บทที่ 1 เจ้าสาวของอสูร(03)

1324 คำ
และเมื่อเริ่มพิธี โรสก็ลมแทบจับอีกหน เมื่อลูกชายโยนแหวนหมั้นราคานับสิบล้านทิ้ง แล้วหยิบแหวนดอกหญ้าขึ้นมาแทน “แหวนราคานับสิบล้านแบบนี้ มันไม่เหมาะกับผู้หญิงหากินแบบนี้หรอกครับ มันต้องแหวนดอกหญ้า ถึงจะเหมาะสมกัน” มุมปากเหยียดตรง แววตานั้นส่อถึงความรู้สึกที่มีได้เป็นอย่างดี มันทั้งชิงชัง เหยียดหยาม และรังเกียจ ฝ่ายเจ้าสาวนั้นก็ได้แต่ก้มหน้ารับคำพูดที่โหดร้าย ช้องนางไม่รู้ว่าจะตอบโต้ไปอย่างไร ยิ่งเห็นสายตาที่มีแต่ความเย้ยหยันคู่นั้น ก็ต้องเม้มริมฝีปากแน่น ข่มความรู้สึกเศร้าและอายเอาไว้ ที่สำคัญหล่อนไม่อยากทำให้โรสและราเชน ต้องเสียหน้าไปมากกว่านี้ เพราะแค่นี้แขกผู้ร่วมงานต่างก็ซุบซิบนินทากันหนาหูแล้ว ขนาดอชินและนุชนาถ ที่ต่างอยากเห็นใบหน้าของพี่เขยต่างก็ยืนอึ้ง ทำอะไรไม่ถูก มองหน้ากันแล้วลอบกลืนน้ำลายก้อนเหนียวแทบไม่ลงคอ ไม่คิดเลยว่าว่าที่สามีของพี่สาวจะเป็นคนร้ายกาจขนาดนี้ ไม่ให้เกียรติกันเลย นุชนาถเม้มริมปากแน่นอย่างขุ่นเคืองใจ อยากจะเข้าไปต่อว่า แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ในเมื่อพี่สาวขยับริมฝีปากบอกออกมาว่าไม่เป็นไร ที่สำคัญหล่อนรู้สึกเกรงใจโรส ความบ้าบิ่นและป่าเถื่อนของรามัน ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ พอสวมแหวนหมั้นเสร็จ มือหนาก็กระชากตัวเจ้าสาวเข้ามาใกล้ พลันประกบปากจูบอย่างรุนแรง สั่งสอนที่บังอาจกล้ามาแต่งงานกับตน แล้วกระซิบชิดริมหูขาว “นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้นนะแม่เศษดิน เธอต้องเจอความร้ายกาจของฉันอีกเยอะ” เอ่ยเสียงเข้ม ผลักให้เจ้าสาวออกห่าง ก่อนจะร้องถามหาทะเบียนสมรส “หมั้นแล้ว ไหนล่ะทะเบียนสมรสมันจะได้เสร็จเร็วๆ” ราเชนลอบถอนหายใจนับสิบครั้ง รู้สึกสงสารลูกสะใภ้ ไม่รู้ว่าจะรับมือลูกชายของตนได้หรือไม่ งานนี้มีหวังลูกสะใภ้ต้องน้ำตาตก ช้ำใจเป็นแน่ ทันทีที่ทะเบียนสมรสวางอยู่ตรงหน้า รามันก็คว้าปากกาด้ามทองเซ็นชื่อลงไปทันที แล้วหันมาหาช้องนาง “เซ็นซะสิ จะได้เป็นเมียที่ถูกต้องของไอ้รามันคนนี้” ยื่นปากกาให้ และเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังนิ่ง ไม่ทำตามคำที่บอก ใบหน้าคมก็ก้มลงมาใกล้ใบหน้านวลอีกครั้ง “จดซะ อยากเป็นเมียฉัน ก็รีบจด อย่าลีลาให้มาก ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ แล้วเธอจะไม่ได้เงินสิบล้านตามที่ตกลงกับแม่ฉัน” พูดเสียงห้วนใส่ ช้องนางเม้มริมฝีปากแน่น พลางเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนสั่ง ‘นี่เขาไม่คิดจะพูดดีๆ หรือให้เกียรติเธอบ้างหรืออย่างไร ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงนะ ทำไมแต่ละคำที่พูดออกมามีแต่ถ้อยคำที่หยามเหยียดและดูถูก’ แต่ไม่นานก็ต้องหลบสายตาลงต่ำเพราะไม่อาจทนมองสายตาคู่นี้ได้ เมื่อเห็นว่าโรสพยักหน้าให้ทำตาม มือสวยก็จรดปลายปากกาเซ็นชื่อลงไป และแล้วทั้งคู่ก็ได้เป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้อง แต่ไม่ทันที่ช้องนางจะวางปากกาลง รามันก็คว้าทะเบียนสมรสมาไว้ที่ตัว มือหนาฉุดกระชากเจ้าสาวให้ลุกขึ้น พร้อมเอื้อนเอ่ยเสียงเข้ม “หมั้นก็หมั้นแล้ว ทะเบียนสมรสก็จดแล้ว ผมหวังว่าแม่คงพอใจนะครับ ส่วนงานเลี้ยงตามสบายนะครับ ไร่ส้มกำลังยุ่ง ขอตัวกลับไปจัดการไร่ก่อน” พลันเหยียดยิ้มให้เจ้าสาว “ส่วนเธอเตรียมตัวรับความเจ็บปวดได้เลย แม่คนไร้ค่า” พูดจบก็ฉุดกระชากให้เดินตาม ฝ่ายโรสก็ลมแทบจับเมื่อได้ยินคำพูดของลูกชาย จนราเชนต้องรีบเข้ามาช่วยพยุงไว้ ผู้เป็นพ่อต้องถอนหายใจอีกหน หนักใจซะเหลือเกินกับสิ่งที่ลูกชายทำ และท่าทางงานนี้ลูกสะใภ้คงต้องรับศึกหนักอย่างแน่นอน “อย่าทำเป็นสำออย โดนกระชากแค่นี้น้ำตาเล็ด มารยา” เสียงร้ายกาจถูกพ่นออกมาขณะที่ยังคงกระชากให้หญิงสาวเดินตาม ไม่หันมาสนใจเลยสักนิดว่าตอนนี้เจ้าหล่อนจะเจ็บแค่ไหนกับแรงกระชากที่ใส่ไม่ยั้ง คนโดนกระชากเจ็บจนมีน้ำใสๆ คลอเบ้าตา ก็เขาทั้งฉุดทั้งกระชาก จนข้อมือสวยนั้นช้ำ แถมรองเท้าส้นสูงก็พลิกทำให้หกล้มหลายรอบ เป็นผลให้เจ็บข้อเท้า “นางไม่ได้มารยา แต่นางเจ็บ” เสียงสั่นร้องบอก และต้องร้องเสียงหลงอีกหนเมื่อโดนผลักให้เข้าไปในลิฟต์ “ว้าย!!” ชายหนุ่มกดหมายเลขไปยังชั้นที่รถของตนนั้นจอดอยู่ พลางยืนอารมณ์เสียที่ต้องมาเสียเวลากับผู้หญิงคนนี้ ปรายตาไปมองด้วยสายตาที่ขุ่นมัว พอลิฟต์เลื่อนไปได้สองชั้นก็มีชายรูปร่างสูงโปร่งเดินเข้ามา มือบางรีบยกขึ้นมาปาดน้ำตาที่กำลังไหลรินนั้นทิ้งไป เพราะไม่อยากให้คนอื่นมอง แต่ทว่าสายตาของผู้ชายคนนั้นกลับจับจ้องมองมา และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดมอง แถมมันยังเป็นสายตาของความหื่นกระหาย จนเจ้าหล่อนต้องขยับเข้าไปหาสามีจอมใจร้าย ฝ่ายรามันก็รับรู้ได้ถึงสายตาที่ไม่ประสงค์ดี แต่ก็ทำนิ่ง จนรู้สึกว่าทนไม่ไหว จึงตวัดสายคู่คมมองใบหน้าหื่นอย่างหาเรื่อง “ถ้าจะมองถึงขนาดนี้ กูยกให้เอาไหม แต่ก็ต้องแลกกับลูกปืนกูก่อนนะ” ใบหน้านั้นบึ้งตึง ดวงตากร้าวแข็ง ถึงไม่ได้พิศวาสในตัวของเจ้าหล่อน แต่ก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของของตน ชายคนนั้นถึงกับขนลุกซู่เมื่อได้ยินน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม แถมพอเงยหน้าไปมอง ก็ต้องลอบกลืนน้ำลาย แข้งขาพานอ่อนเปลี้ย เพราะสายคู่นั้นช่างดุดันราวกับราชสีห์ที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อ ชายคนนั้นรีบเผ่นออกจากลิฟต์ทันที “เสน่ห์แรงจริงนะแม่คุณ ขนาดในลิฟต์ยังหว่านเสน่ห์ได้อีก” คนฟังเม้มริมฝีปากแน่นและเบือนหน้าหนี ไม่อาจจะจ้องมองเจ้าของใบหน้าคมได้ ในใจแสนจะกรุ่นโกรธ แต่ก็เลือกไม่ตอบโต้ เพราะรู้ดีว่าเถียงไปก็ไม่มีอะไรดี สู้ใช้ความเย็นเข้าสู้จะดีกว่า แต่เจ้าหล่อนก็รู้สึกหนักใจไม่น้อย เพราะท่าทางงานนี้ หล่อนอาจจะใช้วิธีนี้ไม่ได้ผล เพราะเขาอารมณ์ร้อนและร้ายกาจซะเหลือเกิน เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเบือนหน้าหนี รามันก็ขบกรามนูนแน่น ไม่ชอบท่าทางที่ทำเหมือนไม่ใส่ใจ มือหนาออกแรงกระชากแขนสวย ทำให้ช้องนางถลามาชนกับอกแกร่ง ก่อนริมฝีปากหนาจะก้มลงแล้วแนบหาริมฝีปากบางอย่างลงโทษ กดจูบร้อนๆ อย่างหนักหน่วง ดุดัน ไม่สนใจว่าช้องนางจะต่อต้านแค่ไหน เพราะรามันคิดว่ามันคือมารยา ช้องนาระรัวกำปั้นใส่ไม่ยั้ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายเจ็บสักนิด ใบหน้านวลนั้นแดงก่ำเมื่อประตูลิฟต์ถูกเปิดออก เพราะมีแต่คนยืนมองอย่างตกตะลึง อ้าปากค้าง ที่เห็นเขาและเธอแสดงบทเลิฟซีนกัน ทันทีที่เป็นอิสระเจ้าหล่อนก็รีบก้มหน้า เพราะรู้สึกอับอาย คงมีแต่รามันคนเดียวเท่านั้นที่ทำสีหน้าเรียบตึง เหมือนไม่รู้สึกอะไร จนดูไม่ออกเลยว่าเขานั้นกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ก็สมแล้วกับคำร่ำลือที่ว่าเขานั้นเย็นชาและร้ายกาจยิ่งกว่าอสูร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม