จินขับรถออกมาจากซอยและกำลังจะกลับบ้านพร้อมกับวัตถุดิบ
“เฮ้อ จริงๆเลย ทำไมเราถึงไม่เลิกคิดถึงเรื่องนั้นสักทีนะ”
จินได้แต่คิดในใจ เขาไม่สามารถเลิกคิดถึงเรื่องเมย์ได้ การที่เป็นแบบนั้นอาจจะด้วยสายสัมพันธ์ที่พวกเขาใช้ร่วมกันมาหลายปี ไม่สิบ้างทีสิ่งที่จินคิดว่านั้นเป็นสายสัมพันธ์แต่กับเมย์กับอาจจะไม่เป็นค่าเลยก็ได้
จินละความสนใจอีกครั้ง เขาต้องเลิกคิดเรื่องนี้ให้ได้โดยเร็วหรือไม่ก็บ้างทีอาจจะมีบ้างอย่างที่ช่วยในการเยียวยาจิตใจเขา
.
.
.
.
ขับรถมาซักพักก็มาถึงบ้าน จินเอารถไปจอดที่โรงรถของบ้านเมื่อวานนี้ไม่ได้ทำเพราะบวกกับขนส่งมาและตอนนั้นเขาเหนื่อยมากเลยไม่ได้ทำ
จินใช้เวลาไม่นานในการเตรียมอาหารเช้า และกินเมื่อเสร็จแล้วก็ดูทีวีนิดหน่อยพร้อมกับคิดว่า วันนี้นั้นจะทำอะไร ตั้งแต่ลาออกจากงานตนก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีไรทำแถมตอนนี้มีเงินเป็นพันล้าน ไม่ต้องจำเป็นต้องออกไปหาเงิน แต่แล้วก็คิดได้อย่างหนึ่งสิ่งที่ตนอยากจะทำ นั้นก็คือการตรวจสอบว่าใครเป็นคนแอบอ้างชื่อเขาในแอปกู้เงิน
จินถึงแม้จะแจ้งความไปแล้วแต่ตนไม่มีเวลารอขนาดนั้น จินต้องการหาตัวการให้ไวที่สุดถ้าจะรอจากตำรวจน่าจะอีกนาน ไม่รอช้าจินรีบเข้าอินเตอร์เน็ตทันทีทันที สิ่งที่เขาจะทำตอนนี้คือการจ้างนักสืบเอกชน แฮกเกอร์ หรืออาชีพต่างๆในการช่วยเขาหาตัวการ การหาตัวพวกเขาก็ง่ายๆก็แค่หาโทรเบอร์และคนที่ใกล้ที่สุดที่จะมาหาเขาได้แค่นั้นเอง ส่วนเรื่องเงินไม่ต้องห่วงแค่นี้ไม่สะกิดกระเป๋าเขาซักนิด เพราะรู้ดีถ้าจ้างมาต้องใช้เงินเยอะมากๆแน่
.
.
.
.
น้ำใส เป็นตำรวจเธอเรียนสายตรงด้านนี้มา แต่สิ่งที่เธออยากเป็นไม่ใช่ตำรวจแต่เป็นนักสืบเธอต้องยอมรับเลยว่าตั้งแต่เธอเด็กๆเธอก็ชอบดูอะไรที่เกี่ยวกับการไขคดีและสืบสวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการ์ตูนนั้นจึงทำให้เธออยากเป็น แต่ที่จริงแล้วนั้นเธอมีพ่อเป็นนักสืบอยู่ พ่อของเธอเท่มากในสายตาของเธอถึงแม้จะมีคนมองไม่ดีบ้างเพราะส่วนมากงานนักสืบจะมีส่วนใหญ่เป็นเรื่องชู้สวย
แต่เธอไม่ละความพยายาม และไม่รังเกียจอาชีพนี้แม้แต่นิดเดียว แต่ติดปัญหาอย่างหนึ่งนั้นก็คือเธอไม่สามารถเป็นนักสืบได้ซึ่งเธอก็พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว นั้นจึงทำให้เธอผิดหวังหน่อยๆกับตัวเเองแต่ชีวิตต้องเดินต่อไปเธอไม่ยอมแพ้ ถึงจะเเป็นไม่ได้แต่ตอนนี้เธอเป็นตำรวจเธอต้องช่วยประชาชนจากอันตราย
‘ตู๊ดดด’
เสียงโทรศัพท์ห้องทำงานดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของน้ำใส ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในห้องทำงานของพ่อที่บ้าน วันนี้เป็นวันหยุดเธอเลยไม่ได้ไปทำงานและคุยกับเพื่อนของเธอแล้ว
ถึงแม้จะเป็นวันหยุดแต่สายเลือดของนักสืบยังคงอยู่ร่างกายเธอกระตือรือร้นมากที่จะได้ศึกษาความเป็นนักสืบจากพ่อของเธอ แต่พ่อของเธอออกไปทำธุระจากลูกค้าคนที่แล้วเลยไม่อยู่ห้อง
น้ำใสลังเลว่าจะรับหรือไม่เพราะบ้างทีอาจจะเป็นลูกค้าพ่อและเธอกลัวว่าพ่อเธอจะด่าเมื่อเธอยกสายขึ้นมาพูดเพราะพ่อของเธอเคร่งเรื่องนี้มาก พ่อกลัวเธอจะทำงานผิดพลาดหรือสื่อสารผิดพลาดกับลูกค้า
น้ำใสเสียใจแต่ก็เข้าใจได้ เธอรู้ดีว่าพ่อเป็นห่วง
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะลังเล ถ้าหากเเธอได้สัมผัสการสืบแบบของจริงอย่างที่ควรจะเป็นละก็…. มันจะดีแค่ไหนกันนะ ถึงมันจะเป็นเรื่องที่เล็กแค่ไหนเธอก็จะยอมทำแน่นอนเพราะนี้คือความฝันที่แท้จริง
ไม่รอช้าใบเตยยกหูขึ้นมาคุยทันที
“ฮ-ฮาโหล สวัสดีค่ะ นี่คือนักสบเอกชนมนตราค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการให้ช่วยอะไรหรือค่ะ”
“ครับ คือว่าจะจ้างหาคนที่แอบอ้างชื่อน่ะครับ”
“ได้ค่ะ ขอทราบรายละเอียดหน่อยได้ไหมคะ”
ถึงแม้น้ำเสียงของเธอจะดูปกติแต่ข้างในเธอได้ร้องออกมาอย่างดีใจ เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องซ้ำซากที่เธอเคยได้ยินพ่อคุยกับลูกค้าซึ่งปกติก็คือการงานการตามหาชู้หรืออะไรทำนองนั้น แต่นี่ไม่ใช่มันคือเรื่องที่เหมาะสมกับการเป็นนักสืบของเธอที่สุด น้ำใสเชื่อว่าถ้าหากพ่อได้รับคดีแบบนี้ก็ต้องดีใจเหมือนกัน
“คือว่าสามารถนัดพูดเรื่องรายละเอียดได้ไหมครับ มันจะสะดวกมากกว่า”
จินค่อนข้างที่จะไว้ใจกับเบอร์ที่ตนได้มาและเชื่อว่าคนที่พูดกับเขาตอนนี้เป็นนักสืบจริงๆ ส่วนเรื่องที่ให้นัดไปคุยเรื่องรายละเอียดก็เพื่อที่จะให้คนอื่นที่ตนได้จ้าง มาฟังเขาที่เดียวและที่เหลือให้พวกมืออาชีพเขาคุยกัน จินจะจ้างอีก 2 คน
น้ำใสขมวดคิ้ว บางทีลูกค้าคนนี้อาจจะมีเรื่องยุ่งยากที่ไม่สามารถคุยผ่านมือถือได้เลยทีเดียวก็เป็นได้ เธอไม่คิดมากและกล่าวตกลงทันทีเพราะนี้คืองานแรกของเธอจึงตื่นเต้นเป็นพิเศษ
“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา สะดวกนัดที่ไหนดีค่ะ”
“งั้นเอาเป็นที่บ้านของผมได้ไหมครับ เดี๋ยวจะส่งที่อยู่ไปให้อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากครับ ส่วนเรื่องวันขอเร่งด่วนเลย วันพรุ่งนี้จะได้ไหมครับ”
“ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวส่งผ่านอีเมลละกันนะค่ะ ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ”
เมื่อคุยจบแล้วน้ำใสก็ว่างสายทันที ใบหน้าของเธอมีแต่ความสุขและความตื่นเต้นเพราะความฝันที่จะได้สืบคดีเหมือนนักสืบในการ์ตูนเป็นจริงแล้ว
.
.
.
.
.
.
.
จินทำการติดต่ออีก2คนให้มาบ้านตน ได้แก่ แฮกเกอร์ และ บอดี้การ์ด ถ้าถามว่าจ้างบอดี้การ์ดมาทำไม จินเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆเพราะดูจากการที่เขาไปจ่ายเงินที่ตัวเองไม่ได้กู้แล้ว พวกมันน่าจะเป็นขบวนการใหญ่และมีเส้นสายกับตำรวจเพราะดูจากการที่ตำรวจไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันถึงไม่มีหลักฐานแต่จินเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น การที่มีแอปเปิดให้กู้และตามถึงบ้านก็ต้องมีข่าวออกมาบ้างแหละแต่นี่ไม่มี หากมันมีใครรู้ว่าจินต้องการข้อมูลของพวกมันบางทีอาจจะตามหาเขาอีกก็ได้ นั้นจึงจ้างบอดี้การ์ด ซึ่งการจ้างก็ไม่มีอะไรติดขัดถ้าหากพรุ่งนี้ไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะเสร็จไว ถ้าไม่มีนะ…
จินใช้เวลาซักพักในการเตรียมแผนสำหรับพรุ่งนี้เล็กน้อย และเขาออกขับรถคลายเครียดเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เล่นการที่จะสืบหาตัวการได้ของต้องปวดหัวตัวแน่ถ้าเขาคิดในหัวคนเดียว
.
.
รถแลมโบเฉินฉายบนท้องถนน แน่นอนว่าต้องตกเป็นเป้าสายตาของรถทุกคัน บ้างคันถึงขนาดขับห่างๆเพราะกลัวว่าจะทำให้รถแลมโบเสียหาย
จินขับรถบนท้องถนนอย่างผ่อนคลายใจ นี่คือช่วงเวลาของการไม่คิดอะไรแต่ในมุมหนึ่งมันก็น่าเบื่อเหลือเกินชีวิตเขาถูกพลิกโดบระบบจากปกติที่ต้องใช้ร่างกายทำงานหาเงินแต่ตอนนี้กลับไม่ใช่ มีเงินถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นมหาเศรษฐี แต่ใจกลับน่าเบื่อ หรือนี่จะเป็นสิ่งที่คนรวยรู้สึกกัน?? เขาไม่มีแผนสำหรับไปเช็คอินสถานที่ต่างๆเร็วนี้ เพราะมีเรื่องให้หายจากอาการเศร้าก่อน
จินขับมาจอดที่ขอบทางเพราะอยากจะซื้อหมูปิ้งกินตอนเที่ยง ถึงเขาจะชอบทำอาหารกินเองแต่ก็มีบ้างที่ขี้เกียจจริงไหม แลมโบก็จอดให้ห่างจากร้านหน่อยเพราะอาจจะเป็นจุดสนใจตนได้รับบทเรียนจากตลาดแล้ว
“เอาหมูป้ิง 2 ไม้กับข้าวเหนียวด้วยนะครับ”
จินกินเป็นประจำเมื่อทำงานดึกหรือขี้เกียจทำ เพราะช่วงนั้นการทำงานเขาหนักมาก
แม่ค้ามองมาที่จินเล็กน้อยแล้วก็กรอกตาขึ้นบนทันที เมื่อเห็นอย่างนั้นคิ้วจินขมวด เห็นได้ชัดว่าการแสดงออกเมื่อกี้นั้นเป็นเมื่อการเยียด อาจจะเป็นเเพราะเสื้อของเขามันเหมือนของเก่าๆ แต่เขาไม่สนใจเรื่องนั้น จินสงสัยว่าทำร้านแบบนี้ถึงมีการมองใส่ลูกค้าแบบนี้ด้วยโลกมันเป็นอะไรกันหมด แค่เห็นคนจนแล้วก็สามารถทำอะไรใส่ก็ได้หรือไง จินถึงแม้ไม่ได้ให้ค่ากับคนแบบนี้ แต่การทำแบบนี้มันจะได้ใจเกินไป
“แม่มาดูดิ มีรถหรูมาจอดตรงนั้นด้วยอ่ะ”
มีเสียงหนึ่งมาขัดจังหวะแม่ค้าที่กำลังเตรียมหมูปิ้งให้จิน และเรียกเธอว่าแม่ คนที่เรียกนั้นอายุสักประมาณ 16-17 เพราะเธอใส่ชุดนักเรียนม.ปลายอยู่ จินแปลกใจเล็กน้อยที่เธอคนนี้ไม่ได้ไปโรงเรียนตอนนี้ แต่ก็เดาได้อย่างหนึ่งเธอน่าจะเป็นลูกของแม่ค้า เพราะดูจากที่เธอพูดเมื่อกี้
“มันเป็นแลมโบด้วยแม่!!!! คนขับรถนี้ต้องรวยมากแน่ๆ”
เธอกล่าวออกมาด้วยแววตาที่ตื่นเต้นเหมือนกับเด็กที่ไม่เคยเห็น
“จริงหรอลูก ไหนพาแม่ไปดูหน่อย”
ทันทีที่ได้ยินลูกกล่าวมาแม่ค้าก็เดินตามลูกไปทันทีโดยทิ้งหมูปิ้งที่ยังเตรียมไม่เสร็จไว้ จินที่ได้เห็นอย่างนั้นก็งง นี่มันอะไรทิ้งลูกค้า? ตนไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำนั้นจึงทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อ อย่างน้อยแม่ค้าต้องอยากได้ลูกค้าสิแต่นี้มันอะไร ทิ้งลูกค้าไปดูรถหรูแถมรถคันนั้นยังเป็นรถตัวเอง
จินรู้สึกทนไม่ไว้ ทำไมเขาต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วยนะ หรือเพราะการแต่งตัวของเขาเมื่อคิดถึงจุดนี้ก็เอะใจเมื่อวานที่หัวหน้าพนักงานมองเยียดตนก็เป็นเพราะชุดไม่ใช่หรือไง
‘อย่างนี้ต้องหาซื้อชุดเสื้อผ้าที่ดีกว่านี้สินะ’
จินไม่สามารถทนได้ถ้าหากต้องเจอคนมองเยียดทุกวันถึงจะชินสำหรับที่คนมองเขาจน แต่มันน่าปวดหัวมากบวกกับตอนนี้ไม่มีที่พึ่งทางใจ แฟนก็โดนบอกเลิกไปแล้ว
จินเดินไปที่รถทันที หมูป้ิงตนไม่เอาแล้วค่อยไปหาซื้อในห้างเอา
เมื่อมาถึงก็เจอสองแม่ลูกที่กำลังมองรถเขาอย่างจริงจังและยิ้มออกมา แต่เมื่อแม่ค้าเห็นจินเดินมาก็แสดงสีหน้าไม่พอใจ
“เดี๋ยวจะไปทำให้หรอก รู้จักอดทดไหม เหอะ จนแล้วยังทำมาเป็นรีบ หน้าตาหล่ออย่างเดียวคิดว่าจะได้สิทธิ์พิเศษหรือไง”
แม่ค้าพูดออกมาทันที เธอคิดว่าจินต้องการจะมาเร่งเธอนั่นเองจึงทำให้เธอด่าจินไปเลยไม่ต้องคิด ถึงจินจะหน้าหล่อ แต่ในโลกแบบนี้คนรวยคือคนที่จะเป็นใหญ่ที่สุด ถึงหน้าตาหล่อแล้วยังไง ในเมื่อไม่มีเงินก็เป็นได้แค่ลูกจ้างจนตาย
จินไม่ได้ตอบโต้กับสิ่งที่เธอพูดแม้แต่น้อย ถึงแม้มันจะเป็นความจริงที่เธอพูดแแบบนั้น เขาก็เคยโดนดูถูกแบบนี้เหมือนกัน แต่ตอนนี้มันต่างกัน
จินเดินเข้าไปหารถโดยที่ไม่สนใจคำพูดเธอ แม่ค้าที่ได้เห็นแบบบนั้นก็ตกใจ นี่จินคงจะไม่มาทำร้ายเธอหรอกใช่ไหม เธอคิดอย่างนั้นในใจแต่แล้วก็นึกได้ว่าเธอมีลูกสาวอยู่ ถ้าหากเธอโดนทำร้ายลูกสาวเธอจะเป็นพยาน
แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่เธอคิด จินเดินเลยผ่านเเธอไปและขึ้นไปเปิดรถแลมโบทันที แม่และลูกที่ได้เห็นแบบนั้นก็ตกตะลึง นี่ไม่ใช่ที่สิ่งที่เธอคิดไว้เลย ถึงจะยอมรับว่าหน้าตาเขาหล่อก็จริงแต่สภาพการแต่งตัวไม่มีทางที่เป็นเจ้าของรถคันนี้แน่
“ถ้าหากจะชอบดูรถขนาดนั้น ทำไมไม่ไปเปิดร้านล้างรถแทนปิ้งหมู บอกผมด้วยนะถ้าเปิดจริง ผมจะไม่ต้องแวะแถวนั้น”
จินลดกระจกลงมาและพูดใส่หน้า ทั้งสองคน เมื่อพูดเสร็จก็ขับรถออกไปโดยที่ไม่สนใจ ทั้งแม่และลูกที่ได้ยินประโยคนั้นเข้าไปก็หน้าชาทันที ที่มากที่สุกก็ต้องเป็นแม่ค้า เธอไม่คิดว่าลูกค้าที่แต่งตัวอย่างกับคนไม่มีอันจะกินจะเป็นเจ้าของรถนั้น ตอนนี้เธอสั่นด้วยความอับอายโดนเฉพาะต่อหน้าลูกเธอ ไม่อยากจะคิดเลยว่าหากมีคนที่เห็นเหตุการณ์เยอะ จะอายขนาดไหน…..