บทที่ 3 คุณชายเสเพล

1656 คำ
ยามค่ำคืนวันนั้น เผยจูเอ่อขอท่านน้าหญิงออกไปท่องเที่ยวในยามค่ำที่โรงเตี๊ยมผิงเซียง ซึ่งเป็นโรงเตี๊ยมของตระกูลเผย เบื้องหน้าเปิดกิจการเป็นร้านอาหารที่มีห้องพักด้านบน แต่เบื้องหลังคือบ่อนพนันและหอนางโลมผิดกฎหมาย โดยที่มี เผยไฉหง บิดาของเผยหลิงหลิงเป็นผู้ดูแล “เจ้าอย่าซุกซนจนท่านตาของเจ้าปวดหัวเล่า” เผยหลิงหลิงกำชับหลานสาวก่อนออกไป แต่สามีของนางดูเหมือนจะไม่พอใจนัก ที่ภรรยาอนุญาตให้สตรีที่ยังไม่ออกเรือนทั้งยังเป็นสตรีในห้องหอไปยังสถานที่แบบนั้นในตอนกลางคืน “อย่าให้เกินยามห้ายเล่า ประเดี๋ยวจะอันตราย” ลู่ตงเหิงกำชับอีกรอบ ทั้งสีหน้าคร่ำเครียดเล็กน้อยเผยหลิง หลิงจึงเอาอกเอาใจสามีแทน “ท่านพี่อย่ากังวลใจไป ที่นั่นมีท่านตาของจูเอ่อ ท่านพ่อของข้าอยู่ดูแล ไม่เป็นอันตรายเจ้าค่ะ ท่านกลับมาเหนื่อย ๆ ข้านวดให้ดีหรือไม่” เผยหลิงหลิงพาท่านพี่ของนางเข้าไปในห้อง แล้วนวดไหล่คลายความตึงเครียดในการงานให้ พร้อมทั้งอยากปรึกษาเกี่ยวกับการขับไล่ลู่เซวียนเฉ่าออกจากจวนราชครูลู่ไปด้วย วันนี้หลานสาวมาฟ้องนางว่า ลูกเลี้ยงนอกคอกผู้นั้นข่มขู่คิดจะเปิดโปงนาง เพื่อไม่เป็นการประมาทนางต้องจัดการเรื่องนี้ให้ดี “ท่านพี่คิดเรื่องแต่งงานของเฉ่าเอ๋อร์ไว้บ้างหรือไม่เจ้าคะ” นางลองเลียบ ๆ เคียง ๆ ถาม “ข้าคิดจะถวายนางเด็กนั่นเป็นสนมฝ่าบาท” ลู่ตงเหิงพูดอย่างหงุดหงิดใจ เมื่อเอ่ยถึงลูกสาวที่ยังคลางแคลงใจว่าเป็นบุตรสาวของตนเองแท้จริงหรือไม่ เหตุใดภรรยาของตนถึงหนีตามรักเก่า แล้วทิ้งให้นางอยู่ลำพังในจวนของเขาไม่ยอมพานางเด็กนั่นไปด้วยกันเสียเลย เผยหลิงหลิงใบหน้ามืดดำลง หากนางเด็กนั่นเป็นสนมฝ่าบาท มิเท่ากับลืมตาอ้าปากได้ หากฝ่าบาทโปรดมิเท่ากับนางหาเรื่องใส่ตัวหรอกหรือ เรื่องนี้นางต้องทบทวนให้รอบคอบสักหน่อย “ท่านพี่โปรดตรึกตรองดี ๆ ก่อนดีกว่าเจ้าค่ะ วันนี้เราพักเรื่องนี้ไว้ก่อน มาเจ้าค่ะข้าจะปรนนิบัติท่านเอง” เรื่องบนเตียงเผยหลิงหลิงเอาอกเอาใจสามีดีจนรักจนหลง นางเคยเติบโตมากับพวกนางโลมของท่านพ่อ รู้วิธีทำให้บุรุษพึงพอใจ ท่วงท่าพิสดารนางก็ทำได้หมดกระทั่งให้ลองชิมของสามีนางก็ทำมาแล้ว ลู่ตงเหิงติดใจรสสวาทของภรรยาตัวเองที่สุด ต่อให้มีอนุหลายคนแล้วอย่างไร สตรีเหล่านั้นหาได้สู้ฮูหยินใหญ่ของเขาไม่... เผยจูเอ่อลงจากรถม้าของจวนสกุลลู่ ตอนนี้นางไม่ต่างอะไรจากคุณหนูมีชาติตระกูลเลยสักนิด ผิดกับเมื่อก่อนที่เป็นเพียงหญิงชาวบ้านธรรมดา เมื่อนางก้าวย่างเข้าไปในโรงเตี๊ยมผิงเซียง เหล่าคนงานก็เชิญนางเข้าไปด้านใน “วันนี้ท่านตาอยู่หรือไม่” “อยู่ขอรับคุณหนู เชิญท่านพักที่ห้องรับรองก่อน” เผยจูเอ่อพยักหน้าแล้วเดินตามคนพวกนั้นไป ทั้งสอดส่ายมองไปยังรอบ ๆ ของโรงเตี๊ยมที่มีหลายชั้นแห่งนี้ ที่นับวันจะรุ่งเรือง ตั้งแต่ท่านน้าแต่งเข้าสกุลลู่ ไม่มีผู้ใดในเมืองหลวงไม่รู้จักโรงเตี๊ยมผิงเซียง แต่เมื่อสายตาคมปลาบของเผยจูเอ่อปราดมองไปยังเบื้องล่างที่มีคุณชายท่าทางเสเพลกำลังโวยวายจึงถามเสี่ยวเอ้อขึ้น “คุณชายท่านนั้นคือผู้ใด” “คุณชายอวี้ คหบดีผู้ร่ำรวยอันดับหนึ่งแคว้นเสิ่นหยางขอรับ ทุกวันมาเมาแล้วพร่ำเพ้อถึงสตรีนางหนึ่ง” เสี่ยวเอ้อรายงานคุณหนูเผยแล้วกลับไปทำงานต่อ เผยจูเอ่อแค่มองแล้วหลบเข้าไปในห้องรับรอง ไม่ได้สนใจบุรุษผู้นั้น เพราะแค่คหบดีต่อให้รวยล้นฟ้า ในแคว้นเสิ่นหยางก็ยังฐานะต่ำต้อยกว่าขุนนางหลายส่วนนัก นางเป็นหลานของท่านน้า ฮูหยินราชครู ต้องอย่างต่ำแต่งเข้าจวนอ๋องไม่ก็บรรดาองค์ชาย เบื้องล่างโรงเตี๊ยมผิงเซียง เสียงเอะอะโวยวายของคุณชายอวี้ ‘อวี้เหวินจิ้ง’ ผู้นำตระกูลอวี้รุ่นถัดไปวัย 26 ปีกำลังเมาอาละวาดเหมือนเคย ๆ วันนี้สตรีที่เขาหมายตาที่เข้าถวายตัวเป็นสนมฝ่าบาทเมื่อหลายเดือนก่อนเดินเคียงคู่กับฮ่องเต้สวีเจี้ยนหงในอารามหลวง ที่สหายของเขาได้เชิญให้เข้าร่วมทำบุญใหญ่ประจำปี ตระกูลอวี้ที่เป็นคหบดีที่ร่ำรวยที่สุด มีหรือจะไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วม เพราะอำนาจทางการค้าที่ใหญ่ที่สุด ถูกรวบไปที่ตระกูลนี้ องค์รัชทายาท สวีจงเจี้ยน หรือไท่จื่อ รู้สึกคิดผิดแท้ ๆ ที่ให้สหายรักของเขาร่วมงานนี้ มิเท่ากับกำลังทำให้สหายของเขาเจ็บเจียนขาดใจเพราะเรื่องหัวใจหรอกหรือ “อาจิ้ง เจ้าหักห้ามใจเสียเถิด” เขาพยายามปลอบใจ อย่างไรสตรีผู้นั้นเป็นถึงเต๋อเฟยสนมขั้นสามเชียวนะ สกุลกู้กลัวว่ากู้กุ้ยฮวาจะตกลงปลงใจแต่งเข้าสกุลอวี้ แม้ว่าจะร่ำรวย แต่ทว่านับเรื่องหน้าตาและอำนาจมิสู้ถวายตัวฝ่าบาทหรอกหรือ จึงทำให้สหายของเขานั้นชอกช้ำใจ เพราะนางไม่อาจขัดต่อคำสั่งบิดามารดา ต้องกตัญญูต่อวงศ์ตระกูล “ให้ข้าหักห้ามใจงั้นเหรอ เจ้าก็รู้สตรีเดียวที่ข้ารักมีเพียงนาง” เขาพยายามเข้าหาสกุลกู้มาหลายปี แต่สุดท้ายคว้าน้ำเหลวไม่พอ ยังถูกกีดกันอีกต่างหาก เขามีใจให้นางแต่นางก็พอจะมีใจให้เขาอยู่บ้าง เมื่อถูกคำสั่งบิดาห้ามพบปะ เขาก็ไปดักพบนางบ้างบางครั้ง เขารอคอยมาหลายปี จนเมื่อได้รับข่าวว่านางจะเข้าถวายตัว สู้อุตส่าห์ลอบเข้าเรือนของนางเพื่อพาหนี แต่นางกลับไม่ตกลงทำให้เขาเศร้าเสียใจจนทุกวันนี้ “เจ้ากลับเถอะ ที่นี่คนมากเจ้าก่อเรื่องอีกบิดาเอาเจ้าตายแน่” องค์รัชทายาทมักปลอมตัวออกมาดื่มสุราสังสรรค์และหารือเรื่องการค้ากับอวี้เหวินจิ้งเป็นประจำ วันนี้สหายของเขาควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จึงได้พูดหลายสิ่งออกมาด้วยความเมา แล้วที่นี่มีหูตายิ่งกว่าสับปะรดเสียอีก “ไม่...ข้าจะไปหากุ้ยฮวา...กุ้ยฮวาเป็นของข้าผู้เดียว” องค์รัชทายาทส่ายหน้าให้กับสหาย อะไรก็ฉลาดหมดเว้นเรื่องหัวใจเรื่องเดียวที่ไม่ยอมปล่อยวาง แล้วยังคิดวางแผนหาทางเข้าพบสนมของเสด็จพ่อของเขาอีก ‘สงสัยไม่อยากมีหัวบนบ่าแล้ว’ “เมิ่งจื่อ ช่วยข้าหน่อย” สวีจงเจี้ยนช่วยกันหิ้วปีกสหายกลับออกจากโรงเตี๊ยมผิงเซียง ก่อนที่เรื่องราวจะใหญ่โตกว่านี้ไปอีก “ไม่ข้าไม่กลับ...ข้า...จะไปหานาง...ข้าคิดถึงนาง” อวี้เหวินจิ้งอายุอานามก็ป่านนี้แล้ว กระทั่งสตรีอุ่นเตียงก็ยังไม่เคยมี ปักใจรักเพียงสตรีที่เป็นผลไม้ต้องห้ามผู้นั้นเพียงผู้เดียว จนเขาที่เป็นสหายช่วยกันปกปิดมาตลอด ตอนนี้มาถึงบ้านแล้ว สหายของเขายังไม่สร่างเมาไม่พอ ยังโวยวายลั่นบ้าน จนบิดาและมารดาของเขาตื่นขึ้นกลางดึกออกมาดูสภาพบุตรชาย “คารวะท่านลุงอวี้ ท่านป้าอวี้ เขาเมานะขอรับ” สวีจงเจี้ยนเคารพบิดามารดาของสหายเช่นเดียวกับบิดาตน เพราะได้รับความรู้เรื่องการค้าไปไม่น้อย วันหน้าเขาได้ขึ้นเป็นใหญ่จะนำความรู้พวกนี้ไปใช้ปกครองแคว้น เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวยของแคว้นตนเอง “ไอ้หยา! เหตุใดบุตรชายช่างไม่รู้ความนัก ขอบคุณคุณชายที่มาส่งเขา” อวี้ชุนหัวกล่าวขอบคุณสหายที่พวกเขาก็รู้ว่าตำแหน่งอะไร เพียงแต่ตกลงกันว่าอยู่ข้างนอกเรียกดั่งคุณชายธรรมดาทั่วไป จึงไม่ได้มีพิธีรีตอง “ท่านพ้อออ...ข้ารักนาง...เอิ้ก...ข้ารักกุ้ยฮวา...รักนางผู้เดียว” ถ้อยคำที่พ่นออกมาด้วยความเมามาย ทำเอาอวี้ชุนหัวกับเพ่ยอิงฮัวจับคอตนเองว่ายังอยู่หรือไม่ นั่นมันสตรีต้องห้ามของฝ่าบาท บุตรชายของเขาจะไปรักได้อย่างไรกัน “เอ่อ...ท่านลุง ท่านป้าไว้ใจข้าเถิด เรื่องนี้จะเป็นความลับ” สวีจงเจี้ยน เห็นสีหน้าบิดามารดาของสหายใบหน้าซีดเซียวก็รับรู้ความคิดได้ในทันที สองผู้เฒ่าอวี้ให้พ่อบ้านหวงจัดการเอาลูกชายไปนอน แล้วหันมานั่งขบคิดกันเรื่องของบุตรชาย “ท่านว่าบุตรชายของเราจะนำหายนะมาสู่ตระกูลหรือไม่” เพ่ยอิงฮัวขบคิดหนักไม่แพ้สามี นางนอนไม่หลับเลยทีเดียว “นั่นสิ ข้าอดคิดหนักไม่ได้ ไม่รู้ต้องทำเช่นไรกันดี” “แล้วถ้าหากว่าเราเสาะหาสตรีที่งดงาม แล้วดวงเกื้อกูลให้แต่งกับบุตรชายเล่า ท่านว่าเป็นเช่นไร” “แต่บุตรชายเราจะยอมแต่งใช่หรือ เขาไม่ยอมมีแม้แต่สตรีอุ่นเตียง เจ้าคิดว่าเจ้าลูกชายหัวดื้อนั่นยินยอมหรือไม่เล่า” “ท่านก็ไม่คิดหรือ หากมีสตรีงดงามอยู่ตรงหน้า ข้าดูทีว่าเขาจะไม่ยอมได้อย่างไร พรุ่งนี้ข้าจะไปหาซินแสผูกดวงให้เขา” เพ่ยอิงฮัวมีรายชื่อสตรีของขุนนางทั่วแคว้นเสิ่นหยาง พร้อมวันเดือนปีเกิดเพื่อจะผูกดวงอยู่แล้ว แต่เจ้าลูกชายห้ามไว้ แต่ยามนี้เห็นทีว่ารั้งรอต่ออีกไม่ได้แล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม