กลัวผู้ชาย

2356 คำ
ใบเตยตั้งแต่เจอเรื่องแบบนั้นมา เธอก็ไม่สามารถคุยกับผู้ชายได้ปกติเนื่องจากว่าครั้งนั้นมันกระทบกับจิตใจเธออย่างมาก ตอนนี้เธอได้รู้ตัวเองว่าเป็นโรคกลัวผู้ชายโดยปริยาย นั่นจึงทำให้การใช้ชีวิตลำบากมากยิ่งขึ้น เธอไม่สามารถคุยกับผู้ชายได้ เวลาต้องการอะไรอย่างเช่นพ่อค้าเมื่อกี้นี้เธอแทบจะพูดกับเขาไม่ได้ เพราะน้ำเสียงที่เอ่ยออกมามันแฝงไปด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัวและกระตุกกะตัก แต่ถึงอย่างั้นชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปถึงจะมีอุปสรรค แต่ก่อนที่เธอจะเดินก้มหน้ากลับบ้านนั้นเลยไม่ได้ดูทาง ใบเตยไปชนกับใครบางคนซึ่งน้ำเสียงของเขาก็บ่งบอกแล้วว่าเป็นผู้ชายเธอจึงไม่ตอบโต้และเอาแต่ขอโทษซ้ำๆเพราะเธอกลัวว่าถ้าหากเขาโกรธขึ้นมามันจะทำให้เธอสติแตกโดยทันที “ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ “ ถึงแม้จะรู้สึกว่าน้ำเสียงจะคุ้นเคยแต่เธอก็ยังไม่เงยไปมองหน้าและกล่าวขอโทษอย่างซ้ำๆ ตอนนี้เธอมีเฝือกและผ้าพันแผลพันตามร่างกายบริเวณส่วนแขน จะก้มเก็บเป็นเรื่องยากมาก แต่ผู้ชายที่ชนก็เก็บของให้เธอโดยทันที “มะ-ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเก็บเองได้ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ” ใบเตยรวบรวมความกล้ากล่าวออกไป ตอนนี้ใบเตยต้องการออกจากที่นี่ให้ไวที่สุด ถ้าหากอยู่นานกว่านี้หัวใจของเธอได้ระเบิดแตกตายแน่ แค่ไม่มองหน้าก็ร่างสั่นไปทั้งตัวแล้ว “ ไม่ต้องกลัวนะครับผมอยู่นี้แล้ว จำผมได้หรือเปล่า?” เสียงที่หนุ่มลึกเผยออกมาทำให้ใบเตยรู้สึกอบอุ่นใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคยแต่ก็เหมือนไม่ได้รู้สึกมานาน ใบเตยรู้แปลกใจพร้อมกับความกลัวได้หายไปมันเป็นเสียงที่คุ้นเคยมากแต่เธอจำไม่ได้ว่าเคยได้ยินที่ไหน ทันใดใบเตยรวบรวมความกล้าเงยหน้าขี้นไปมอง…. จู่ๆน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุเมื่อพบใบหน้าอีกฝ่าย จินรู้สึกตกใจอีกครั้งเมื่อเห็นน้ำตาเธอ ตนรีบถามทันทีว่าเป็นอะไรหรือป่าวคงไม่ใช่ว่าเขาชนเธอแรงจนเกินไปนะ แต่ที่ดีคือเธอคือคนที่เขาช่วยไว้เมื่อวานจริงๆ ทีแรกนึกว่าจำผิดคน “เอ้ะ เจ็บตรงไหนไหมครับ หรือเมื่อกี้ผมชนแรงเลยไปกระทบแผลหรอครับ” จินพยายามสอดแขนเพื่อพยุงเธอ “มะ-ไม่ใช่ค่ะ” ‘ดูเหมือนว่าจะหายสั่นแล้วแฮะ’ ใบเตยลุกขึ้นมาตามจินช่วยพยุง เธอรู้สึกแปลกใจมากว่าตอนนี้เธอหายสั่นและหายกลัวแล้วทั้งๆที่เขาเป็นผู้ชาย ‘หรือเพราะว่าเป็นเขา’ ใบเตยคิดในใจเงียบๆ เธอไม่มีทางที่จะลืมผู้มีพระคุณที่ช่วยเธอไว้เมื่อวาน เมื่อเธอกลับจากโรงพยาบาลก็ว่าจะไปกล่าวขอบคุณแต่เมื่อถึงก็ได้รู้ว่าเขาได้ย้ายออกไปแล้ว ซึ่งนั้นก็ทำให้เธอรู้สึกเสียใจถ้าหากไม่ได้เขามาช่วยเธออาจนอนตายอยู่ในห้องนั้นก็เป็นได้ และเวลาต่อมาไม่นานหลังจากนั้นเธอก็ได้รู้ตัวเองว่าเธอได้กลัวผู้ชายแล้ว “ตอนนั้นขอบคุณมากเลยนะคะ” ใบเตยรีบกล่าวขอบคุณทันทีเพราะกลัวว่าจะเป็นจะไม่ได้ขอบคุณ “ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องแค่นี้เองผมเชื่อว่าถ้าใครมาเห็นก็คงทำเหมือนผม” จินเมื่อเห็นว่าเธอยืนและจำตนเองได้ก็บอกว่าไม่เป็นไร ผิดกับใบเตยที่ตอนนี้เธอคัดค้านสิ่งที่จินพูดมากเพราะนั้นไม่ใช่ความจริง ไม่มีใครมาช่วยเลยแม้ว่าเธอจะร้องดังซักแค่ไหนก็ตาม ซึ่งก็เป็นแบบนี้หลายครั้งจนเธอเลิกหวัง แค่เขาต่างจากคนอื่น คนที่กล้าที่จะช่วยเธอ และยังเป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอไม่กลัวจากหลายๆคนที่เคยเจอ “ ว่าแต่เมื่อกี้เป็นอะไรหรอครับ เหมือนกลัวอะไรซักอย่าง หรือว่า ‘มัน’ยังไม่โดนจับแล้วมาก่อกวนคุณอีก?” จินใช้คำว่า มัน แทนแฟนเก่าของเธอเพราะคนอย่างนั้นไม่สมควรได้รับการให้อภัย แถมถ้ามันมาก่อกวนเธออีกจินไม่ปล่อยมันไปแน่เพราะตอนนี้ตนมีทักษะการต่อสู้แล้ว “ไม่ใช่ค่ะ เรื่องมันคือ……..” ใบเตยดีใจอยู่เล็กน้อยที่เขาแสดงความเป็นห่วงเธอ แต่ไม่ใช่เวลาเธอได้เล่าเรื่องที่เธอกลัวผู้ชายตั้งแต่วันนั้นให้จินฟัง ซึ่งได้ฟังอย่างนั้นจินก็รู้สึกตกใจไม่คิดเลยว่ามันจะสร้างแผลใจให้เธอขนาดนี้ “ถึงว่า เมื่อกี้ทำไมคุณถึงสั่นขนาดนั้น” ใบเตยเธอไม่ได้บอกว่าตัวเธอไม่ได้กลัวจินเพราะถ้าหากบอกไป เขาได้คิดไปทางแปลกๆแน่ เพราะแค่คิดว่าบอกไปก็จะเขินจนมุดดินนี้แล้ว ถึงในความจริงจินจะไม่คิดเรื่องแบบนี้ก็เถอะ ‘บอกไม่ได้ๆ เดี๋ยวเขาได้มองเราแปลกๆ’ จินเมื่อเข้าใจดังนั้นก็พยายามไม่เข้าใกล้เธอโดยไม่จำเป็น โรคแบบนี้เขาไม่รู้วิธีรักษาทางที่ดีควรไปปรึกษาหมอเฉพาะทาง ใบเตยที่เห็นเขาถอยเล็กน้อยก็รู้สึกเสียใจเพราะเหมือนว่ามันจะดูห่างเหินไป แต่เธอรู้ดีว่าเขาหวังดี “คุณมาทำอะไรที่นี่หรอคะ” ใบเตยถาม ที่นี่คือตลาดสดและไกลจากที่หอมากถึงเธอรู้ว่าจินย้ายออกมาแล้วแต่ก็แปลกอยู่ดี หรือเขามีที่พักอยู่ใกล้ๆนี้ ใบเตยคิดในใจ เธอไม่คิดว่าเขาจะมีบ้านเพราะส่วนมาก คนที่อาศัยอยู่ที่หอนั้นล้วนแต่ขาดเรื่องเงินกันทั้งนั้น “อ๋อจริงด้วย ผมมาซื้อวัตถุดิบไปทำอาหารนะครับ” “คุณอาศัยอยู่แถวนี้?” “ใช่ครับ” ใบเตยค่อนข้างจะแปลกใจและไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามันไม่จริง เขาอาจจะมีเหตุผมส่วนตัวในการอยู่ที่หอก่อนหน้านี้ก็ได้ “‘งั้นไปก่อนนะค่ะ ฉันมีเรื่องที่ต้องทำ” “ได้ โอเครครับ” ใบเตยวันนี้เธอต้องไปหาหมอเพื่อเช็คอาการแขนและร่างกาย และถ้าหากมีเวลาเหลืออีกนิดเธออาจจะไปหมอที่ช่วยรักษาอาการกลัวผู้ชายได้ ถึงไม่รู้ว่ามันหายได้หรือป่าวเหอะ “เออ…คือว่า” “ครับ?” ในขณะที่จินกำลังดูเธอเดินจากไปและเป็นห่วงอยู่ลึกๆว่าเธอจะเป็นไรหรือป่าว ก็เห็นเธอมองกลับมาและเหมือนกำลังพูดอะไรบ้างอย่าง “ขอเบอร์ติดต่อได้ไหมค่ะ” “ครับ?” จินได้งุนงงอีกครั้ง เขาไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย “ไม่ใช่อย่างที่คิดนะค่ะ! แบบว่า..ยังไม่ได้ขอบคุณแบบจริงจังเลย เลยคิดว่าเมื่อว่างเมื่อไรจะเลี้ยงข้าวนะค่ะ ห้ามปฏิเสธด้วย” ใบเตยต้องการตอบแทนจริง แต่สิ่งที่เธอหวังอยู่ลึกๆนั้นก็คือ เธออยากจะพึ่งพาเขาเพราะมีเขาแค่คนเดียวที่เธอไม่กลัว แต่ถ้าหากเขาไม่ว่างจริงๆเธอก็ไม่อยากรบกวนเขา “ดะ-ได้ครับ” จินที่กำลังปฏิเสธก็ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอทันทีเมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย เขาไม่ต้องการที่จะให้เธอทำแแบบนั้นไม่ใช่ว่ารังเกียจหรืออย่างไรแต่มันจะกระตุ้นความรู้สึกที่เขาโหยหานั้นเอง “งั้นไหนๆก็จะรู้จักกันอยู่แล้ว มาแนะนำชื่อกันดีกว่าคุยมาตั้งนานผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย ผมชื่อจินนะครับ” “ฉันชื่อใบเตยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” ทั้งสองได้แลกเบอร์ติดต่อกันและกำลังจะแยกย้าย ใบเตยจ้องไปยังมือถือที่มีเบอร์ของจินด้วยแววตาดีใจโดยไม่ได้ดูทางจึงทำให้เธอไปชนกับคนเข้า วันนี้เป็นวันซวยของเธออีกวันหรือป่าวทำไมถึงล้มบ่อยจังแต่เมื่อกำลังจะกล่าวขอโทษความกลัวก็เข้ามากัดกินอีกครั้งเนื่องจากบุคคลข้างหน้าเป็นชายที่ล่ำบึกบวกกับมีใบหน้าที่ดุและมีรอยสัก ซึ่งลักษณะแบบนี้มันคล้ายกับแฟนเก่าเธอ จึงทำให้เธอกลัวเป็นพิเศษถึงขั้นไม่กล้าปริปาก “เวร!! เดินไม่ดูทางว่ะ ชิ!!” สินอารมณ์เสียมากนอกจากจะโดนแม่ใช้แล้วยังมาชนกับคนที่ไหนไม่รู้อีก โดยที่สินไม่ได้ตระหนักเลยว่าเธอที่เดินชนเขานั้นมีผ้าพันแผลและเผือก จินที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็ตกใจ และอารมณ์เสียเมื่อเห็นคนที่เดินชนใบเตยไม่ได้รู้ว่าเธอมีผ้าพันแผลอยู่ แถมยังเอาแต่อารมณ์เสียโดยไม่สนใจเธอ จินเดินไปช่วยเธอในทันทีเนื่องจากตนรู้อาการกลัวผู้ชายของเธอจึงเป็นห่วงเป็นพิเศษ สินที่กำลังอารมณ์เสียและด่าคนที่เดินชนตน ตนไม่สนใจด้วยว่าเธอจะมีผ้าพันแผลเพราะไม่ใช่เรื่องของตน ตอนนั้นเองก็พบการเคลื่อนไหวของชายคนหนึ่ง สินไม่ได้กลัว เขามีใบหน้าที่ดุและรอยสักนี้คือสิ่งที่มันภูมิใจมันเอาไว้ใช้ข่มคนได้ จินพยุงใบเตยก่อนและสัมผัสได้ว่าเธอสั่นทั้งร่างกาย แม้จินจะเป็นห่วงว่าเขาจะแตะ เธอจะเป็นไรไหมแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนั้นให้จบเรื่องนี้ก่อนค่อยไปขอโทษเธอ จินจ้องไปมองไปยังชายหน้าดุด้วยสายตาเย็นชา มันเป็นคนประเภทที่ตนเกียจที่สุดคือการอวดดีและไม่สนคนอื่น ผู้คนเริ่มเขามาดูขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากว่าฝ่ายตรงข้ามพูดจาเสียงดังและเหมือนด่าใบเตยไปในตัวว่าไม่ดูทาง “เวรแท้ๆ ทุกคนมาดูนี่เดินชนแล้วไม่ขอโทษแถมยังก้มหน้าเหมือนไม่รู้สึกผิดอีก เหอะผู้หญิงแบบนี้น่ารังเกียจจริงๆ สงสารแทนแกเลยว่ะ” สินประโยคสุดท้ายได้พูดมาทางจินเพราะคิดว่าจินน่าจะเป็นแฟนเธอ ผู้คนเริ่มเข้ามามุงแต่บางคนก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้เนื่องจากคนที่รู้จักแถวนี้ล้วนรู้จักสินกันสิ้น ถึงแม้จะเรียนไม่เก่งแต่ก็ช่วยแม่ทำมาหากินบ้าน มีอย่างเดียวที่ไม่ดีนั้นก็คือนิสัยเสียและเป็นคนที่ไม่ยอมคน พวกเขาหวังว่านี้จะเป็นเพียงโชคร้ายของคนที่มาเจอสินและให้เรื่องจบไว้ๆ ไม่มีใครเข้ามาห้ามเพราะรูปลักษณ์ที่หน้ากลัวของสิน “หยุดพูดได้หรือยัง ไม่เห็นหรือไงว่าเธอบาดเจ็บจากแผลเก่าตาบอดหรือไง” จินพูดแทรกขึ้นมาในขณะที่มันด่าใบเตย “ห๋า? แล้วยังไงฉันต้องขอโทษหรือไง เห็นชัดๆว่าเธอเดินมาชนฉันก่อน ใช่มั้ยทุกคน” สินเริ่มหาเพื่อนเพื่อยืนยันว่าตนเป็นถูก แต่แล้วก็พบกับความเงียบอาจจะเนื่องด้วยรูปลักษณ์ของเขาจึงทำให้ไม่มีใครช่วยแถมดูยังไงสินก็เป็นคนหาเรื่องก่อน แน่นอนว่าทุกคนรอบวงเข้าข้างใบเตย สินหน้าแตกทันที “เหอะ ทีนี้ก็หลีกทางได้แล้ว” จินกล่าวเยาะเย้ย ยังดีที่ผู้คนไม่เข้าข้างมัน ‘กรอด’ สินกัดฟัน ตนรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก จนเลือดขึ้นหน้าทำไมไม่มีใครเข้าข้างตนเลยหรือเป็นเพราะเขาหน้าตาไม่หล่อเท่ามัน สินถึงแม้จะมีนิสัยเอาแต่ใจแต่ก็ไม่เคยมีเรื่องชกต่อยอาจจะเป็นเพราะหน้าตาเลยไม่มีคนเข้ามายุ่ง แต่ตอนนี้ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าถ้านานกว่านี้ได้ขายขี้หน้าตายแน่ “ได้อยากลองดีใช่ไหม! งั้นเจอนี้!” ด้วยอารมณ์ที่ไม่คงที่ของสินจึงไม่ลังเลที่จะชกไปยังหน้าหล่อๆของจิน ผู้คนที่รู้จักสินดี รู้สึกตกใจไม่คิดเลยว่าสินจะทำอย่างนั้นรวมไปถึงคนที่มุงดูด้วย ‘ตุบ’ แต่แล้วภาพที่น่าตกใจก็ปรากฎขึ้นทำให้สินหรือคนแถวนั้นตกตะลึงรวมไปถึงใบเตยที่อยู่ในออบกอดของจินด้วย จินรับหมัดของสินได้อย่างง่ายดายเพราะมีทักษะการต่อสู้ระดับสู้ สินพยายามจะดึงหมัดออกแต่เนื่องจากแรงที่ต่างกันเกินไปจึงไม่สามารถทำได้ สินได้จ้องไปยังใบหน้าที่หล่อเหลาของจินแต่ในเวลานี้ตนรู้สึกได้ว่ามีสายตาที่เย็นชามันจ้องมายังตน สินอดไม่ได้ที่จะขนลุก จินไม่ได้ต้องการมีเรื่องแต่ก็อยากสั่งสอนเล็กน้อย เขาเพิ่มแรงบีบเข้าไปทำให้สินอาปากร้องออกมาเสียงเบา สินไม่ต้องการขายหน้าไปกว่านี้จึงพยายามอดกลั้นความเจ็บปวดและไม่ร้องเสียงดัง “หลีกทางได้หรือยัง?” จินกล่าวถามอีกครั้ง แต่ในสิ่งที่สินได้ยินนั้นมันเหมือนกับคำสั่งมากกว่า สินล้มลงด้วยความหวาดกลัวไม่คิดเลยว่าชายตรงหน้าจะน่ากลัวขนาดนี้ แถมสายตานั้นเหมือนกับฆ่าตนได้เลย จินปล่อยมือและมองไปรอบๆที่มีคนจ้องมองเขาด้วยความตะลึงแต่จินทำเป็นไม่สนใจและเดินจากไปพร้อมกับใบเตย……
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม