หัวใจในมือเธอ

ภายในผับหรูแห่งเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เสียงดนตรีดังกระหึ่มเป็นจังหวะเร้าใจและแสงสีเสียงภายในผับสร้างความคึกคักให้นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี หนึ่งในนั้นคือกลุ่มของ อนาวินช่างภาพมือทองที่บรรดานิตยสารดังๆ ต้องการตัว นอกจากฝีมือการถ่ายภาพจะเป็นที่เลื่องลือแล้ว เขายังมีหน้าตาจัดได้ว่าหล่อเหลาจนดารานายแบบต้องอาย บวกกับคุณสมบัติที่เป็นถึงทายาทตระกูลดังที่ร่ำรวยมหาศาลทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากกว่าดารานายแบบบางคนซะอีก และแน่นอนว่าชื่อเสียงเรื่องความเจ้าชู้ของเขาก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทุกคนต่างรู้ดีว่าบรรดานางแบบที่ได้ร่วมงานกับเขานั้น มักจะไม่รอดพ้นได้ก้าวขึ้นเตียงกับช่างภาพหนุ่มหลังเสร็จสิ้นภารกิจและครั้งนี้ก็เช่นกัน ภาพชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนสวมหมวกสีดำกำลังยืนคลอเคลียกับนางแบบลูกครึ่งที่มาเป็นนางแบบในครั้งนี้ทำให้คนอื่นๆ หันไปมองหน้ากันยิ้มๆ อย่างรู้กันว่ารายนี้ก็ไม่รอดเสือร้ายไปอีกราย “คุณวินเนี่ยทั้งหล่อทั้งเก่งแถมยังรวยมากๆ แต่เสียอย่างเดียวเจ้าชู้บรรลัย พี่ล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าผู้หญิงแบบไหนที่จะมาหยุดคุณวินได้” กุ้งนางบรรณาธิการของนิตยสาร Secret หันไปคุยกับทีมงานที่กำลังนั่งดื่มและสนทนากันอย่างสนุกสนาน หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกับการท้าลมท้าแดดในการถ่ายแบบชุดว่ายน้ำในครั้งนี้ “ยากค่ะ สวยหยาดฟ้ามาดินก็โดนคุณวินสลัดทิ้งมาเยอะแยะ หนูว่านะพี่กุ้ง คุณวินจะหยุดก็ต่อเมื่อเขาอยากหยุดเอง หรือเพราะรักผู้หญิงคนนั้นมากๆ จนยอมหยุดทุกอย่างอยู่ที่เธอคนนั้น” มดทีมงานสาวคนหนึ่งออกความเห็น “ป่านนี้ผู้หญิงคนนั้นมาเกิดหรือยังก็ไม่รู้เนอะ” “นั่นน่ะสิคะ” “คุณมินนี่ นั่งเงียบเลยไม่สนุกเหรอคะ” กุ้งนางหันมาถามมินตราช่างแต่งหน้าสาวคนสวยที่คนในวงการรู้จักดี นอกจากฝีมือจะเนียบไม่มีที่ติจนบรรดาคนดังเซเลปต่างๆ ต่อคิวกันใช้บริการแล้วยังมีใบหน้าที่สวยและหุ่นชวนฝันที่สามารถเป็นนางแบบได้สบาย “มินนี่นั่งฟังพี่กุ้งกับน้องมดคุยกันก็พอแล้วค่ะ เดี๋ยวมินนี่ขอตัวไปห้องน้ำสักครู่นะคะ” มินตราตอบแล้วยิ้มน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่งเดินไปยังห้องน้ำ มดมองตามมินตราแล้วหันไปกระซิบกับกุ้งนาง “ว่าก็ว่าเถอะ หนูว่าคุณมินนี่เนี่ยน่าจะเป็นแฟนคุณวินเนอะ เหมาะกันมากหล่อสวยสมกัน อีกคนเป็นช่างภาพมือทองอีกคนก็เป็นช่างแต่งหน้ามือโปร เสียดายที่เป็นแค่เพื่อนกัน” “พี่ก็เคยคิดเหมือนมด พูดแล้วเสียดายเขาเหมาะกันมากจริงๆ แต่คุณมินนี่กับคุณวินเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน ได้ยินมาว่ารู้จักกันตั้งแต่คุณวินไปเรียนต่ออเมริกา” กุ้งนางตอบเพราะเธอเองก็เคยคิดไม่ต่างจากมดเช่นกัน แม้แต่ตอนนี้ก็ยังแอบลุ้นให้สองคนนี้เป็นแฟนกัน แต่ดูจะเป็นความหวังที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย เพราะทั้งสองคนแสดงออกชัดเจนว่าเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น และมินตราเองก็เป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ใกล้ชิดอนาวินโดยไม่มีเรื่องความสัมพันธ์ชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง มดมองซ้ายมองขวาแล้วขยับเข้ามาใกล้กุ้งนางพร้อมกระซิบกระซาบแบบเกรงว่าคนอื่นจะได้ยิน “ว่าก็ว่าเถอะ มดล่ะไม่ถูกชะตายัยโรซี่นี่เลยพี่กุ้ง ดีนะที่มาถ่ายกันแค่สามวัน แค่นี้มดก็อกจะแตกตายแล้ว ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้เรื่องมาก ขี้วีนขี้เหวี่ยง แต่ดูเวลาหล่อนพูดกับคุณวินสิ วินคะ วินขา ออดอ้อนออเซาะน่าหมั่นไส้” “แล้วคุณน้องเคยเห็นชะนีนางไหนอยู่ใกล้คุณวินแล้วไม่มีมารยาเหรอคะ” “นั่นสิคะ อ้อ มีคุณมินนี่คนเดียว” “นั่นน่ะข้อยกเว้นอยู่แล้วล่ะจ้ะ เพราะคุณมินนี่กับคุณวินเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน” มินตราเดินมาเข้าห้องน้ำแต่หางตาเธอยังแอบเห็นว่าอนาวินและโรซี่นางแบบสาวที่มาเป็นแบบให้กับชุดว่ายน้ำของนิตยสาร Secret กำลังนัวเนียกันอยู่ มินตราเร่งฝีเท้าออกไปจากตรงนั้นและเมื่อมาถึงห้องน้ำเธอก็พุ่งเข้าไปยังห้องที่ว่างแล้วกดล็อกประตูทันที หญิงสาวเอนหลังพิงประตูพร้อมกับเงยหน้าขึ้นกะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยาดน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาให้กลับคืนลงไป แม้เธอจะพบเจอเหตุการณ์เหล่านี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ยังทำใจให้ชินไม่ได้ เธอยังเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นเขาใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่น มินตรารู้สึกขอบคุณตัวเองที่เป็นคนเก็บความรู้สึกเก่งและไม่เคยเปิดเผยความรู้สึกที่ถูกกดไว้ลึกที่สุดของหัวใจออกไปให้ใครรู้ สาเหตุก็เพราะว่าเธอกลัวว่าจะต้องสูญเสียเขาไป เขาผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่เธอรัก มินตรานึกย้อนไปถึงครั้งแรกที่ได้รู้จักกับอนาวิน ในตอนนั้นเธอเพิ่งย้ายตามมารดาที่แต่งงานใหม่กับสามีชาวอเมริกันหลังจากบิดาเสียชีวิตไปหลายปี เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ชาวเอเชียที่พูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้ ไม่รู้จักใครแถมยังต้องไปเจอกับวัฒนธรรมที่ต่างจากเดิมทำให้เธอกลายเป็นเด็กเก็บกดและมักจะแอบไปอยู่คนเดียวเงียบๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอถูกเด็กหนุ่มชาวอเมริกันรังแกและเขาคือคนที่เข้ามาช่วยเธอเอาไว้ อนาวินก็มีชีวิตไม่ต่างจากลูกเศรษฐีของเมืองไทยที่พ่อแม่มักส่งให้ไปเรียนต่างประเทศ เขาเป็นเด็กเรียนดีจนได้รับทุนของมหาวิทยาลัยแถมยังเป็นนักกีฬาของโรงเรียน เมื่อเขาประกาศตนว่าเป็นเพื่อนกับเธอพาเธอเข้าแก๊งจึงไม่มีใครกล้ารังแกเธออีก เขาช่วยเธอเอาไว้หลายอย่างทั้งสอนภาษา สอนการใช้ชีวิต พาเธอไปใช้ชีวิตหลังเลิกเรียนทำให้เธอเริ่มมีสังคมมีเพื่อน เมื่อภาษาอังกฤษของเธอเริ่มดีขึ้นทำให้ความกดดันต่างๆ ค่อยๆ น้อยลงเธอจึงเริ่มสนุกกับการใช้ชีวิตมากขึ้น มารดากับพ่อเลี้ยงชาวอเมริกันเองก็ขอบคุณเขาอยู่บ่อยๆ ที่ทำให้เธอเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น อนาวินมักไปมาหาสู่กับที่บ้านของเธอเป็นประจำเพราะติดใจฝีมือการทำอาหารของมารดาเธอ จนในที่สุดเขาก็กลายเป็นลูกชายคนโปรดของมารดาเธอและพ่อเลี้ยง เมื่อบิดามารดาของเขาบินมาเยี่ยมทั้งสองครอบครัวก็มีโอกาสได้เจอกัน เธอพบว่าครอบครัวของเขานั้นน่ารักและอัธยาศัยดีไม่ได้เจ้ายศเจ้าอย่างอย่างที่นึกกลัว มารดาของเขานั้นยังให้ความเอ็นดูและสนิทสนมกับเธอมาก จนกระทั่งเธอและเขาต่างเรียนจบและเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง เขาเอาดีทางด้านถ่ายภาพที่ชื่นชอบเป็นทุนเดิมและเลือกเรียนทางด้านนี้โดยตรง ในขณะที่เธอมีความถนัดด้านการแต่งหน้าจึงเลือกเรียนตามความชอบเช่นกัน เมื่อเรียนจบก็ถึงเวลาที่เธอต้องตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งนั่นคือการเลือกที่จะกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทย ทั้งที่มารดาและพ่อเลี้ยงอยากให้อยู่ด้วยกันที่อเมริกา เธอให้เหตุผลกับท่านทั้งสองว่าเป็นห่วงคุณยายอยากกลับมาดูแลท่านและคิดถึงเมืองไทย เธอขอเวลามารดาสองปีหากว่าไม่สามารถมีอาชีพที่มั่นคงและทำรายได้ให้อย่างดีก็จะกลับไปอยู่กับท่าน แต่เธอเองที่รู้ดีว่าเหตุผลอีกอย่างที่ทำให้เธอตัดสินใจกลับมาเมืองไทยก็เพราะเขา เธอตัดสินใจตามหัวใจของเธอกลับมา เธอไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกที่มีต่อเขามันถลำลึกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีเขาก็กลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างแบบที่เธอไม่อาจถอนตัวถอนใจกลับคืนมาได้แล้ว เธอตั้งใจว่าหากผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เขา เธอก็คงไม่สามารถทำใจตกลงปลงใจกับผู้ชายคนไหนได้ ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าไม่มีใครมาจีบ ตรงกันข้ามด้วยงานของเธอที่ต้องพบเจอผู้คนมากมายทั้งในวงการบันเทิงและนักธุรกิจผู้มีฐานะร่ำรวย แต่ไม่เคยมีใครฝ่าด่านหัวใจอันหนาแน่นเข้ามาได้เลย จนบางคนที่เคยเข้ามาจีบตอนนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันไปแล้ว มินตราออกจากห้องน้ำและมองภาพตัวเองที่สะท้อนออกมาจากกระจก ผู้หญิงหน้าตาสะสวยมีสัดส่วนของใบหน้ารับกันอย่างดี เธอเคยถูกชักชวนให้เข้าวงการหลายครั้ง แต่เธอปฏิเสธเพราะไม่ถนัดและชอบการแต่งหน้ามากกว่า มินตราคิดว่าเธอตัดสินใจถูกที่กลับมา เพราะด้วยสายงานของเธอและอนาวินทำให้เธอได้ร่วมงานกับเขาบ่อยๆ แต่นั่นก็ต้องแลกมากับความเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นเขาสานสัมพันธ์ตกับบรรดานางแบบหรือดาราที่ได้ร่วมงานกัน แม้จะเป็นภาพที่เธอเห็นจนชินชาเพราะตอนอยู่อเมริกาเขาก็เป็นสายปาร์ตี้และฮ็อตในหมู่สาวๆ ไม่ต่างจากตอนนี้ เธอขอบคุณตัวเองหลายๆ ครั้งที่วางตัวเองไว้ในฐานะเพื่อนสนิทของเขา เพราะมันทำให้เธอได้ใกล้ชิดกับเขาเนื่องจากผู้หญิงที่รายล้อมเขานั้นมักจะไม่พ้นความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาว เธอเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ข้างกายเขาในฐานะคนที่เขาไว้ใจและพูดคุยได้ทุกเรื่องและเธอเองก็พอใจที่จะอยู่แบบนี้ เธอยอมรับว่าไม่เคยมีความคิดที่จะบอกความรู้สึกตัวเองให้เขาได้รับรู้เลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเธอกลัวว่าจะต้องสูญเสียเขาไปตลอดกาล ถ้าเป็นแบบนั้นเธอคงทนไม่ได้ เธอยินดีที่จะอยู่แบบนี้แม้จะต้องเสียใจแต่เธอก็มีความสุข แค่ได้เห็นเขาเจริญเติบโตในหน้าที่การงาน ได้เห็นเขามีชีวิตที่ดีเธอก็พอใจแล้ว