียนหอมตรงไปยังปลายทางที่วางแผนไว้ เขาเร่งฝีเท้ารีบ ๆ จนคนช่วงขาสั้นกว่าสับตามแทบไม่ทัน “ช้าจริง” ปากหยักบ่นพึมพำแล้วค่อยชะลอหยุดลงเพื่อคว้ามือเธอมาครอบครอง กระทั่งสุดท้ายทั้งสองก็หยุดบริเวณหน้าชอปแบรนด์เนมชื่อดังซึ่งขายทั้งกระเป๋า รองเท้า และเสื้อผ้า “สวัสดีค่ะคุณลมไม่ทราบว่าวันนี้มีอะไรให้แซนดี้รับใช้ดีคะ” SA สาวปากแดงในชุดสีดำปรี่เข้าใกล้ไฮโซหนุ่มพร้อมพนมมือไหว้ต้อนรับ “คอลเล็กชัน Spring summer ที่เข้าใหม่ตอนนี้ ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าเอามาดูหน่อยครับ พอดีวันนี้เมียผมอยากช็อปปิง” พายุว่าขณะโอบเอวบางหลวม ๆ ทำเอาเทียนหอมมองสามีป้ายแดงอย่างเคลือบแคลง แม่ค้าคนสวยไม่แน่ใจว่าไฮโซหนุ่มกำลังเล่นเกมอะไรกันแน่ แต่เธอชักไม่สนุกด้วยเพราะต้องเสียเวลาช่วงเช้าไปกับการช็อปปิงแทนที่จะได้เข้าร้าน ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงดีใจเนื้อเต้นที่สามีเปย์แบรนด์เนมสุดหรูให้ แต่ไม่ใช่เธอเพราะรู้ดีว่าสุดท้ายต้องแลกกับอะไรบางอย่างนั่นแหละ ชายหนุ่มคนนี้ไม่เคยให้อะไรฟรี ๆ ทุกครั้งที่เสียผลประโยชน์ย่อมคำนวณตามประสานักธุรกิจแล้วว่าจะได้กลับคืนมากกว่าเพียงใด “ได้เลยค่ะ แซนดี้จัดให้” คล้อยหลังพนักงานหน้าสวย คนตัวเล็กใช้ศอกกระทุ้งเบา ๆ จนชายหนุ่มจำต้องผละห่าง เขามองเธอด้วยแววตาฉงนชัดเจนว่ากำลังตั้งข้อสงสัย “เป็นไรทำไมต้องทำฤทธิ์เยอะ” “พี่นั่นแหละเป็นบ้าอะไร จะซื้อของแพง ๆ แบบนี้ให้เทียนทำไม พี่หวังอะไรกันแน่หรือพี่จะ…” “โอย ไม่ต้องทำหน้าระแวงพี่หรอก เคยบอกอยู่ อย่างเทียนไม่ใช่สเป็กพี่” คนมีความมั่นใจในตัวเองสูงลิ่วเห็นท่าทีภรรยาก็กลั้วหัวเราะ “แค่อยากเปลี่ยนลุคเทียนเฉย ๆ อีกไม่กี่อาทิตย์ก็งานแต่งลิตา รู้ใช่ไหมว่าในฐานะเมียของพี่เทียนมีหน้าที่อะไร” “ตุ๊กตา คู่ควงคนใหม่…” เสียงราบเรียบถามขณะตวัดปลายเล็บจิกข้างลำตัวแน่น เธอพยายามค้นหาวิธีให้ชินและชากับความรู้สึกเจ็บลึกเวลาได้ยินชื่อลลิตา “เพราะอย่างนี้ใช่ไหมพี่ถึงพาเทียนมาวันนี้ พี่อยากใช้เทียนเอาคืนกิ๊กเก่าพี่ เทียนเข้าใจถูกหรือเปล่า” “เทียนพี่…” พายุน้ำท่วมปากทันใด จะอ้าปากปฏิเสธก็ไม่ได้เพราะที่เธอพูดก็ถูกต้องทุกอย่าง “โอเคเทียนเข้าใจ” เทียมหอมเผยรอยยิ้มฝืน “งั้นพี่ก็เตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน วันนี้เทียนจะรูดบัตรพี่ให้กระเป๋าตังค์ฉีกไปข้างหนึ่ง!” “นี่เราไม่ได้กำลังประชดหรือน้อยใจอยู่ใช่ไหม” “ทำไมต้องน้อยใจ?” เธอแสร้งถามกลบเกลื่อนความเศร้าข้างใน “มีผู้ชายเปย์หนักขนาดนี้ต้องดีใจสิ น้อยใจทำไมเสียเวลาเปล่าเนอะ” เห็นคนตัวเล็กตอบกลับอย่างนี้เขาก็ถอนหายใจประหนึ่งโล่งอกเสียเต็มประดา “โล่งอกไปที” ทั้งสองช็อปปิงต่อด้วยความสนุกโดยชายหนุ่มเองไม่รู้ตัวว่าเพียงเศษความรู้สึกเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจก่อตัวเป็นคลื่นใต้น้ำลูกใหญ่ได้ในอนาคต ล่วงเลยกว่าสามชั่วโมง… พอภารกิจช่วงเช้าเสร็จสิ้นก็ถึงเวลาอาหารเที่ยงพอดิบพอดี คู่หนุ่มสาวพากันเดินเรื่อย ๆ จนอยู่หน้าร้านโอมากาเสะชื่อดัง “กินนี่ปะ?” พายุเสมองทางป้ายไฟสีแดงข้างหน้าซึ่งเขียนเป็นชื่อร้านตัวเบ้อเร่อ เทียนหอมเม้มริมฝีปากคล้ายครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนแววตาซุกซนพลันฉายขึ้น “พี่ลมกินแต่อาหารญี่ปุ่นซ้ำ ๆ ไม่เบื่อบ้างหรือไง” “ก็มันอร่อยพี่ชอบหรือเทียนมีตัวเลือกไหนดีกว่าที่นี่ก็แนะนำดิ” “เทียนแนะนำอะได้ แต่พี่สิจะกินร้านที่เทียนชอบได้เหรอ” “ดูถูกมาก งั้นนำไปเลย แค่เทียนชอบทุกร้านพี่กินได้หมดแหละ” เขาไหวไหล่พร้อมทำทีท่ามั่นอกมั่นใจ “ค่าคุณชาย จะร้องโวยวายกลับมาที่นี่ไม่ได้นะ เทียนให้เวลาพี่เปลี่ยนใจสิบวิ” “คนอย่างไอ้ลมพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว ดีลปะ” “ดีล!” รอยยิ้มบางเบาผุดขึ้นข้างริมฝีปากอิ่ม ยายแก้มป่องหมุนตัวเดินนำหน้าคุณชายไฮโซ พอขึ้นสปอร์ตคาร์คันหรูเธอก็กดจีพีเอสให้เขาทันที นัยน์ตาคู่คมเหลือบสังเกตเผิน ๆ เห็นชื่อร้าน ‘ป้าอุไร’ ก็เก็บความใคร่รู้ไว้ในสมอง ปลายเท้าเลือกเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าตามหมุดดังกล่าว แม้เส้นทางที่ว่าไม่คุ้นเคยเลยก็ตาม เขาขับผ่านซอยแคบ ๆ ด้วยท่าทางระมัดระวัง ใบหน้าหล่อเจือกังวลจนเทียนหอมแทบหลุดขำคงกลัวว่าเจ้าแอสตันมาร์ตินลูกรักจะเกิดรอยขีดข่วน ถึงหน้านิ่วคิ้วผูกโบขนาดนี้ และแล้วพวกเขาก็ถึงจุดหมายสักที ร้านป้าอุไรคือร้านอาหารตามสั่งง่าย ๆ ริมคลองสุดชิล บรรยากาศรอบกายค่อนข้างมีลูกค้าพลุกพล่าน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักศึกษาหรือผู้คนวัยทำงาน อาจเพราะราคาอาหารจานละไม่ถึงร้อยบาทแถมรสชาติยังเด็ดสะระตี่ ร้านป้าอุไรจึงเป็นที่นิยมเพราะถูกพูดถึงแบบปากต่อปาก “นี่เหรอร้านเด็ดของเทียน” “อือฮึ… ทำไมไม่ชอบเหรอ พี่ลมจะกินอาหารพวกนี้ได้หรือเปล่า” เทียนหอมยิ้มหวานตอบกลับ “ถ้าพี่ลมไม่กล้าเราเปลี่ยนไปร้านอื่นก็ได้นะ เทียนโอเค” “ทำไมพี่ต้องไม่กล้า!” เสียงห้าวตอกกลับ “จะสั่งเมนูไหนก็จัดมา อะไรที่ว่าเด็ด ๆ พี่กินได้หมดแหละ” “น้อมรับคำบัญชาค่ะคุณชาย” เทียนหอมขยิบตาให้เขาหนึ่งที ก่อนมือนุ่มหยิบเมนูแล้วออร์เดอร์อาหารจานโปรดซึ่งรับประทานประจำเวลามาเยือนที่นี่ เธอสั่งกะเพราหมูสับไข่ดาวสองจานแล้วตบท้ายด้วยส้มตำปูปลาร้าแซ่บ ๆ แบบที่ตนชอบ ใช้เวลาไม่นานอาหารจานดังกล่าวก็มาเสิร์ฟ พอเห็นพริกสีแดงเต็มจานพายุแทบยกมือปาดเหงื่อ ชายหนุ่มเกลียดรสชาติเผ็ดร้อนที่สุด ทว่าก็ไม่อาจลดทิฐิลงจึงตักอาหารเข้าปากจากนั้นก็ดื่มน้ำตามหลาย ๆ อึก “ช้า ๆ ก็ได้นะพี่ลม เทียนไม่ได้พาพี่มาแข่งกินมาราธอน” หญิงสาวเห็นท่าไม่ดีจึงหยิบทิชชูซับบริเวณวงหน้าหล่อเหลาเป็นระยะ “เมียสุดที่รักอุตส่าห์พามากินร้านโปรดทั้งทีจะช้าได้ยังไงล่ะจริงไหม” พอฟังคนปากเสียประชดเท่านั้นแหละเธอก็กัดฟันกรอดตอบกลับทันที “งั้นกินเยอะ ๆ เลย กินให้หมดนะไม่งั้นแสดงว่าพี่ไม่แน่จริง!” คราแรกก็สงสารพายุหรอกแต่พอเห็นเขาอวดดีอย่างนี้ เทียนหอมชักหมั่นไส้ในนิสัยชอบเอาชนะแพ้ไม่เป็นของเขา ทว่าอย่างไรเสียมือนุ่มก็ยังช่วยซับเหงื่อจนกระทั่งอาหารเกลี้ยงจาน กลายเป็นว่ามื้อนี้เขาอิ่มหนำ แต่คนวางแผนอย่างเธอกลับต้องนั่งพะวงห่วงกลัวว่าชายหนุ่มทนไม่ไหว และก็เป็นตามที่เทียนหอมคาดคิดไว้ไม่มีผิดเพี้ยน เมื่อกลับคฤหาสน์คืนนั้นพายุท้องเสียเกือบทั้งคืน คงเพราะไม่ค่อยกินรสจัดพอซัดเต็มก็หมดสภาพอย่างที่เห็น “…เทียน ไหนเกลือแร่” สุดท้ายก็ต้องลำบากเธอดูแลเขาอีกตามเคย “จิบทีละนิดนะพี่ลม” คนตัวเล็กเอ่ยขณะช่วยประคองแก้วน้ำ “อื้อ ขอบคุณ” ชายหนุ่มรับคำแล้วทำตามคำสั่งอย่างว่าง่ายไม่เหลือภาพพี่ลมคนดื้อ พอเห็นพายุดื่มเกลือแร่เสร็จเทียนหอมนำแก้วดังกล่าววางไว้ตรงโต๊ะข้างเตียง เธอกดปิดสวิตช์ไฟเพราะเข็มนาฬิกาเดินใกล้เวลาเที่ยงคืน แขนเรียวทั้งสองข้างยกบิดขี้เกียจพลางอ้าปากหาวเร็ว ๆ “ง่วงเหรอ” พอความเงียบปกคลุมก็ได้ยินเสียงทุ้มของคนข้างกายชัดเจน “ง่วงมาก” หญิงสาวตัดบทสนทนาเพราะเปลือกตาใกล้ปิดลงเต็มที “ง่วงก็ฝันดีนะ” “ฝันดีค่ะพี่ลม” “…” เมื่อกล่าวราตรีสวัสดิ์เรียบร้อย ไม่รู้เพราะเหตุใดแม้เครื่องปรับอากาศแผ่ความเย็นเฉียบทั่วห้อง แต่ข้างในกายสาวกลับรู้สึกร้อนผ่าว อาจเป็นเพราะเรียวแขนเล็กสัมผัสท่อนแขนกำยำใกล้ ๆ แถมเธอยังได้ยินเสียงลมหายใจเขาระบายเข้าออกเชื่องช้า ใจเจ้ากรรมจึงพลอยเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ และคล้ายว่าพายุเองก็รับรู้ความรู้สึกคนข้างกาย ในราตรีมืดมิดเพียงได้ฟังเสียงใจดวงน้อยเต้นชัด ๆ เขาก็ผุดรอยยิ้มขึ้นมา ไฮโซหนุ่มยิ้มอย่างมีความสุขแถมวูบหนึ่งก็รู้ตัวดีว่า… ตอนนี้เธอกำลังก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโลกสีเทาของเขาทีละก้าว พายุเปิดโอกาสให้เทียนหอมเข้าใกล้อย่างที่ไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหนแม้แต่ลลิตาก็ตาม!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม