ตอนที่ 6 อินทุ (2)

1296 คำ
อินทุ เป็นเวลานานพอสมควรที่ผมนั่งเฝ้าพยาบาลผู้ชายคนที่นอนสลบอยู่บนตักของผมก่อนตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายถึงน้องชายทันที ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาไปอยู่ที่ไหนทำไมยังไม่กลับบ้านซักที "เสียงเพลงรอสาย... ฮัลโหลครับพี่อิฐ" "นี่เราอยู่ไหนเนี่ยพี่บอกให้กลับมาบ้านไม่ใช่เหรอแล้วทำไมให้เขามาหาพี่ที่นี่ได้" ผมกรอกผ่านตามสายไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด  "ผมกำลังกลับไปที่บ้านครับ อย่าบอกนะว่าพี่ลงไม้ลงมือกับพี่เตอีกแล้ว" ผมได้ยินคำถามของเขาทำให้ผมถึงกับอึ้งและรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที  "คือ...มันเป็นอุบัติเหตุน่ะ รีบกลับบ้านเถอะไม่อยากเล่าตอนนี้" ผมไม่รอให้คนปลายสายได้ถามอะไรแล้วรีบกดวางสายไป แล้วก้มลงมองใบหน้าผู้ชายคนนั้นอีกครั้งที่ยังหลับตาพริ้มจากอาการสลบ หากใช้แววตาที่ไร้ที่ไร้อคติหรือความเกลียดชังในการมอง เขาช่างดูไร้เดียงสาไม่มีพิศภัยหรือน่าหวาดกลัวอะไรเลย ทั้งยังแฝงด้วยความอ่อนโยน มีความเป็นเด็กอยู่ในตัวไม่น้อยจนผมเผลอยกมือขึ้น ใช้ปลายนิ้วเขี่ยปอยผมที่ปิดบังหน้าผากออกด้วยความเบามือ เมื่อผมได้สติอีกครั้งก็ต้องสลัดหัวแรงๆ 2-3 รอบความรู้สึกเดิมๆก็กลับมาครอบงำผมอีกครั้งส่งผลให้ผมค่อยๆประคองศีรษะของเขาขึ้นก่อนขยับตัวเองออกจากที่ตรงนั้นแล้วหยิบหมอนมารองศีรษะของเขาแทนตักของผม เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยผมจึงเดินไปยังหน้าบ้านเพื่อมองหาน้องชายที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่นาน "พี่เตเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ พี่ทำร้ายอะไรเขาอีกครับ พี่รู้ไหมว่าพี่เป็นผู้ชายที่ใจร้ายมากที่สุดทำรายได้กับคนที่ไม่มีทางสู้ ผมรู้ว่าพี่ไม่ชอบพี่เตเขาแต่พี่ก็ไม่ควรที่จะทำร้ายเขานะครับ" ผมถูกน้องชายว่าใส่ตั้งแต่ที่เขาเปิดประตูก้าวขาลงจากรถยนต์แล้วมายืนว่าผมตรงหน้า "สิ่งที่เขาทำกับพี่มันสมควรแล้วสินะ ที่จู่ๆเขาก็เข้ามาจูบปากพี่ทั้งที่เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน อีกอย่างเขายังมาพูดพร่ำพรรณนาว่ารักพี่อย่างนู้น ว่ารักพี่อย่างนี้จนพี่จะอ้วก เคยคิดถึงความรู้สึกของพี่บ้างไหม เราเองเป็นน้องชายของพี่น่าจะรู้จักพี่ดีกว่าใครๆไม่ใช่เหรอ" ผมพยายามอธิบายถึงความรู้สึกต่อน้องชายขณะที่เราสองคนกำลังเดินไปหาคนต้นเหตุที่นอนสลบบนโซฟากลางห้องรับแขกของบ้าน ทันทีที่เราสองคนไปถึงยังโซฟา สายตาของผมก็หันไปเห็นผู้ชายคนนั้นกำลังนั่งซับน้ำตาตัวเองที่หยดน้ำตายังรินไหลนองสองแก้มอย่างน่าสงสาร ขณะที่น้องชายผมไปนั่งด้านข้างหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาซับน้ำตาให้เขาด้วยความเห็นใจ  "พี่เตครับผมว่าพี่ไปโรงบาลกับผมอีกครั้งเถอะครับ แผลที่คิ้วพี่ยังมีเลือดไหลอยู่เลยครับ ผมบอกพี่แล้วว่าอย่ามาที่นี่อีกพี่ก็ไม่เชื่อผม" "พี่ไม่เป็นอะไรหรอก พี่ทำผิดก็ต้องมาขอโทษเขาสิ เจ็บแค่นี้ถือว่าน้อยไปสำหรับการกระทำแย่ๆ ทุกครั้งที่ได้เห็นใบหน้าของเขาพี่ควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ พี่ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร" พอผมได้ฟังคำอธิบายจากชายคนนั้นยิ่งทำให้ความโกรธของผมกลับเข้ามาสิงสู่ในร่างของผมอีกครั้ง "ก็คงจะเป็นเพราะความบ้ากามของคุณไงครับที่สั่งให้คุณทำกริยาต่ำๆอย่างนั้น ดูจากรูปร่างหน้าตาของคุณแล้ว ผมคิดว่าคุณน่าจะมีชาติตระกูที่ดีนะครับแต่ไม่น่ากลายเป็นพวกวิปริต ผิดเพศ บ้ากามไปได้ ผมนี่นะรู้สึกสมเพชคุณจริงๆ" ทันทีที่ผมพูดจบลงน้องชายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมได้พูดสวนขึ้นใส่ผมทันใดก่อนที่เขาจะฟาดหมัดเข้าที่มุมปากของผมอย่างแรงไป 2 ทีจนผมถึงกับเซจวนจะล้มแต่ได้คนชื่อเตเข้ามาประคองผมไว้ทัน "เป็นยังไงบ้างคุณอิฐ เจ็บตรงไหนครับ" ผมสะบัดฝ่ามือเล็กของอีกฝ่ายที่ยังกอดประคองตัวผมไม่วาง "ปล่อยผมนะ ผมตัวแลตัวเองได้ อย่าเอามือสกปรกๆมาจับตัวผม" "พี่จะดูถูกพี่เขาเกินไปแล้วนะ ถึงเขาจะเป็นยังไง เขาก็เป็นคนเหมือนพี่ มีชีวิตจิตใจ มีความต้องการเหมือนกับเราทุกคนและสิ่งที่เขาทำกับพี่นั่นก็เป็นเพราะว่าเขารักพี่มาก มากเสียจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ตอนที่ผมเจอพี่เขาแรกๆผมก็อดใจไม่ไหวอย่างพี่เขานี่แหละ ที่เขาทำเพราะเขาชอบพี่จริงๆ แต่พี่ก็ไม่น่ารุนแรงกับเขาแบบนั้น พี่นี่แย่จริงๆ" "ปั้ก...ปั้ก... หยุดเถอะอย่าทะเลาะกันอีกเลยนะ ฉันจะไปจากที่นี่เอง อย่าทะเลาะกันเลย นาย 2 คนเป็นพี่น้องกันไม่ควรมาทะเลาะกันเพราะคนนอกอย่างฉัน สิ่งที่คุณอิฐพูดก็ถูก ฉันไม่ควรทำแบบนั้นแต่ฉันก็ขอให้คุณรู้ไว้นะอิฐ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ฉันก็จะรักคุณและจะรักคุณแบบนี้จนกว่าฉันจะตายหากฉันตาย วิญญาณของฉันจะเฝ้าติดตามคุณเพื่อที่จะได้รักและดูแลคุณไปตลอดทุกภพทุกชาติไป" เมื่อผมได้ฟังคำพูดที่เหมือนเป็นการให้คำมั่นสัญญา ที่คนชื่อเตพร่ำบอกกับผมทำให้ผมรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน มันเพราะอะไรทำไมเขาถึงกล้าสัญญาด้วยชีวิตแบบนี้แต่ก็ช่างเถอะเขาจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ชีวิตของเขา เมื่อทุกอย่างเริ่มจะเข้าร่องเข้ารอยโดยมีน้องชายของผมคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง เขาคงจะไม่เป็นอะไรมากหรอก จากนั้นผมเลยขึ้นห้องนอนจากไปโดยไม่หันกลับมามองหรือสนใจชายต้นเหตุที่ทำให้พี่น้องต้องทะเลาะกันอย่างเขา ผมพยายามปรับสภาพจิตใจให้เป็นปกติตามเดิมที่โต๊ะทำงานประจำตำแหน่งในห้องนอน ผมเริ่มดึงสติให้กลับมาจัดการกับกองเอกสารจากที่ทำงาน สักพักเหตุการณ์ต่างๆที่คอยรุมเร้าผมก็หายไปจนหมดสิ้น เวลาผ่านไปนานกี่ชั่วโมงไม่อาจทราบได้ ขณะที่ผมกำลังนั่งเคลียร์บัญชีที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบกับการตรวจสอบ "เอี๊ยดดด....โครมม!!..." "เกิดอะไรขึ้นน่ะ" ผมอุทานเสียงดังด้วยความตกใจกับเสียงคล้ายๆรถเบรคแตกแล้วตามด้วยเสียงโครมดังกระหึ่มบริเวณแถวนั้น ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงน้องชายส่งเสียงเรียกชื่อใครคนหนึ่งอยู่หลายรอบจนผมจับใจความได้ว่าเป็นชื่อของนายเตโชอย่างแน่นอน ส่งผลให้สัญชาตญาณความอยากรู้ของผมวิ่งปรี๊ดเข้าสมองอย่างรวดเร็วสั่งให้ผมไปยืนมองที่ระเบียงห้องเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งที่ผมเห็นก็คือน้องชายของผมเข้าไปประคองร่างไร้สติของใครสักคนที่มีเลือดไหลอาบท่วมตัวขึ้นประคองอยู่บนตักตรงประตูหน้าบ้านพอดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม