บทที่4. เช็กของ[ข้อตกลง?]

888 คำ
วันต่อมา "อะไรนะ? เป็นเด็กพวกคุณ" มิเกล ถามเสียงตกใจ หลังจากสองหนุ่มเรียกพบ เซทตอบกลับ "ทำไม..ก็เธอมายืมเงินพวกฉัน ดอกเบี้ยก็ไม่จ่าย แล้วชาติไหนจะได้เงินครบ" "ก็ฉันบอกพวกคุณไปแล้วแค่ความบริสุทธิ์ไม่พอหรือไง" "ไม่พอ! เงินเป็นล้าน ฉันจะหาผู้หญิงบริสุทธิ์ได้กี่สิบคน คิดว่าตัวเองสวยขนาดนั้นเชียว" ตัวเล็กกำหมัดไม่อยากโต้เถียง เรย์ที่นั่งฟังมองสถานการณ์รีบพูดแทรก "เงินแต่ละบาทรู้ไหมว่าพวกฉันหามาอย่างลำบาก มือเปื้อนเลือดหนักขนาดไหน" "ไม่ต้องเดาก็พอจะดูออก พวกคุณคงไม่ได้มีธุรกิจส่วนตัวแค่ผับบาร์ที่นี่หรอก" "ฉลาดใช้ได้ แต่ตอนนี้พวกฉันยังหาวิธีตัดสินเรื่องเธอไม่ได้ ฉะนั้น รับรู้เอาไว้ว่าเธอเป็นเด็กของฉันกับไอ้เซท" "แล้วฉันมีทางเลือกด้วยหรือคะ" จริงอย่างที่พูด ตัวเล็กเดินออกจากห้องหลังจากพูดคุยธุระเสร็จ หลายวันผ่านไปมีรถเก๋งป้ายแดงพร้อมคนขับ อีกทั้งข้าวของเครื่องใช้ที่ราคาแพงหรูหราจนนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันมองตาลุกวาว "กระเป๋าใบนี้มีขายแต่ช็อปปารีส เธอไปเมืองนอกตอนไหน" เสียงเพื่อนร่วมห้องเดินมาล้อม มิเกล เอาไว้ "หรือไปช่วงเสาร์อาทิตย์ รวยเวอร์" "มะ ไม่ใช่แบบนั้นหรอก" "อยากได้บ้าง แต่พ่อบอกภาษีนำเข้ามันแพง เลยอดได้กระเป๋าใบนี้เลยอิจฉาจัง" "เธออยากได้มากเหรอ" "แน่นอนสิ! ทั้งดีทั้งแพง" ผับ V กัสซ่า "อะไรนะขายต่อ?!!" สองหนุ่มประสานเสียง "ก็ฉันเห็นว่ามันราคาแพงไม่เหมาะจะถือ ก็เลยขายต่อเพื่อนร่วมห้องไปแล้ว" "เธอบ้าหรือเปล่าเนี่ย" "คือว่าฉัน.." "เด็กบ้าเอ๊ย! รู้ไหมว่าฉันใช้เวลาเท่าไหร่กว่าจะได้กระเป๋าแบรนด์นี้จากปารีส" เซทเริ่มหงุดหงิดบ่นอุบอิบ เรย์ยกเหล้าวอดก้าสุดโปรดอย่างไม่ยั้ง ก่อนจะจ้องหน้า "ซนจริงนะสาวน้อย" เรย์พูดพลางกระตุกยิ้ม "ฉันขอโทษค่ะ หากพวกคุณต้องการกระเป๋าคืน หรือต้องการเงินที่ขายฉันยินดีโอนให้ยังไม่ได้ใช้สักบาทเดียว" "เรื่องเงินมันไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับพวกฉันเธอก็รู้อยู่แล้วนี่" "แล้วพวกคุณจะโมโหทำไม" "ความหยิ่งยโสของเธอต่างหากที่มันน่าหงุดหงิด หึ" มิเกล ยืนนิ่งคาดเดาสถานการณ์ไม่ออก บางทีก็ดูเหมือนพวกเขาจะใจดี บางครั้งก็ดูเหมือนพวกเขามีแผนการอะไรในใจ "อ๋อออ อีกเรื่อง" เซทพูด "ระหว่างเรา ต้องเก็บไว้เป็นความลับ ฉันขี้เกียจตอบคำถามพ่อ" "ฉันเองก็ไม่อยากถูกมองไม่ดีเหมือนกัน" "บทจะว่านอนสอนง่ายก็ง่ายเสียจริง" "พวกคุณไปหาหมอบ้างนะคะ เหมือนจะเป็นไบโพล่าร์ เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้ายอยู่เนี่ยแหละ" "โอเค ปากแจ๋วไม่เปลี่ยน" เรย์วางแก้วเหล้าลง เขาถอดสูทสีดำวางพาดที่พิงโซฟาขนมิ้งสีน้ำตาล ใบหน้าหล่อเหลาร้ายกาจลุกจากที่นั่งเดินไปยังเบื้องหน้าของตัวเล็ก "เรามาพูดถึงเรื่องที่เธอต้องชดใช้กันดีกว่า" มิเกลทำท่าทางตกใจเล็กน้อย "ไหนบอกว่าพวกคุณยังตัดสินใจกันไม่ได้..ละ แล้วจะทำยังไงคะ" "นั่นสิ..ทำยังไงดี" "เราเลื่อนเวลาออกไปจนกว่าพวกคุณจะหาผู้ชนะในเดิมพันนี้เจอดีไหมคะ" เป็นคำพูดที่โน้มน้าวเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น เซทมองเห็นความเฉลียวฉลาดจนทำให้เขาอดอมยิ้มไม่ได้ ทั้งคู่กำลังตื่นเต้นเหมือนเจอเหยื่อรายใหม่ "ถ้ามันตัดสินกันยากงั้นก็..พร้อมกันไปเลยเป็นไง หึ" คำพูดของเซทยิ่งตอกย้ำความกลัวภายในใจ มิเกลถอยห่างมือจับประสานกันไว้ "มะ หมายความว่ายังไงคะ" เสียงสะอึกของตัวเล็กถามไถ่ "พวกคุณคงไม่..." รอยยิ้มแสดงเจตจำนง แค่คนเดียวก็ทำให้ตื่นเต้นพะวง แต่ครั้งแรกของเธอ ใครจะไปคิดว่าต้องถูกล่วงเกินแบบดับเบิ้ล "เราไม่ได้ตกลงกันไว้แบบนี้นะคะ!" ตัวเล็กโต้เถียง เรย์ที่ยืนใกล้เอื้อมมือสัมผัสปอยผมยาวพร้อมคำพูดเยือกเย็น "ยังไม่ทันได้ลองเธอรู้ได้ไงว่าจะไม่มันส์" "พวกคุณบ้าไปแล้ว ฉันไม่เอาด้วยหรอก" "ถ้างั้นก็คืนเงินมาสิให้ครบทุกบาท แต่ถ้าเธอบอกว่านำไปใช้ผ่าตัดสมองของพ่อ ถ้าอย่างนั้น..พวกฉันไปตามทวงคืนดีไหม" "ยังไงคะ" เรย์หันกลับมามองหน้าเพื่อน พวกเขาสบตากันราวกับรู้งาน "ก็แค่ให้หมอควักสมองพ่อเธอออก เท่านี้ก็ถือว่าชดใช้แล้ว" "บ้าไปแล้วหรือไง ฮึกกก" มิเกลยังคงไม่ยอมแพ้ เธอน้ำตาคลอเมื่อนึกถึงผู้เป็นพ่อที่มีอาการเป็นตายเท่ากันนอนเป็นผักแช่อยู่โรงพยาบาล สองมาเฟียหนุ่มเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้า ซิกซ์แพกเป็นลอนพรีเมียมสะท้อนแสงไฟสะดุดตา เซทถอนหายใจออกคำสั่ง "แก้ผ้าสิ..ขอเช็กของเธอหน่อยว่าคุ้มกับเงินที่เสียไปหรือเปล่า"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม