“ตอนไหนจะกลับ ไหนบอกว่าแค่มาเอาของเฉย ๆ ไง” ตอนนี้เธอกำลังรู้สึกโกรธเขาเอามาก ๆ หลังจากที่เขาบอกเธอว่าแค่มาเอาของ ในตอนแรกที่มาถึงเธอบอกเขาเอาไว้ว่าจะนั่งรอในรถ แต่เขาก็ไม่ยอมพาเธอขึ้นมาบนห้องของเขาจนได้ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เข้ามาเหยียบภายในคอนโดหรูของเขา เธอก็รู้สึกตื่นเต้นเอามาก ๆ แต่มันน่าจะดีกว่านี้ถ้าในตอนนี้เธอไม่ได้โกรธเขาอยู่
“หิวข้าวหรือยัง”
เธอก็ยังไม่ยอมปริปากพูดอะไรเอาแต่นั่งกอดอกทำหน้าบึ้งตึงอยู่
“ฉันถาม”
“หนูอยากกลับบ้าน”
“แล้วจะรีบกลับไปทำไมยังไงย่าเธอก็ไม่อยู่ไม่ใช่เหรอ”
“รู้ได้ยังไงว่าย่าของหนูไม่อยู่” ถามเขาออกไปด้วยความแปลกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องของย่าเธอด้วย เพราะวันนี้ย่าของเธอไปเที่ยวกับเพื่อนกว่าจะกลับก็อีกสามวัน
“เมื่อวานย่าของเธอมาฝากฉันให้ดูเธอหน่อย เพราะท่านจะไปเที่ยวกับเพื่อน”
“ทำไมย่าต้องไปฝากหนูกับคนอื่นด้วยเนี่ย แถมยังเป็นสิงห์อีก”
“เป็นฉันแล้วมันทำไม”
“ก็เพราะว่าสิงห์ไม่ชอบหนูไม่ใช่เหรอ เกลียดหนูรำคาญหนูแล้วจะมายุ่งด้วยทำไม”
“ฉันไม่เคยบอกว่าเกลียดเธอ”
“ถึงไม่บอกแต่การกระทำมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว”
“เธอชอบฉันมากเหรอ”
“ไม่ชอบ”
“โกหก”
“แล้วหนูจะโกหกสิงห์ไปทำไม”
“เพราะเธอชอบฉันมากไง เธอตามจีบฉันมาแล้วสามปีทั้งที่รู้ว่าฉันมีแฟนอยู่แล้ว”
ก็อย่างที่เขาพูด เธอแอบชอบเขามาตั้งแต่ม.3 ชอบมากทั้งที่เขาก็มีแฟนอยู่แล้ว แล้วก็รักแฟนมาก บ้านของเราอยู่ติดกันทำให้เธอกับเขารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เราสองคนผูกพันกันมาจนเธอรู้สึกคิดกับเขาเกินพี่ชาย และรู้ใจตัวเองว่าเธอชอบเขาตั้งแต่ม.3 แต่เธอก็พยายามหักห้ามใจของตัวเองเพราะตอนนั้นเธอยังเด็กมาก จนตอนนี้ผ่านมาสามปีแล้ว ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้เขาเพิ่งเลิกกับแฟนที่คบกันมาหลายปี เพราะแฟนของเขาบอกเลิกแล้วไปคบกับคนอื่นและตอนนี้ทั้งสองคนก็ไปเรียนต่างประเทศด้วยกัน ซึ่งทำให้เขาจมปลักกับความรักมานานเกือบปี
“แต่ตอนนี้หนูไม่ได้ชอบสิงห์แล้ว”
“ฉันไม่เชื่อ”
“ไม่เชื่อนั่นมันก็เรื่องของสิงห์ เพราะตอนนี้หนูชอบคนอื่นแล้ว”
“ชอบใคร”
“หนูไม่บอก”
“บอกมาว่าเธอชอบใคร”
คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ลุกขึ้นมาเพื่อจะมาหาเธอ ซึ่งเธอก็รีบลุกขึ้นหนีแต่ก็โดนเขากระชากจับมือเอาไว้ก่อน
“บอกมาว่าคนที่เธอชอบมันเป็นใคร”
“…..”
“บอกมา”
“เพื่อนสิงห์ไง” เธอที่ครั้งแรกว่าจะโกหกเขาเล่น ๆ ว่าตัวเองแอบชอบคนอื่นไปแล้ว แต่พอโดนกดดันจึงเอ่ยชื่อเพื่อนของเขาออกไป เพราะอย่างน้อยเขาจะได้ไม่มายุ่งวุ่นวายกับเธออีก
“ไอ้เจมส์”
“ใช่ค่ะ ตอนนี้หนูชอบพี่เจมส์แทนสิงห์แล้ว เขาทั้งแสนดีทั้งเอาใจใส่หนูมากกว่าสิงห์หลายเท่า”
“หยุดชอบมันซะ แล้วกลับมาชอบฉันเหมือนเดิม”
“ไม่”
“ทำไม”
“เพราะสิงห์ใจร้ายไง สิงห์ใจร้ายกับหนูทุกเรื่อง”
“…..”
“หนูกำลังจะลืมสิงห์ได้อยู่แล้ว ทำไมต้องกลับมาวุ่นวายในชีวิตหนูอีกด้วย” เพราะตอนนี้เธอกำลังพยายามที่จะเลิกชอบเขา หลังจากที่เราไม่ได้พูดคุยกันมาเกือบหนึ่งเดือน ซึ่งตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอก็เจอเขาค่อนข้างบ่อยแต่ก็พยายามหลบเพราะไม่อยากเจอหน้ากันจัง ๆ ซึ่งเธอก็ยอมรับเลยว่ามันยากมากแต่เธอคิดว่าอีกไม่นานเธอก็จะทำได้ แต่วันนี้เหมือนกับว่าสิ่งที่เธอพยายามทำมา มันจะสูญสิ้นไปเสียเปล่า
“อย่าลืมฉัน เธอต้องกลับมาชอบฉัน”
“จะทรมานหนูไปถึงไหน สิงห์ไม่ชอบหนูแต่ให้หนูชอบสิงห์เหมือนเดิมเหรอ”
“เราคบกันไหม”
“เป็นบ้าหรือไง อยู่ดี ๆ ก็มาขอคบ”
“ฉันไม่ได้เป็นบ้า ฉันพูดความจริง”
“สิงห์พูดจริงเหรอเนี่ย”
“ก็ต้องจริงสิ ฉันจะหลอกเธอทำไม ตกลงคบกันไหม”
“สิงห์ลืมพี่แพรไหมได้แล้วเหรอ”
“ยังลืมไม่ได้ แต่กำลังพยายามลืมอยู่”
“ไม่ได้คิดว่าเอาหนูไปเป็นตัวแทนใครใช่ไหม”
“ไม่ เธอไม่ได้เป็นตัวแทนของใคร”
“งั้นหนูตกลงคบกับสิงห์ก็ได้” เธอตอบเขาออกไปพร้อมกับรีบเข้าไปสวมกอดเขาไว้แน่น ซึ่งเธอก็รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อยเพราะแต่ก่อนถ้าเธอกอดเขาแบบนี้เขาต้องผลักเธอออกแล้ว แต่ตอนนี้เขาไม่ผลักแถมยังกอดเธอตอบ พอมาคิดอีกทีถึงตอนนี้เขาจะยังลืมแฟนเก่าของตัวเองไม่ได้ แต่เธอคิดว่าถ้าเราอยู่ด้วยกันไปนาน ๆ เธอจะทำให้เขาลืมผู้หญิงใจร้ายคนนั้นให้ได้
หนึ่งปีต่อมา...
“หนูใส่ชุดนี้สวยไหม”
“ไม่”
พอเธอได้รับคำตอบจากแฟนหนุ่มก็ทำหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที
“ที่พูดไม่ ไม่ได้หมายความว่าไม่สวย แต่ลองเปลี่ยนเป็นสีชมพูดีกว่า สีนี้เธอใส่แล้วมันไม่ค่อยเหมาะ”
“ก็ได้” เธอรับชุดที่แฟนหนุ่มยื่นให้พร้อมกับรีบเดินเข้ามาในห้องลองชุด พอเปลี่ยนเสร็จก็รีบเดินออกจากห้องไปให้แฟนหนุ่มดูอีกครั้ง
“เป็นไงบ้าง”
“สวยมาก”
“แฟนสิงห์ก็ต้องสวยอยู่แล้ว”
“อยากได้ชุดไหนอีกไหม”
“ไม่เอาแล้วค่ะ เอาชุดเดียวก็พอแล้ว”
“ทำไมวันนี้เอาน้อยจัง”
“หนูไม่มีเงิน ย่าบอกว่าหนูใช้เงินเปลืองเกินไปแล้วก็เลยโดนหักค่าขนม ตอนนี้ก็เลยเหลือใช้แค่วันละสองร้อยเอง”
“เดี๋ยวชุดนี้ฉันซื้อให้”
“ไม่เอาหรอก หนูเกรงใจสิงห์นะ”
“ทำไมต้องเกรงใจ เราเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ”
“ก็เราเป็นแฟนกันก็ต้องเกรงใจมากกว่าคนปกติ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกฉันเต็มใจ ไปเปลี่ยนชุดได้แล้วฉันจะพาไปกินข้าวต่อ”
แฟนหนุ่มเธอพูดเสร็จก็เดินลงไปนั่งบริเวณที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ซึ่งเธอก็รีบวิ่งเข้าไปเปลี่ยนชุด พอเปลี่ยนเสร็จก็เอาชุดไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์โดยที่มีแฟนหนุ่มของเธอเป็นคนจ่ายให้ พอทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็เดินจูงมือกันมายังร้านอาหารไทยที่อยู่ไม่ไกลจากร้านเสื้อผ้ามาก
“อยากกินอะไรก็สั่ง”
“หนูอยากให้สิงห์สั่งให้”
พอเธอพูดออกไปแบบนั้นสิงหาก็ไม่ได้ว่าอะไร หยิบสมุดเมนูขึ้นมาพร้อมกับชี้เมนูให้กับพนักงาน พอสั่งเสร็จแล้วก็นั่งรอไม่นานอาหารทุกอย่างที่แฟนหนุ่มเธอสั่งก็ต่างทยอยมาเสิร์ฟเรื่อย ๆ จนถึงเมนูสุดท้ายที่เขาสั่งมาเธอก็รีบเงยหน้ามองเขาทันที เพราะมันคือผัดพริกเผาหอยลายเมนูที่เธอเกลียดที่สุด
“มีอะไร”
“มะ...ไม่มีอะไรค่ะ เรากินกันเถอะ”
เธอตักต้มยำกุ้งเมนูโปรดของตัวเองไปวางไว้บนจานข้าวให้กับแฟนหนุ่มพร้อมกับตักมาให้ตัวเองด้วย เรานั่งกินไปสักพักแฟนหนุ่มของเธอก็ตักผัดหอยลายมาวางไว้บนจานให้กับเธอ พอเธอเห็นแบบนั้นก็รีบวางช้อนลงด้วยความไม่พอใจทันที
“เป็นอะไรกินไปได้นิดเดียวเอง อิ่มแล้วเหรอ”
“หนูยังไม่อิ่ม”
“ยังไม่อิ่มแล้วรวบช้อนทำไม”
“นี่สิงห์จำไม่ได้จริง ๆ เหรอ นี่มันครั้งที่เท่าไหร่กันแล้ว”
“อะไร”
“ลืมจริง ๆ สินะ” เธอรีบลุกขึ้นพร้อมกับหยิบเอาถุงเสื้อผ้าของตัวเองพร้อมกับรีบเดินออกจากร้านอาหารทันทีโดยไม่สนใจคนที่เรียกเธออยู่ด้านหลัง
พรึ่บ!!
แต่พอเดินมาสักพักก็ถูกคนกระชากแขนจับไว้ก่อน ซึ่งเธอพยายามที่จะสะบัดหนีหลายครั้งแต่ก็ทำไม่สำเร็จ
“เป็นอะไรก็บอกกันดี ๆ สิวะ มาเดินหนีแบบนี้แล้วใครจะรู้ว่าเป็นอะไร”
“หนูแพ้หอยลายค่อนข้างหนัก ถ้ากินไปนิดเดียวก็อาจตายได้ เรื่องแค่นี้สิงห์จำไม่ได้จริงเหรอ”
“ขะ...ขอโทษ”
“ไม่ต้องขอโทษหรอก เพราะหนูรู้ดีว่าเรื่องของตัวเองมันไม่ได้สำคัญแบบเรื่องของแฟนเก่าสิงห์” เพราะแฟนเก่าของเขาชอบผัดพริกเผาหอยลายมาก ซึ่งเธอรู้ได้ยังไงน่ะเหรอ เพราะครั้งก่อนที่เธอไปกินข้าวกับพวกเพื่อนของเขา เพื่อนเขาหลุดพูดเรื่องนี้ขึ้นมาซึ่งเธอก็รู้สึกเอะใจ เพราะตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา เวลาที่ไปทานข้าวเขาจะชอบสั่งเมนูนี้มาตลอด ซึ่งหลายครั้งเลยที่เธอบอกว่าเธอแพ้ เขาก็ขอโทษแล้วก็บอกว่าเขาจะจำไว้ซึ่งเขาพูดคำนี้ตลอดแต่ก็ไม่เคยจำได้เลยสักครั้ง จนมาถึงครั้งนี้เธอคงคิดว่าถ้าเป็นเรื่องของเธอเขาคงไม่ใส่ใจเท่าไหร่
“ขอโทษ”
“วันนี้หนูขอกลับเอง ไม่ต้องตามมา” เธอสะบัดมือเขาที่จับมือเธอออกแล้วรีบเดินออกมาทันที พร้อมกับน้ำตาที่ค่อย ๆ ไหลรินเปรอะเปื้อนแก้ม เธอพยายามใช้มือของตัวเองเช็ดออก เพราะตอนนี้เธอยังอยู่ในห้างสรรพสินค้าผู้คนค่อนข้างเยอะ พยายามเร่งฝีเท้าให้ออกจากตรงนี้โดยเร็วที่สุด พอเดินมาด้านหน้าแล้วก็ยืนโบกแท็กซี่ไม่นานรถก็เข้ามาจอด เธอก็รีบเข้ามานั่งทันที