Ep 10. ไม่รู้อยู่คนเดียว

1014 คำ
10. ไม่รู้อยู่คนเดียว "มากันแล้วหรือลูก ไม่เจอตั้งนานหนูวิ้งค์ยิ่งไปมหาลัยนึกว่าลืมย่าแล้ว" คุณย่าของสกายตัดพ้อฉันขณะที่ฉันกอดท่านอยู่ มือท่านก็ลูบหัวฉันเบา ๆ แบบที่ชอบทำเสมอตั้งแต่ตอนฉันเด็ก ๆ "หนูขอโทษนะคะคุณย่าเดี๋ยวต่อไปจะแวะมาหาบ่อย ๆ หนูสัญญา" แม่บ้านมารับถุงขนมของฝากไปเพื่อจัดใส่จานให้คุณย่า วันนี้พ่อแม่พี่สกายอยู่เมืองนอกเหมือนเคย "หรือว่าวันนี้คุณย่าไปทานมื้อเย็นบ้านหนูดีไหมคะพ่อแม่หนูก็ไม่อยู่" ฉันกลัวว่าคุณย่าจะเหงา เลยชวนท่านไปบ้านฉันดีกว่าแม้ว่าปกติ คุณย่ากับคุณยายฉันก็เจอกันทุกวัน ท่านชอบไปนั่งดื่มชากันในสวน ถ้าอากาศร้อนก็ดื่มที่เรือนกระจกใกล้บ่อปลาคราฟมีแอร์พร้อม บางทีก็พากันไปวัดทำบุญบ้าง โดยมีคนขับรถกับแม่บ้านติดตามไปด้วย "วันนี้ดีจริง ๆ ไม่ครบก็เกือบครบโดยเฉพาะ 2 คนนี้นึกว่าจะไม่มองหน้าเสียแล้ว" คุณยายของฉันพูดตอนอยู่บนโต๊ะอาหารเย็น ทุกคนก็ขำกัน คิคะคิคะ เก้าอี้ยังคงเป็นตำแหน่งเดิมมาเสมอของฉันกับเขาตั้งแต่เด็กไม่เคยมีคนในบ้านนั่งผิดเลย ทุกคนเว้นว่างสำหรับ "เรา" เสมอ เป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่มีความหมายมากมายเหลือเกิน ถ้าวันนี้เขาไม่ได้อยู่ตรงนี้ข้าง ๆ ฉันจะเป็นยังไงน๊า สรุปว่าพ่อกับแม่ฉันเลื่อนการเดินทางกะทันหันเพราะลูกค้าเกิดเจ็บป่วยจนเข้าโรงพยาบาลทำให้ไม่สามารถคุยเรื่องงานได้ พวกท่านกลับมาหลังจากที่ฉันไปเดินไปบ้านพี่สกายไม่นาน "กินได้แล้วยายบื้อมองอะไร" เขาพูดแทบจะกระซิบเรียกสติฉัน "เดี๋ยวทานเสร็จอยู่คุยเล่นกันก่อนนะครับคุณย่า" พ่อของฉันบอกคุณย่าของเขา "ได้สิ...ย่าก็มีเรื่องจะคุยกับเด็ก ๆ ด้วย" ยิ้มอ่อน ตอนนี้ในห้องนั่งเล่นมีเจ้าแมว 2 ตัวที่ฉันอุ้มมาจากบ้านคุณย่า นอนอ้วนกลิ้งไปมาอย่างมีความสุข ตะโก้กับข้าวเหนียวชื่อของพวกมันเรียกทีฉันหิวขนมเลย "พ่อแม่ของตาสกายกว่าจะมาเจอกันครบ ๆ ยากเหลือเกิน ย่าเลยขอเป็นตัวแทนของบ้านเรานะจ๊ะ คือ ย่าอยากให้หมั้นกันเลยแต่งตอนเรียนจบทันทีก็ได้แล้วจะเรียนต่อก็ค่อยเรียน" "คะ...คุณย่าหมายถึงใครคะ" ฉันตกใจมากถึงถามออกไปแบบนั้น ไม่สิทุกคนเลยทุกคนไม่มีใครตกใจมีแค่ฉันที่เสียงดังอยู่คนเดียว คุณยายฉันหัวเราะต่อกระซิก กับ คุณแม่ คุณพ่อยิ้มเบา ๆ อะไรเนี้ยะ "หมายถึงเธอกับฉันไง" เสียงพี่สกายตอบแบบนิ่งเรียบ "ก็ตาสกายมาขอว่าจะไปดูแลหนูตั้งแต่เขาติดมหาลัยเดียวกับหนูแล้วแม่นึกว่าสกายบอกน้องแล้วซะอีก" คุณแม่ฉันเป็นคนพูด ไม่งั้นฉันคงคิดว่าเรื่องล้อเล่นแน่ ๆ ก่อนหันไปมองเขา เขายังนิ่งอยู่ไม่มีอาการใด ๆ เหมือนทุกครั้งที่อยู่กับคนอื่น ตั้งแต่เด็กยันโตไอ้คนเจ้าเล่ห์ ไอ้คนเอาแต่ใจ ไอ้คนบ้า "หมายความว่าทุกคนรู้เรื่องหนูกับเขามาตลอดหรือคะ มีแค่หนูที่ไม่รู้อยู่คนเดียว?" ฉันถามเสียงสั่นทุกคนพยักหน้า รวมทั้งแม่บ้านประจำตัวคุณย่าที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยก่อนจะตั้งสติได้ เขายื่นกล่องกำมะหยี่สีดำเล็ก ๆ มาให้ฉัน ฉันรับมาแล้วเปิดมันออก ภาพตรงหน้าคือ แหวนเพชรเม็ดใหญ่มากเว่อร์ใหญ่แบบชาตินี้ฉันไม่เคยกล้าฝันถึง "หมั้นกับพี่นะ...ยังไม่ต้องจัดงานก็ได้แค่รับมันไว้นะครับ" ตาย ๆ ฉันฝันอยู่รึเปล่าว่ะวิ้งค์ เป็นคำถามที่ถามตัวเองเขานี่นะที่จะมาทำอะไรแบบนี้ น้ำตามันไหลอัตโนมัติเลยอ่ะ ไหลแบบเขื่อนแตกภาพตอนเด็ก ๆ เข้ามาในหัวมากมาย ตอนที่เขาไม่พูดกับฉัน เมินฉัน โกรธฉัน ฉันคิดเสมอว่าสักวันเขาก็จะเบื่อฉัน ทิ้งฉันไปและเป็นฉันฝ่ายเดียวที่แอบรักเขา "พี่สวมแหวนได้หรือยัง...ยายบื้อ" เขาโน้มตัวมากระซิบข้าง ๆ หูฉัน พยักหน้าสิคะรออะไรล่ะยื่นมือซ้ายออกไปให้แบบพร้อมมาก เพชรเม็ดใหญ่ขนาดนี้นิ้วหักก็ยอม "ผมว่าเดี๋ยวอาจจะไปดูแหวนวงเล็ก ๆ มาให้ใส่แทนนะครับ เวลาไปเรียนจะได้ไม่สะดุดตาคนอื่นดูไม่เหมาะเท่าไหร่ถ้าใส่วงนี้" เขาพูดกับทุกคนในห้อง มือข้างหนึ่งยังจับมือของฉันไว้ น้ำหนักมือที่ค่อย ๆ บีบฝ่ามือฉัน บ่งบอกว่าทุกคำที่เขาพูดทุกการกระทำ เขาจริงจังกับฉันมากแค่ไหน รักเขาอ่ะอิวิ้งค์เอ้ย รักเขาหัวเราะในใจอย่างกับคนบ้า "งั้นเดี๋ยวผมพาน้องกลับเลยดีกว่าครับ นึกได้ว่าน้องตื่นเช้ามากวันนี้ พรุ่งนี้ต้องไปธุระด้วยไม่นอนบ้านนะครับกลับคอนโดจะสะดวกกว่าครับ" เสียงกับลุคที่น่าเชื่อถือที่ทุกคนยอมรับ...แต่!!!! "อืออออออ เอ่ะ พะพี่ เดี๋ยวก่อน...ขออาบน้ำก่อนออกไปทั้งวันเหนียวตัวมาก" จะกลับมากินฉันอ่ะสิไอ้ธุระอะไรนั่นมีที่ไหนกันทำเป็นเนียนดีที่ฉันรับมุกทันไม่พูดปฏิเสธออกไป สภาพตอนนี้เสื้อผ้าฉันกองอยู่หน้าประตูโน้นนนนน ลากมาจนถึงห้องนอนก็เหลือแค่แพนตี้ตัวเดียว "ได้...พี่อาบให้เดี๋ยวแหวนบาดผิวเวลาถูสบู่ พี่จะถูให้เอง"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม