“ได้ยินว่าถูกทาบทามให้เป็นดรัมเมเยอร์?” “คะ?” เพราะมัวแต่เขินอายกับเหตุการณ์ก่อนหน้าจึงได้ยินไม่ชัดว่าเขาพูดอะไร ดวงตากลมโตมองคนตัวสูงด้วยความงวยงงพยายามทวบทวนว่าอีกฝ่ายพูดอะไรกว่าจะนึกได้ก็ผ่านไปหลายนาที “อ่อ... เรื่องดรัมเมเยอร์? ใช่ค่ะ พวกรุ่นพี่มาคุยกับหนู แต่หนูยังไม่รับปากนะคะ” หญิงสาวพยักหน้ารับ ไม่คิดว่าเขาเองก็รู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งถ้าพี่คลื่นรู้พี่พร้อมก็น่าจะรู้เหมือนกัน ดีไม่ดีก็เป็นพี่พร้อมนั่นแหละที่เป็นฝ่ายพูดให้พี่คลื่นฟัง สองคนนี้คุยกันแทบทุกเรื่อง “ทำไม?” “ก็ถ้าหนูรับปากเป็นดรัมเมเยอร์ของสีเราก็ต้องอยู่ซ้อมตอนเย็นหลังเลิกเรียนทุกวัน พี่เอินยังบอกอีกว่าอาจจะมีการนัดมาซ้อมวันเสาร์ด้วย” แน่นอนว่าไม่ใช่เฉพาะดรัมเมเยอร์เท่านั้นที่ต้องอยู่ซ้อมทุกวันหลังเลิกเรียน พวกเชียร์ลีดเดอร์เองก็ต้องอยู่ซ้อมเหมือนกัน ทว่าเธอไม่รู้จักใครในทีมเชียร์ลีดเดอร์นี่สิ จะบอกว่าไม่รู้จักก็ไม