“ขอโทษด้วยจ้ะน้าเร น้ำก็นึกว่าแม่ทำกับข้าวไว้ให้อาทับ ว่าแต่...นี่แม่ไปไหนเหรอจ๊ะ”
“แม่แกก็ไปตั้งวงไพ่บ้านเพื่อนแถวนี้อีกนะสิ พี่นาจะทำอะไรได้ นอกจากเล่นไพ่ ก็อยู่แบบนี้ไง๊ ไม่รู้จักทำการบ้านการเรือน วัน ๆ ดีแต่รำพัดอยู่บ้านคนอื่นผัวมันเลยทิ้งไป แล้วนี่พี่ทับเป็นคนดีออกจะตาย อยู่ในศีลในธรรม ขืนทำตัวแบบนี้ไม่นานผัวใหม่คงเบื่อหนีไปอีกคน”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะน้าเร” ฉันรีบตัดบท “ถ้ายังไงเดี๋ยวหนูจะรีบทำกับข้าวแล้วเอาไปให้อาทับในไร่ เผื่อว่าอาทับอยากกินอะไรสักนิด”
“แกก็เหมือนกันนะน้ำ อย่าทำตัวแบบแม่แก ทำตัวไม่ดีไม่มีใครเขาอยากเอาทำเมียหรอกนะ”
พูดจบก็เดินออกไป ฉันได้แต่กลอกตามองบน เพราะเจอลูกนี้อยู่บ่อย ๆ น้าเรไรเวลาไม่พอใจก็จะตวาดแว๊ดเอาเลยทีเดียว ชอบฟาดงวงฟาดงา พาดพิงแม่ฉันอยู่ประจำ อ้อ...ลืมบอกไปว่าน้าเรไรชอบสั่งสอนฉันไม่ให้เอาเยี่ยงอย่างแม่ที่ฉันก็รู้ว่าแม่น่ะสวยแต่ชอบรำพัด ตัวน้าเรไรเองอายุใกล้สี่สิบถึงจะสวยมาก สวยหยด อวบขาว แต่ก็ยังไม่มีผัวเหมือนกัน พอฉันกำลังจะหันไปทำอาหารก็ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน ด้วยความอยากรู้ฉันจึงชะโงกหน้าออกไปดูแล้วต้องชะงักนิดหนึ่งเมื่อเห็นว่ามีผู้ชายแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน เข้ามาในห้องรับแขก ด้วยความอยากรู้อีกนั่นล่ะฉันเลยแอบดูหลังประตูห้องครัว
ผู้ชายคนนั้นเข้ามาพูดคุยกับน้าเรไรด้วยท่าทางสนิทสนม เชื่อไหมว่าเสียงแว๊ด ๆ ของน้าสาวเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นหวานหยดเยิ้มเลยทีเดียว ทั้งสองนั่งพูดคุยกันนานพอประมาณ ส่วนฉันเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจมากกว่านั้นก็หันหลังกลับเข้าครัว ทำกับข้าวกับปลาใส่กล่องข้าว ใส่ถุงอย่างดีแล้วปลีกตัวออกไปทางประตูด้านหลัง มุ่งหน้าไปยังไร่ส้มและเห็นหลังอาทับไหว ๆ
“อ้าว...น้ำ...มาทำอะไรเนี่ย แล้วนี่เอาอะไรติดมือมาด้วย”
อาทับหันมาทักฉันและวางเข่งลงใต้ต้นส้มที่กำลังออกผลเต็มไปหมด ปกติแล้วพ่อเลี้ยงของฉันเวลาทำงานจะไม่ชอบสวมเสื้อ สวมแค่กางเกงยีนส์แค่ตัวเดียว อาทับเป็นผู้ใหญ่ร่างสูงใหญ่ อายุสี่สิบกว่าแล้วแต่กล้ามยังเป็นมัด ๆ ส่วนทรงผมก็ยังเหมือนเดิมคือโกนแบบโล้นซ่า แต่น่าแปลกที่ฉันกลับเห็นว่ายิ่งพ่อเลี้ยงของฉันไว้ทรงผมแบบนี้มันทำให้เขายิ่งดูมีเสน่ห์
เพราะจริง ๆ แล้วอาทับเป็นผู้ชายหน้าตาดี ยิ่งตอนเหงื่อออกท่วมเรือนร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามนูนแน่นก็ยิ่งน่ามอง ฉันไม่อยากจะคิดอะไรแบบนั้นหรอกนะ แต่เข้าใจว่าเขาไม่ได้เป็นพ่อแท้ ๆ ของฉันสักหน่อยนี่นะ บางครั้งก็ตะขิดตะขวงใจเหมือนกันที่จะทำตัวให้รู้สึกเหมือนกับว่าเป็นพ่อลูกกันแท้ ๆ ขนาดสบนัยน์ตาของพ่อเลี้ยงหัวใจฉันยังเต้นไม่เป็นจังหวะ นับประสาอะไรกับการได้เห็นเรือนร่างใหญ่กำยำแบบนี้ หลายครั้งทำฉันเผลอจินตนาการไปไกลเหมือนกัน ฉันรีบยื่นของในมือที่เตรียมมาให้และบอกว่า
“น้ำเอาข้าวห่อมาให้พ่อทับจ้ะ ขอโทษทีที่เมื่อเช้าน้ำตื่นสายเลยทำกับข้าวให้ไม่ทัน”
“โฮ้ย...ไม่เป็นไรหรอก ได้กาแฟแก้วเดียวพ่อก็ทำงานได้ทั้งวัน ว่าแต่นารียังไม่กลับอีกเหรอ?”
อาทับถามถึงแม่และฉันก็แค่ส่ายหน้า
“ยังหรอกจ้ะพ่อ คงบ่าย ๆ มั้ง น้ำกลับละนะ วันนี้ว่าจะทำขนม ไม่ได้ช่วยพ่อเก็บส้มหรอกนะ”
เขาพยักหน้า “อืม...แต่ว่า...เมื่อกี๊เห็นรถใครเข้ามาจอดหน้าบ้าน นึกว่านารีกลับมาแล้วซะอีก”
“อ๋อ...ไม่ใช่แม่หรอกจ้ะพ่อทับ ใครก็ไม่รู้ มาหาน้าเรไรน่ะ”
“หืมม์?...มาหาเรไรเหรอ?”
คราวนี้อาทับชะเง้อมองและมีสีหน้าเปลี่ยนไปดูถมึงทึงขึ้นมาทันทีโดยไม่มีเหตุผล
“ใครกัน น้ำไม่รู้จักหรอกเหรอ”
ฉันส่ายหน้า “ไม่รู้จักจ้ะ ก็...คนนี้น้ำเพิ่งเห็นเขามาครั้งแรกนะ คนละคนกับที่เคยมาอ่ะจ้ะ”
“มีคนมาบ้านไม่ซ้ำหน้า เรไรไม่กลัวหรือยังไงกันว่าเขาจะเป็นคนดีหรือไม่ดี นี่ถ้าเกิดเป็นพวกมิจฉาชีพจะทำยังไง”
ทั้งสีหน้าท่าทางที่แสดงออกและแววตาของพ่อเลี้ยงบอกให้รู้ว่าอาทับกำลังไม่พอใจ ฉันก็ไม่รู้เหตุผลนะว่าทำไม แต่ก็ได้แต่มองและถอนหายใจตามประสาเด็กวัยรุ่นที่ยังอ่านใจผู้ใหญ่ไม่ออก
“บางทีอาจจะเป็นแฟนน้าเรก็ได้นะพ่อทับ ก็...แหม...น้าเรยังไม่แต่งงานแถมสวยขนาดนั้น ผู้ชายที่ไหนเห็นแล้วเขาก็ติดใจอ่ะ คงอยากคบเป็นแฟน”
“คบผู้ชายพร่ำเพรื่อจะได้ยังไง แบบนี้น่าจะบอกให้นารีพูดกับเรไรเขาบ้างนะว่าอย่าพาผู้ชายแปลกหน้าเข้าบ้าน”
อาทับพูดน้ำเสียงจริงจังซึ่งก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าจริง ๆ แล้วมันไม่น่าจะเป็นเรื่องซีเรียส เพราะน้าเรไรไม่มีสามี และการที่มีผู้ชายมาหามันก็ออกจะธรรมดาเพราะน้าสาวของฉันอายุขนาดนั้นแล้ว คงไม่ถูกใครหลอกได้ง่าย ๆ หรอกน่า
“น้ำขอตัวก่อนนะพ่อทับ จะรีบไปทำขนม เดี๋ยวไม่ทันเวลา ถ้าแม่กลับมาจะได้กินของอร่อย ๆ”
ฉันรีบปลีกตัวออกมา แต่ก็ยังเห็นสีหน้าและแววตาเหมือนไม่พอใจของอาทับชัดเจน ก็ไม่เข้าใจว่าจะโกรธไปทำไมมี น้าเรไรก็เป็นแค่น้องเมีย ไม่ใช่เมียอาทับซะหน่อย ฉันรีบกลับไปที่บ้าน กลับเข้าไปทางประตูด้านหลังของห้องครัว พอกลับเข้าบ้านไม่ทันถึงห้านาทีก็ได้ยินเสียงรถแล่นออกไป