หลังจากเช็กความเรียบร้อยของตัวเองว่าไม่มีเหลือร่องรอยความผิดปกติให้คนอื่นสงสัย มินตราจึงเดินกลับไปที่โต๊ะ เธอตั้งใจว่าจะลาคนอื่นกลับโรงแรมก่อนเพราะไม่อยากอยู่ต่อเพื่อเห็นภาพบาดตาบาดใจ เมื่อเดินมาที่โต๊ะเธอก็พบว่าอนาวินและโรซี่กลับมานั่งดื่มกับคนอื่นๆ แล้ว เธอจึงไม่รอช้าที่จะบอกลาทันที
“มินนี่ขอตัวกลับก่อนนะคะทุกคน”
“อ้าว ทำไมคุณมินนี่รีบกลับล่ะคะ พวกเราเพิ่งมากันได้สักพักเอง” กุ้งนางถามอย่างสงสัย
“พอดีมินนี่ไม่ค่อยชอบเที่ยวกลางคืนอยู่แล้วน่ะค่ะ อีกอย่างวันนี้รู้สึกเหนื่อยๆ อยากกลับไปพักมากกว่าค่ะ”
“เดี๋ยวผมไปส่ง” อนาวินพูดขึ้นทำให้โรซี่ที่นั่งเบียดอยู่ข้างๆ หันมามองเขาทันที ชั่วแวบเดียวที่เจ้าหล่อนหันมามองมินตราก็ได้เห็นแววตาที่แสดงความไม่เป็นมิตรอย่างชัดเจน
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวมินนี่เรียกรถของโรงแรมมารับก็ได้ วินอยู่สนุกกับคนอื่นๆ เถอะ”
“ไม่ได้หรอกมินนี่ ดึกแล้วมันอันตราย ให้ผมไปส่งดีกว่า”
“จริงด้วยค่ะ ถึงจะโทรตามรถของโรงแรมมารับ แต่คุณมินนี่เป็นผู้หญิงไปคนเดียวก็อันตรายนะคะ ให้คุณวินไปส่งดีแล้วค่ะ” มดรีบพูดขึ้นเพราะอยากแกล้งโรซี่ที่แสดงอาการไม่พอใจ เมื่อผู้ชายที่ตนเองเล็งเอาไว้แสดงท่าทีห่วงใยผู้หญิงคนอื่น
“วินคะ คุณมินนี่เธออยากกลับเองก็ปล่อยเธอเถอะค่ะ” โรซี่รีบขยับมาคล้องแขนอนาวินเอาไว้ แต่ชายหนุ่มดึงแขนเธอออกแล้วจับคางเรียวโยกไปมา
“มินนี่เป็นเพื่อนผม ผมจะทิ้งให้เขากลับคนเดียวดึกๆ แบบนี้ไม่ได้หรอกครับ คุณรอผมอยู่ที่นี่นะ เดี๋ยวผมกลับมาหา” ได้ยินแบบนั้นโรซี่ก็ยิ้มออกในขณะที่กุ้งนางและมดแอบสบตากันอย่างหมั่นไส้ มินตราสูดลมหายใจเข้าลึกกลืนเก็บความรู้สึกทุกอย่างลงไปไว้ในอกแล้วส่งยิ้มให้เมื่อเขาหันมามอง
“ไปกันเถอะมินนี่” เธอเดินตามอนาวินมายังรถยุโรปคันหรูที่เขาเช่าเอาไว้ใช้งานตั้งแต่วันที่มาถึงภูเก็ตวันแรก
“ทำไมถึงรีบกลับล่ะมินนี่ เราทำงานเหนื่อยกันมาตั้งหลายวัน น่าจะอยู่สนุกกันก่อน”
“วินก็รู้นี่ว่ามินนี่ไม่ชอบปาร์ตี้สักเท่าไหร่ แค่มานั่งชิลไม่ให้น่าเกลียดก็พอ อีกอย่างพรุ่งนี้ต้องบินกลับกรุงเทพแล้ว มินนี่อยากกลับไปเตรียมตัวมากกว่า เพราะว่ามีงานตอนเย็นรออยู่ด้วย”
“ขยันขนาดนี้จะเอาเงินไปไว้ที่ไหนหมดเนี่ย”
“ต้องขยันสิ มีเงินไว้เยอะๆ ดีจะตาย ขนาดวินคาบช้อนเงินช้อนทองมาตั้งแต่เกิดยังทำงานหนักขนาดนี้เลย” มินตราพูดตามที่คิด เพราะขนาดเขาเกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวยเป็นเจ้าของธุรกิจสิ่งพิมพ์และการสื่อสารโทรคมนาคมมูลค่าหลายพันล้าน เขายังทำงานหนักรับงานถ่ายภาพทั้งในและต่างประเทศแทบไม่ได้พัก อนาวินหัวเราะเสียงดังทำให้เธอมองเขาอย่างสงสัยว่าเขาหัวเราะอะไร
“วินหัวเราะอะไรคะ”
“ผมขำมินนี่น่ะสิ ขนาดไปอยู่อเมริกาตั้งแต่เด็กยังใช้สำนวนแบบนี้เป็นด้วยเหรอ แต่เวลาที่ได้ยินมินนี่พูดว่าคาบช้อนเงินช้อนทองทำไมผมรู้สึกแปลกๆ คล้ายว่าภาพในหัวมันไม่ใช่คนก็ไม่รู้” มินตรานึกภาพตามเขาแล้วทั้งสองก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
“วินน่ะคิดอะไรก็ไม่รู้ มินนี่ไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย” มินตราบ่นอุบอิบและจังหวะนั้นเสียงข้อความจากไลน์ของเธอก็ดังขั้น เมื่อหยิบมาดูมินตราก็ต้องถอนหายใจเมื่อพบว่าคนส่งคือนายแบบลูกครึ่งคนหนึ่งที่ตามจีบเธอมาได้สักพักแล้ว แม้เธอจะบอกเขาไปแล้วว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขาและไม่ได้คิดจะมีแฟนตอนนี้ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ละความพยายามจนเธอรู้สึกเหนื่อยใจและท่าทางของเธอก็ไม่รอดพ้นสายตาคนขับรถกิตติมศักดิ์ไปได้
“ใครเหรอมินนี่”
“นายแบบที่มินนี่เคยร่วมงานด้วยน่ะค่ะ”
“ทำไม มันมาจีบมินนี่เหรอ”
“ใช่ค่ะ แต่มินนี่บอกไปแล้วนะคะว่ามินนี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขา แต่เขาก็ยังไม่หยุด ยังขยันส่งข้อความมาได้ทุกวัน บางทีก็ส่งดอกไม้มาให้ที่คอนโด”
“แล้วมันทำอะไรมินนี่มากกว่านี้หรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ”
“ไหนเอามาดูซิ” ยังไม่ทันที่เธอจะอนุญาต อนาวินก็ดึงโทรศัพท์ไปจากมือของเธอขณะที่รถจอดติดไฟแดง และเมื่อได้อ่านข้อความคิ้วเข้มบนใบหน้าหล่อเหลาก็ขมวดเข้าหากัน
“วินจะทำอะไรคะ” มินตรารีบถามอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าเขากำลังพิมพ์ข้อความตอบกลับแทนเธอ
“ผมก็จะจัดการไม่ให้มันมายุ่งกับมินนี่ได้อีกไง” หลังตอบเสร็จอนาวินก็ส่งคืนโทรศัพท์ให้เธอและยักคิ้วกวนๆ ให้หนึ่งที มินตรารับมาดูแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นข้อความที่เขาตอบนายแบบคนนั้น ‘อย่ามายุ่งกับผู้หญิงของผม…อนาวิน อัศวกุล’
“วิน ทำไมตอบไปแบบนั้นล่ะคะ”
“ทำไมล่ะมินนี่ มันจะได้ไม่กล้ามายุ่งกับคุณอีกไง”
“แต่ว่า…”
“ช่างมันเถอะน่ามินนี่ ถ้ามันยังไม่ยอมจบก็บอกผม เดี๋ยวผมจัดการเอง แค่นี้ก็ไม่ผ่านแล้ว ถ้ามินนี่จะมีแฟนต้องพามาแนะนำให้ผมรู้จักก่อนนะ ผมจะได้สแกนขั้นแรกว่าผ่านหรือเปล่า จะมาจีบเพื่อนรักผมทั้งทีมันต้องดูกันหน่อย แต่สำหรับไอ้หมอนี่ไม่ผ่าน” คำพูดของอนาวินทำให้มินตราพูดอะไรไม่ออก ตอนแรกเธอรู้สึกหัวใจพองโตกับประโยคที่เขาพิมพ์ตอบกลับคนในไลน์ แต่เมื่อได้ฟังประโยคต่อมาที่เป็นการตอกย้ำว่าเขาเห็นเธอเป็นเพียงเพื่อนเท่านั้นมันทำให้เธอพูดอะไรไม่ออกทำได้เพียงส่งยิ้มแกนๆ และนั่งเงียบมาจนกระทั่งถึงโรงแรมที่พัก อนาวินเดินมาส่งเธอถึงบ้านพักที่แบ่งเป็นหลังๆ เธอพักกับกุ้งนางและมด แต่ทั้งคู่ยังไม่กลับอนาวินจึงเดินมาส่งเธอถึงหน้าประตู
“ขอบใจนะวินที่มาส่ง”
“ไม่เป็นไร ลืมไปแล้วหรือไงว่าผมมีตำแหน่งองค์รักษ์พิทักษ์มินนี่มาตั้งแต่ที่อเมริกาแล้ว” มินตรายิ้มรับเพราะเขาทำหน้าที่ดูแลเธอมาตั้งแต่เจอกันครั้งแรกที่อเมริกา จนบิดาเลี้ยงของเธอแซวว่าเขาคือองค์รักษ์พิทักษ์มินนี่และเขาก็ดูจะภูมิใจกับตำแหน่งนั้นมาก จึงรับสมอ้างและทำหน้าที่นั้นได้ดีเสมอมา
“มินนี่เข้าบ้านเถอะ” อนาวินรอจนมินตราเดินเข้าบ้านพักเรียบร้อยจึงเดินกลับไปที่รถเพื่อกลับไปหานางแบบสาวคู่ควงคนล่าสุด มินตราแอบแง้มผ้าม่านมองตามร่างสูงใหญ่ที่เดินกลับไปที่รถด้วยความรู้สึกหลากหลาย แวบหนึ่งเธอนึกอิจฉาโรซี่ที่ได้ใกล้ชิดกับเขา เธอรู้ดีว่าในคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนั้น หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูอีกครั้ง ประโยคนั้นถูกจารึกไว้ในหัวใจเธออย่างง่ายดาย ‘อย่ามายุ่งกับผู้หญิงของผม’ เธอรู้ว่าเขาทำเพื่อต้องการปกป้องเธอเท่านั้นและประโยคนั้นมันไม่มีวันเกิดขึ้นจริง ไม่มีวันเลย….