จะเป็นนางได้อย่างไร

1239 คำ
เช้าวันต่อมา เท้าของเหยาเหยาไม่ได้ดีขึ้น กลับบวมแดงมากกว่าเดิม จนนางไม่อาจลุกขึ้นเดินออกไปจากบ้านดินได้ เสี่ยวผิงก็ยังคงไปช่วยทำอาหาร เพื่อนำบางส่วนกลับมาให้เจ้านายทุกคนได้กิน “เหยาเหยา เจ้าเป็นเช่นใดบ้าง” หนิงเฉิงร้องถามน้องสาวอยู่ที่หน้าบ้านดินด้านนอก “ข้าไม่เป็นอันใดเจ้าค่ะ” นางสวมถุงเท้า เพื่อไม่อยากให้พี่ชายนึกเป็นห่วง “เช่นนั้น เจ้าไปดูท่านแม่เสียหน่อย นางเหมือนจะมีไข้” เหยาเหยารีบลุกขึ้นเดินไปบ้านดินของมารดา แม้การเดินของนางจะยากลำบาก แต่ก็ต้องแข็งใจเดินไปดูปกติที่สุด “ท่านแม่ ท่านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” เมื่อวานตอนที่มาถึงนางจับชีพจรไปแล้วก็เห็นว่าเพียงอ่อนเพลียเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าเช้าวันนี้มารดาของนางจะมีไข้สูงไปได้ “ข้าจะลองไปถามว่าพอมียาหรือไม่เจ้าค่ะ” เหยาเหยานางลุกขึ้นออกไปด้านนอก เสี่ยวผิงช่วยประคองคุณหนูของตนไปที่ด้านหน้า เพื่อถามทหารว่ามียาลกไข้หรือไม่ แต่เดินอยู่นานก็ไม่เห็นว่าจะมีทหารให้ถามสักคน เหยาเหยาเหงื่อไหลซึมเพราะความเจ็บปวดฝ่าเท้า จนไม่อาจเดินต่อได้ นางจึงถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่สุด “ท่านป้า ท่านพอจะทราบไหมเจ้าคะว่าข้าจะไปหายาได้จากที่ใด” “เจ้าต้องไปถามที่ค่ายทหารแล้วนังหนู เมื่อเช้ามีหมอมาตรวจดู แต่ไม่นานก็รีบร้อนกลับไป แคว้นเว่ยเริ่มบุกอีกแล้ว” นางส่ายหน้าอย่างปวดใจ “ขอบคุณเจ้าค่ะ” เหยาเหยากล่าวขอบคุณก่อนจะเดินออกมา “เสี่ยวผิงเจ้าไปตามท่านพี่มาให้ข้า ข้าจะไปค่ายทหารกับท่านพี่ ส่วนเจ้ากลับไปอยู่ดูแลมารดาข้ากับแม่นมเถิด” เสี่ยวผิงพยักหน้ารับก่อนจะทิ้งคุณหนูไว้เพียงผู้เดียว เหยาเหยานางนั่งรอใต้ต้นไม้ เพื่อพักเอาแรง หากให้ผู้อื่นไปหายาแทนนางก็กลัวว่าจะบอกหลายละเอียดยาไม่ครบ ทำให้ยาที่ได้ไม่ได้ผล แต่จะเขียนรายการยาไปให้ กระดาษหรือหมึกก็ไม่รู้จะหาจากที่ใด อีกอย่างนางอยากจะได้ยามาทาที่ฝ่าเท้าของนางด้วย นางคิดว่าไม่ใช่เพียงนางผู้เดียวที่ได้รับบาดเจ็บที่เท้า พี่ชายกับบิดาก็คงไม่ต่างจากนาง “เหยาเหยา เจ้าจะไปที่ค่ายทหารรึ” หนิงเฉิงรีบเดินเข้ามาหาน้องสาว เมื่อรู้ว่าต้องไปขอยาจากหมอในค่ายทหาร สองพี่น้องก็รีบออกเดินทันที “เท้าเจ้าเป็นอันใด” หนิงเฉิงหยุดหันมามองน้องสาวที่เดินช้าลงเรื่อย ๆ เมื่อเห็นนางเดินโขยกเขยกก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ “ข้าเจ็บเท้าเจ้าค่ะ แต่ยังทนไว้” นางรีบบอกทันที เพราะกลัวพี่ชายจะให้นางขึ้นหลัง แต่หนิงเฉิงก็ไม่อาจทนมองน้องสาวของตนเจ็บปวดได้ เขาย่อตัวลงเพื่อให้นางขึ้นมาอยู่บนแผ่นหลัง เพียงไม่นานสองพี่น้องก็มาถึงที่ค่ายทหาร เมื่อทหารรู้ว่าทั้งคู่มาขอพบหมอก็บอกทางให้เดินไปที่กระโจมรักษา ภายในค่ายทหารเหลือค่ายอยู่ไม่มากนัก อาจจะเป็นอย่างที่ท่านป้าที่นางถามทางบอกก้ได้ ว่ายามนี้คงออกไปทำศึกอยู่ด้านนอก เหยาเหยาเมื่อเข้ามาพบหมอในกระโจมนางก็บอกอาการของมารดาทั้งขอยาทาแผลที่เท้าของนางด้วย ท่านหมอได้รับคำสั่งมาจากท่านแม่ทัพแล้วว่าให้จัดการเรื่องยาให้ชาวบ้านเต็มที่ เขาจึงไม่ได้หวงยาเมื่อสองพี่น้องบอกว่าต้องการสิ่งใดบ้าง เหยาเหยายิ้มขอบคุณ ก่อนจะเดินออกจากกระโจมเพื่อจะกลับไปที่ค่ายอพยพ แต่เสียงโห่ร้องของทหารที่กำลังกลับเข้ามาในค่าย ทำให้สองพี่น้องชะงักนิ่งอยู่กับที่อย่างตกตะลึง เพราะไม่รู้ว่าเสียงร้องเช่นนี้เป็นเสียงร้องดีใจที่ชนะหรือว่าเป็นเสียงของทหารแคว้นเว่ยที่กำลังบุกเข้ามา ทหารบนหลังม้าที่ควบเข้ามาในค่ายด้านหน้าสองคน ทำให้สองพี่น้องเผยแววตาแห่งความกังวลออกมา ใบหน้าที่เรียบเฉยของฝูเหิงกับตงหยาง ไม่แสดงความยินดีเช่นทหารที่อยู่รอบตัวเขา ทั้งยังมีแผ่กลิ่นอายสังหารออกมาจนนางที่ยืนอยู่ห่างยังอดจะสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวไม่ได้ คำขู่ของเขายังก้องอยู่ในหูของนาง หากเขาพบนางกับพี่ชายในตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องร้ายใดขึ้นอีก เหยาเหยา ดึงแขนพี่ชายให้เขาไปหลบตรงหัวมุมก่อนที่ม้าของทั้งคู่จะควบผ่านตัวทั้งสองไป “ตงหยางกับฝูเหิงใช่หรือไม่” หนิงเฉิงเอ่ยถามออกมาด้วยเสียงสั่นเทา เขายังไม่ลืมเรื่องที่ฝูเหิงปล่อยข่าวเรื่องบิดาของเขาที่เมืองหลวง หนิงเฉิงมีความคิดไม่ต่างจากน้องสาวนักเรื่องที่กลัวว่าฝูเหิงจะเห็นเขากับเหยาเหยา “แม่นางเจ้ายังไม่ไปอีกหรือ” หมอกัวเดินออกมาเห็นเหยาเหยากับพี่ชายยืนแอบอยู่ในมุมของกระโจม เขาชื่นชมแม่นางน้อยที่อายุเพิ่งพ้นวัยปักปิ่น เพราะนางตอบโต้เรื่องสมุนไพร และอาการพร้อมทั้งพูดตัวยาที่จะใช้ได้อย่างไม่ติดขัด “กำลังจะไปเจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบเสียงแผ่วเบา เพราะกลัวบุรุษที่เพิ่งขี่ม้าผ่านไปจะได้ยินเข้า ฝูเหิงชะงักอยู่กับที่ แววตาของเขาสั่นไหวออกมาวูบหนึ่ง เขาต้องหูฝาดไปแล้วแน่ที่คิดว่าตนได้ยินเสียงของเหยาเหยา นางจะมาอยู่ในค่ายทหารได้อย่างไร “มีอันใด” ตงหยางเห็นน้องชายหยุดอยู่กับที่ก็เอ่ยถามอย่างแปลกใจ “เปล่าขอรับ” ฝูเหิงกลับมามีสีหน้าถมึงทึงเหมือนเดิม และเหมือนจะยิ่งมีโทสะมากกว่าเดิมที่ตนเผลอนึกไปถึงสตรีผู้นั้นได้ เหยาเหยารีบร้อนเดินออกจากค่ายทหารพร้อมกับพี่ชาย นางลืมความเจ็บปวดที่ฝ่าเท้าไปชั่วคราว ฝูเหิงหรี่ตามองแผ่นหลังของสตรีกับบุรุษที่รีบร้อนเดินออกไป ก่อนจะดึงสายตากลับมา แล้วลงจากหลังม้าเข้าไปในกระโจม เหยาเหยาเมื่อมาถึงค่ายอพยพนางก็ส่งยาให้เสี่ยวผิงไปต้มให้มารดาทันที ทั้งยังถอดถุงเท้าตรวจดูบาดแผลของนางด้วย นางค่อยๆ ทายาที่แผลอย่างเบามือ เหมือนจะยิ่งแย่กว่าเมื่อวานเสียอีก ความแสบร้อนของฝ่าเท้าทำให้เหยาเหยานางสูดปากอย่างเจ็บปวด “เจ้าเห็นแม่นางน้อยที่เข้ามาในค่ายทหารหรือไม่” “เป็นเช่นไร” “ข้าไม่เคยพบเจอสตรีนางใดงดงามเช่นนี้มาก่อน แม้จะอยู่ในอาภรณ์เปรอะเปื้อนเช่นนั้น แต่ก็ยังทำให้ข้ามองจนตาค้างได้” “จริงหรือ ข้าอยากจะเห็นยิ่งนัก” “คงต้องไปเที่ยวแถวค่ายผู้อพยพเสียแล้ว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม