ติดต่อไปประชุม

2041 คำ
เมื่อเดินออกมาพ้นเขตตลาด จินก็ปล่อยมือจากใบเตยเพราะกลัวเธอรังเกียจ ใบเตยเธอหายจากอาการกลัวเล็กน้อยจึงยืนด้วยตัวเองได้ “บ้านอยู๋ไหนหรอครับ เดี๋ยวผมไปส่ง” จินเอ่ยถามถ้าหากปล่อยเธอกลับบ้านคนเดียวคงไม่ดีแน่ดูจากเมื่อกี้ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับเองได้” ใบเตยไม่กล้าที่จะให้เขาไปส่ง ถึงเธออยากจะให้เขาช่วยเรื่องต่างๆอยู่บ้าง แต่แค่เขาช่วยเรื่องเมื่อกี้ก็เกินไปแล้ว “ห้ามปฏิเสธครับ” ใบเตยจ้องไปยังจินที่มีสีหน้าจริงจัง และกลืนน้ำลายไม่รู้ตัวนี่เหมือนกับคำสั่งที่เธอไม่กล้าขัดเขาเพราะอาจจะเนื่องด้วยพลังที่เขาแสดงเมื่อกี้ เธอทำได้แค่พยักหน้าเบาๆ จินยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอ นี่คือการเอาคืนจากที่เธอพูดก่อนหน้านี้ เดินมาซักพักก็มาถึงรถ “ขึ้นรถเลยครับ” จินเอ่ยให้เธอขึ้นรถไปทันที แต่ใบเตยแสดงอาการงงงวยเพราะเธอไม่เห็นรถคันไหนนอกซะจากแลมโบ ตอนแรกเธอก็ตกใจว่ามีรถแบบนี้อยู่ที่ได้ยังไง คงไม่มีใครกล้าจอกชกรถแบบนี้ในสถานที่แบบนี้หรอกใช่มั้ย ทันใดนั้นเธอก็ตระหนักได้ถึงอะไรบ้างอย่าง ถ้านอกจากแลมโบคันนี้ก็ไม่มีรถคันอื่นอีกนั้นซึ่งก็แปลว่า.. ใบเตยหันไปจ้องใบหน้าของจินด้วยความจริงจัง ถ้าหากเขาไม่ได้ล้อเล่นแสดงว่านี้คือรถของเขางั้นหรอ ใบเตยพยายามสงบสติหากเขามีรถหรูและรวยจริงทำไมต้องไปอาศัยอยู่ที่หอเก่าๆแบบนั้นด้วยละ ใบเตยไม่คิดจะดูถูกหรืออะไรแต่มันค่อนข้างเชื่อได้ยากว่าจินเป็นเจ้าของรถคันนี้จริงๆ ตอนนั้นเองสิ่งที่ยืนยันก็ปรากฎให้เธอเห็น จินเอากุญแจรถออกมาและกดไปที่มันไม่นานก็ได้ยินเสียงดังที่รถแลมโบคันนั้น จินเดินไปเปิดประตูให้ใบเตย “เชิญครับ นั่งเลย” ใบเตยแสดงสีหน้าตกตะลึงเขาเป็นเจ้าของรถคันนี้จริงๆ ทั้งหล่อและรวยแบบนี้มันเกินไปมั้ย ใบเตยได้เกิดคำถามในใจขึ้นมาอย่างมากมายแสดงว่าที่เขาอาศัยที่หอนั้นก็คือจุดประสงค์อื่นน่ะสิ เขาไม่ได้ขาดสนเรื่องเงิน จินค่อนข้างที่จะเข้าใจเธอเพราะรู้ดีว่าจู่ๆคนที่ควรจะไม่มีตังและอาศัยอยู่หอเก่าๆก็รวยขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่ก็ไม่อธิบายเพิ่มเติมเพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าเธอไม่มีทางเชื่อแน่ ถ้าหากเธอถามเขาจะแถไปมั่วๆเอง ใบเตยขี้นรถอย่างง่ายดาย แต่ก่อนที่จินจะขึ้นรถนั้นก็มีเสียมือถือดังขึ้น ‘ตู๊ดดดด’ จินขมวดคิ้ว และลังเลว่าจะรับดีหรือไม่เพราะทุกเรื่องยุ่งยากก็มาจากปัญหามือถือเครื่องนี้ แต่ก็เชื่อในโชคชะตาของตัวเองเพราะยังไงคงไม่มีเรื่องที่ทำให้ยุ่งยากไปกว่าเมื่อวานอยู่แล้ว เมื่อคิดได้ดังนั้นก็กดรับทันที “ฮาโหลครับ นี่ใช่ท่านxxxxx xxxxx หรือป่าวครับ” เมื่อได้เสียงแรกจากปลายสายจินก็เริ่มได้กลิ่นตุๆ นี่มันเหมือนกับเมื่อวาน? แถมมันแปลกที่เรียกเขาว่าท่าน แต่ก็ไม่ลังเลที่ตอบกลับไป เขาต้องการจะรู้ “ใช่ครับไม่ทราบว่ามีอะไรหรอครับ” “คือว่า ผมคือตัวแทนของบริษัท GT นะครับคืออีกอาทิตย์หน้าทางเราจะมีการประชุมด่วนที่บริษัทแม่ ผมเลยอยากจะทราบว่าท่านว่างหรือป่าวครับ ” บริษัท GT ? จินงงงวยแต่แล้วก็จำได้ว่าเมื่อวานตนได้หุ้นส่วนบริษัทนี้มา แถมตอนนี้ยังมีคนโทรมาบอกว่าให้ไปประชุนที่บริษัทแม่อีก นี่มันจะกระทันหันเกินไปมั้ย จินเริ่มรู้สึกแล้วว่าตั้งแต่ที่ตนได้ระบบมาทุกอย่างมันก็เร็วไปหมดทั้งเงินทองและรวมไปถึงปัญหายุ่งยากด้วย ‘เราลาออกจากงานแล้ว แถมก็ไม่ได้ไปไหนอีก คงไม่เสียหายหรอกมั้ง’ “อ่า ผมว่างอยู่ น่าจะไปได้” “จริงหรอครับ!!!” ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงที่ตกใจเหมือนกับค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ที่ตนเองไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น แต้มเป็นประธานบริษัทของ GT สาขาไทยและได้รับเรื่องมาว่ามีหนึ่งในคนไทยที่เป็นหุ้นส่วนของบริษัทแม่ ตอนแรกที่ได้ฟังก็ตกใจมากๆไม่คิดว่ามีคนไทยเป็นหุ้นส่วนบริษัทนี้ด้วยเพราะไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเขาคนนั้นจะรวยแค่ไหน แต่ก็ได้ยินจากปากบริษัทแม่มา หุ้นส่วนคนนี้ไม่เข้าประชุมหรือไม่มีส่วนรวมกับบริษัทมาหลายปีแล้วแต่จะเป็นคนที่จ่ายเยอะมากที่สุดนั้นเอง “‘งั้นสะดวกจะบินวันไหนครับ จะเดี๋ยวนัดขึ้นเครื่องให้ท่านเอง” จินก็รู้ถึงข้อนี้ บริษัทแม่ของGT นั้นอยู่ที่อเมริกาซึ่งแน่นอน มันต้องเป็นอย่างนั้นเพราะยังไงการที่มีเทคโนโลยีที่ประสิทธิภาพและการพัฒนาที่ถูกต้อง ต้องมีทรัพยากรที่มากอเมริกาจึงสมควรเป็น แต่สิ่งที่จินติดปัญหานั้นก็คือภาษาของเขานะสิ จริงอยู่ที่จินเรียนมาและฟังออกบ้างแต่เขาจะพูดยังไงให้เหมือนกับเจ้าของภาษา จินพอพูดได้แต่ยังไงสำเนียงก็เพี้ยนอยู่ดีมันจะเป็นปัญหาในการประชุมแน่นอน ‘คงมีล่ามอยู่มั้ง’ เขาคิดในแง่ดีเพราะยังไงบริษัทก็ใหญ่ขนาดนั้นก็คงมีล่ามมาแปลให้อยู่หรอก ตนเองเคยดูข่าวช่วงที่บริษัทนี้กำลังสร้างจรวดบรรจุคนไปอวกาศเลยได้ยินมาว่าหุ้นส่วนของบริษัทนี้คือคนที่มาจากประเทศต่างๆและพวกเขาลงทุนในสิ่งที่สนใจด้วยกัน นั้นจึงเป็นเหตุผลทำให้จินคิดว่าพวกเขาน่าจะมีล่ามแปลภาษา “งั้นเอาวันมะรืนนี้ เดี๋ยวถึงวันผมจะแจ้งอีกที ใช้เบอร์นี้ในการติดต่อผมนะ” “ได้ครับ ขอบคุณมากครับ!!!” แต้มพูดอย่างดีใจเพราะนี้คือข่าวของหน้าประวัติศาสตร์ที่หุ้นส่วนรายใหญ่จะเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ไม่รอช้าเมื่อเห็นจินวางไปแล้วก็รีบโทรไปหาบริษัทแม่ทันที จินเมื่อวางสายก็มองไปยังมือถืออีกครั้ง นี่คือมือถือที่ตนใช้เงินเดือนถึง 2 เดือนรวมกันเพื่อมาซื้อ มันเหมือนกับเพื่อนรักเพื่อนเก่าที่ตนใช้เวลาร่วมกันมา แต่ตอนนี้เหมือนว่าเจ้ามือถือเครื่องนี้อย่างกะมีอาถรรพ์ที่จะทำให้เขาเจอเรื่องยุ่งๆมากเรื่อยๆ จินละความสนใจในมือถือถึงแม้มันจะมีอาถรรพ์แต่ก็ไม่คิดจะเปลี่ยนแน่นอน นี่คือน้ำพักน้ำแรงที่ตนเองทนเหน็ดเหนื่อยกับมันเพื่อจะได้มือถือเครื่องนี้มา แต่เมื่อใช้ไม่ได้ค่อยไปซื้อเครื่องใหม่เอา “มีอะไรหรือป่าวคะ” ใบเตยลอดผ่านหน้าต่างรถออกมาแล้วถาม เธอไม่ได้รีบหรืออะไรแต่เพราะเมื่อไม่มีจินมานั่งด้วยมันเหมือนกับเธอไม่ควรอยู่บนรถนี้ เพราะมันสวยมากขณะที่เธอนั่งแค่แปปเดียวตัวเธอก็เกร็งทั้งตัวแล้ว “อ่า ไม่มีอะไรครับ แค่มีคนโทรผิดนิดหน่อย ขอโทษที่ให้รอนานนะครับ” จินเลี่ยงที่จะตอบคำถามเธอ ถึงจะรู้ว่ามันมีของแก้ตัวที่ดีกว่านี้ แต่เลือกที่จะตอบแบบนี้เพื่อจะไม่ให้ถามต่อ “ไม่เป็นค่ะ” จินเดินอ้อมรถและเปิดประตูไปที่นั่งคนขับ เมื่อเห็นว่าจินขึ้นรถมาแล้วก็รู้สึกอุ่นใจ และอดไม่ได้ที่จะมองไปรอบๆเพื่อที่จะสำรวจมันอีกครั้ง ต้องยอมรับเลยว่ามันสวยงานจริงๆ ใบเตยเธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ฝันที่จะมีชีวิตดีๆเเละใช้จ่ายโดยที่ไม่กังวล แต่สิ่งที่เธอนั่งอยู่ตอนนี้มันเกินคำที่เธอเคยใฝ่ฝันไว้มากนี่มันมากเกินไปสำหรับคนอย่างเธอ จินที่สังเกตอาการใบเตยก็ยิ้มออกมากอย่างเก็บอาการ ตอนที่นั่งรถนี้ครั้งแรกก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ตอนนั้นลืมดูทางก็มี นี้แสดงให้เห็นว่ารถคันนี้มีเสน่ห์มากแค่ไหน ส่วนเรื่องที่ต้องบินไปที่บริษัทนั้นเอาไว้ค่อยคิด จินไม่คิดว่ามันคือการไปประชุม แต่คือเที่ยวซะมากกว่าเสร็จจากที่นั้นก็จะเที่ยวอเมริกาทันที เขาอยากจะเที่ยวที่นั้นมานานแล้วแต่ก็ไม่มีตังไปซักที “แต่เดี๋ยวนะ แล้วใครให้เบอร์เราไปเนี้ย” “คะ? คุณได้พูดอะไรหรือป่าว” “… ป่าวนะครับ” จินกล่าวปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้คิดมากเพราะอาจจะเป็นพลังของระบบ การที่ตนเป็นหุ้นส่วนในสายตาของเขา ตนพึ่งได้รับมากแต่สำหรับคนอื่นเขาอาจจะเป็นส่วนอยู่จริงๆและตั้งหลายปีแล้วก็ได้ ระบบน่าจะสร้างข้อมูลขึ้นมาเพื่อเป็นหลักฐาน จินคิดแบบนั้น จินใช้เวลาในการให้ใบเตยบอกทางกลับบ้านไม่นาน เพราะถัดจากที่ตลาดแค่สองซอยเอง แถวนี้เป็นหอพักซึ่งเขาก็เข้าใจที่เธอจากหอมานี้ก็เพื่อต้องการชีวิตที่ดีขึ้น แต่ก็กังวลว่าเธอจะมีเงินใช้มั้ย นี่ไม่ใช่การห่วงหรือสงสารเธอแต่สิ่งที่เธอเจอนั้นมันสาหัสมาก เขาอยากจะช่วยเธอให้ดีขึ้นอย่างน้อยเธอก็จะได้รู้ว่ามีคนห่วงเธออยู่ ใบเตยลงมาจากรถและหันหน้าไปกล่าวขอบคุณจิน “วันนี้ขอบคุณมากค่ะ วันนี้ก็ได้คุณช่วยอีกแล้ว ฉันคงตอบแทนคุณไม่หมดแน่ชาตินี้” “อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ ผมไม่ได้คิดมากอยู่แล้วดูแลตัวเองดีๆนะครับ อย่าไปเครียดเยอะหรือถ้าหากมีเรื่องที่ไม่ดีโทรหาผมได้ ระบายให้ผมฟังอย่างน้อยถ้าคุณรู้สึกดี” ใบเตยยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ผู้ชายแบบนี้หาได้ที่ไหน ทั้งกล้าหาญและหล่อ ดีใจเหมือนกับเทพบุตร คำพูดของเขามันไม่มีถ้อยคำที่ไปในทางเสแสร้งเลย มีแต่ความห่วงใยที่บริสุทธิ์ ใบเตยดีใจมากที่เจอผู้ชายดีๆแบบนี้มันอดที่จะทำให้เธอพูดแซะเขาอย่างช่วยไม่ได้และในเวลาเดียวกันนี้ก็เพื่อดูว่าเธอทางสะดวกไหม “ใจดีและหล่อแบบนี้ สงสัยคงมีแฟนแล้วใช่มั้ยค่ะ ” ใบเตยยิ้มและพูดออกมา นี้คือรอยยิ้มที่กว้างที่สุดในรอบหลายเดือนแต่จินไม่ได้สังเกตเห็น เมื่อใบเตยพูดคำว่าแฟนออกมาก็ต้องทำให้เขาถึงกลับสตั้นเล็กน้อย มันทำให้เขาคิดถึงแฟนเก่าที่ไม่คิดถึงเขาแต่คิดถึงแต่เงิน “อ่ะ ขอโทษค่ะ ถ้าฉันทำให้คุณไม่สบายใจ” “ฮ่าๆ ผมไม่มีแฟนครับ ว่าแต่จะไม่ให้ผมไปส่งถึงห้องจริงๆหรอ?” “ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ ขอบคุณมากสำหรับวันนี้” เมื่อเห็นว่าเธอไม่ต้องการ จินก็พยักหน้าและกล่าวอำลาสักเล็กน้อยและขับรถออกไป ใบเตยมองตามหลังรถ และค่อยๆผ่อนยิ้มลง ‘เมื่อกี้เขาเศร้า ทำไมล่ะ ทำไมถึงเศร้าขนาดนั้น’ ใบเตยเคยผ่านเรื่องความเศร้ามาก่อน ซึ่งสามารถรู้ได้ว่าจินเศร้า ถึงแม้จะแค่แปปเดียวแววตานั้นเศร้าเป็นอย่างมาก แถมเมื่อกี้เขาดูเมื่อจะเลี่ยงคำถามเธอโดยเร็วด้วย ใบเตยคิดอยู่ในใจอะไรที่ทำให้เศร้าถึงขนาดนั้น……..
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม