แค่เห็นนางเจ็บเขาก็ปวดใจ

1176 คำ
เพียงไม่นานทหารก็นำน้ำร้อนกับยากลับมาให้ฝูเหิงที่หน้ากระโจม หากไม่มีคำสั่งจะมีผู้ใดที่กล้าเข้ามา อีกอย่างในกระโจมยังมีสตรีที่งดงามอยู่ด้วยอีกนาง “ข้าจัดการเอง” เจินเหยาดึงเท้ากลับ เมื่อฝูเหิงจะล้างเท้าให้นางเพื่อจะทายา “อยู่นิ่งๆ” เขาไม่ยอมให้นางได้จัดการด้วยตนเอง ฝูเหิงใช้ผ้าชุบน้ำอุ่น แล้วเช็ดเท้าให้นางอย่างเบามือ ต่อให้เบาเพียงใด เจินเหยานางก็เผลอสูดปากออกมาจากความเจ็บแสบเมื่อน้ำโดนแผล “เจ็บมากเลยหรือ” ฝูเหิงมองที่เท้าของนาง ที่บวมแดงราวจะปริแตกออก “ข้ากลับได้หรือยัง” เมื่อฝูเหิงล้างเท้าพร้อมทั้งทายาจนเสร็จ เจินเหยานางก็เอ่ยถามเขาทันที “เจ้าจะเดินกลับไปอย่างไร” “แล้วท่านจะให้ข้านอนที่นี่รึ” นางเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “ใช่” “ไม่ได้ บิดามารดาข้าจะเป็นห่วง” “ข้าจะให้ทหารไปรับท่านอาจารย์กับอาจารย์หญิงมาพักในค่าย” “ไม่ต้อง” เจินเหยานางไม่อยากอยู่ใกล้เขา ตอนที่เขาดีก็ดีเสียจนนางแปลกใจ หากร้ายขึ้นมานางไม่รู้ว่าเขาจะจัดการครอบครัวนางเช่นไร “เจ้าอยู่ที่บ้านดินเช่นนั้นได้หรือ” “ข้าก็อยู่มาแล้ว” “เหอะ มิกลัวว่าชาวบ้านจะฉุดเจ้าไปทำมิดีมิร้ายหรืออย่างไร” เขาปรายตามองเจินเหยาอย่างไม่พอใจ เมื่อนางไม่ยอมฟังเขา “อาเหิง ข้าต้องกลับแล้ว มิเช่นนั้นบิดามารดาจะกังวลได้” นางเอ่ยขอร้องเขา “เจ้าไม่อยากอยู่กับข้ามากเพียงนี้เลยหรือ” เขามองนางอย่างปวดใจ “ข้าอยากกลับไปหาท่านพ่อท่านแม่” เจินเหยาเอ่ยอย่างไม่ยอม ก่อนที่ฝูเหิงจะเอ่ยพูดกับเจินเหยา เสียงความวุ่นวายของนอกก็ดังขึ้น ฝูเหิงเดินออกไปเพื่อดูเหตุการณ์ด้านนอก แต่ทหารหน้ากระโจมกลับร้องตะโกนบอกเขาเสียก่อน “ท่านรองแม่ทัพ แคว้นเว่ยบุกอีกแล้วขอรับ” ฝูเหิงเข้ามาหยิบกระบี่ เพื่อเดินออกไปเข้าสนามรบ แต่เหมือนนึกอะไรได้จึงได้เดินกลับมาหาเจินเหยา “เหยาเหยา เจ้าอย่าได้ออกไปนอกกระโจมเด็ดขาด ข้าจะทิ้งคนไว้อยู่กับเจ้า” เขาลูบใบหน้าของนางอย่างอาลัยอาวรณ์ เจินเหยาเบี่ยงตัวหลบ นางไม่ได้รับปากเขาว่าจะรออยู่ในค่ายหรือไม่ เมื่อฝูเหิงเดินออกไปจากกระโจมแล้ว เจินเหยาสวมรองเท้าโดยไม่สนใจถุงเท้าที่ถูกโยนทิ้งไป นางจะออกไปดูหนิงเฉิง เพราะไม่รู้ว่าทางเขาเป็นเช่นไรบ้าง “แม่นาง รองแม่ทัพไม่ให้ท่านก้าวเท้าออกนอกกระโจมขอรับ” “หากข้าจะไป ใครจะห้ามได้” นางเอ่ยอย่างเย็นชา ก่อนจะเดินหลบไปอีกทาง แต่ทหารหน้ากระโจมสามนายที่ได้รับคำสั่งมาจากนายก็ขวางทางไม่ยอมให้นางเดินหนีไปทางไหนได้ “ข้าจะไปดูพี่ชาย” นางเอ่ยขึ้นอย่างหมดความอดทน ทหารรีบก้มหน้าหลบสายตา ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง แม้แต่ใบหน้ายามที่เคืองโกรธยังน่ามองเช่นนี้ พวกเขาต่างไม่แปลกใจที่รองแม่ทัพ จะทำผิดกฎซ่อนสตรีไว้ในกระโจมเช่นนี้ เจินเหยานางเดินกลับเข้ามานั่งภายในกระโจม ในตอนนี้นางไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกเดินหรือทำสิ่งใดแล้ว นอกจากบาดแผลที่ฝ่าเท้า ท้องของนางก็เริ่มส่งเสียงร้องเพราะความหิว ภายในค่ายผู้อพยพนางได้กินเพียงข้าวต้มที่มีเม็ดข้าวนับจำนวนได้ ส่วนมากที่ลงท้องไปก็เป็นน้ำข้าวเสียมากกว่า เจินเหยานางคิดจะเดินไปนอนพักที่เตียงของฝูเหิง แต่ทหารด้านนอกกลับยกอาหารเข้ามาให้นางก่อน “แม่นาง รองแม่ทัพสั่งให้ท่านกินข้าวแล้วนอนพัก เมื่อท่านรองแม่ทัพกลับมาจะไปส่งท่านกลับค่ายผู้อพยพ แต่หากท่านไม่ทำตามที่รองแม่ทัพสั่งไว้ ท่านจะไม่ได้กลับไปขอรับ” “หึ” เจินเหยาพ่นลมออกทางจมูก ฝูเหิงเขาก็ยังคงเหมือนเดิมที่มักจะสั่งให้นางทำตามใจเขาทุกที เจินเหยาไม่ได้ดื้อรั้นที่จะไม่ยอมกิน เพราะนางหิวจนแสบท้อง อาหารที่ถูกยกเข้ามาแม้รสชาติจะไม่ได้เรื่อง แต่นางก็กินเสียพร่องไปกว่าครึ่ง ทหารด้านนอกเข้ามาเก็บสำรับอาหารกลับไป ก่อนจะยกน้ำเข้ามาให้นางล้างหน้าล้างตา แล้วบอกให้นางเดินเข้าไปพักผ่อนข้างใน เจินเหยานางจะไม่ทำตามก็ไม่ได้ เพราะเขายังเฝ้านางอยู่ด้านใน เมื่อเห็นนางนอนพักลงแล้ว เขาก็ออกไปประจำอยู่ด้านนอกเช่นเดิม เจินเหยาเมื่อหัวถึงหมอนนางก็หลับไปในแทบจะทันที ฝูเหิงเขารีบบุกไล่สังหารทหารแคว้นเว่ยที่บุกเข้ามาในยามนี้ ใจหนึ่งก็กลัวว่าคนที่อยู่ในกระโจมจะหนีหายไปเสียก่อน ข้าศึกที่บุกเข้ามาใกล้ม้าของฝูเหิงกับตงหยางไม่มีผู้ใดที่รอดชีวิตกลับไปได้ เหมือนเลือดจะขึ้นหน้ายิ่งอยากให้ศึกในยามนี้จบลงเร็วที่สุด สองพี่น้องต่างพุ่งเข้าสังหารโดยไม่ห่วงชีวิตของตน ทหารแคว้นฉีเห็นแม่ทัพกับรองแม่ทัพของตนบุกอย่างไม่คิดชีวิตก็ฮึดสู้เช่นกัน แต่บางคนก็อดจะหวาดกลัวแทนแคว้นฉีไม่ได้ที่รองแม่ทัพกับท่านแม่ทัพบ้าเลือดเช่นนี้ ศึกครั้งนี้จบลงเร็วที่สุดตั้งแต่ทหารแคว้นเว่ยบุกเข้ามา เพราะฝูเหิงตัดศีรษะของรองแม่ทัพแคว้นเว่ยลงได้ ทำให้กองทัพแคว้นเว่ยจำต้องล่าถอยออกไป ฝูเหิงกับตงหยาง เมื่อเห็นกองทัพแคว้นเว่ยหนีกลับไปที่ค่ายของพวกมันแล้ว สองพี่น้องก็สั่งถอยทัพ แล้วรีบควบม้ากลับไปที่ค่ายของตนทันที “นางยังอยู่หรือไม่” สิ่งแรกที่เขามาถึงค่ายฝูเหิงก็ร้องถามทหารหน้ากระโจมทันที “อยู่ขอรับ” ฝูเหิงกระโดดลงจากหลังม้า เมื่อก้มลงมองสภาพของตนเองที่ทั้งเนื้อตัวมีแต่คราบเลือด เขาก็หันหลังเปลี่ยนทิศทางไปที่ริมแม่น้ำ เพื่อชำระร่างกายเสียก่อน เพราะเขาไม่อยากให้เจินเหยานางเห็นเขาในสภาพนี้ แต่เมื่อไปถึงที่ริมแม่น้ำก็พบว่าพี่ชายของตนกำลังล้างตัวอยู่เช่นกัน “ท่านก็มาล้างตัวด้วยหรือ” เขาเอ่ยถามพี่ชายอย่างสงสัย “เรื่องของข้า” ตงหยางเมื่อดมกลิ่นคาวเลือดที่ร่างกายพบว่าจางลงแล้วก็ขึ้นจากน้ำทันที โดยไม่สนใจน้องชายอีก ฝูเหิงก็เร่งมือขัดถูตัว ก่อนที่จะขึ้นจากน้ำ แล้วกลับไปที่กระโจม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม