ตอนที่ 4
พลั้งปาก
"ไหนบอกจะไม่ใช้แผนนี้ไง แล้วดื่มอะไรหนักขนาดนี้เนี่ย" จิมมี่บ่นปันปันที่นั่งกระดกแก้วเครื่องดื่มเข้าปากราวกับเป็นน้ำเปล่า แข่งกับเสียงเพลงภายในผับที่ดังกระหึ่ม
"ไม่ใช่แผน แค่ย้อมใจ"
"ย้อมใจเรื่องอะไร ฉันงงนะยะหล่อนมาถึงก็กระดกเอาๆ ไม่พูดอะไร"
"เฮียศิลา"
"เฮียศิลาทำไม"
"เฮียศิลาไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นมา"
"ถามจริง แล้วแกไปรู้ได้ยังไง"
"ฉันเห็นรอยแดงที่คอเขาก็เลยถาม แล้วเขาก็ยอมรับ"
"ใจเย็นๆ ฉันเข้าใจแกนะ แต่ตอนนี้มันก็เป็นสิทธิ์ของเขานะ แกกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน"
"ฉันรู้ แต่ฉันโกรธที่เขาจูบฉัน ถ้ากล้าที่จะจูบฉัน เขาก็ไม่ควรจะไปทำแบบนั้นต่อกับผู้หญิงคนอื่นไหม เห็นฉันเป็นอะไร เหมือนฉันถูกโยนความหวังมาให้แล้วก็มาเอาคืนไป"
"แล้วแกจะทำยังไงต่อไป" จิมมี่ถามพลางลูบหลังให้กำลังใจเพื่อนสาวไปด้วย
"มูฟออน"
"ถามจริง ชอบเขาหวงเขามาเป็นสิบๆ ปีเนี่ยนะ"
"อือ เฮียศิลาทำร้ายจิตใจฉันเกินไป"
"คิดดีแล้วเหรอ"
"แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง ให้ฉันประชดควงผู้ชายคนอื่นมาเย้ยเขา เรียกร้องความสนใจเหรอ ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกันนี่ ฉันจะไปทำแบบนั้นทำไมเปลืองตัวเปล่าๆ ตอนแรกไอ้เราก็นึกว่ามีใจมาจูบเรา ฮึ่ย! พูดแล้วก็โมโห เฮียศิลานะ เฮียศิลา!" ปันปันวางแก้วเครื่องดื่มลงบนโต๊ะดังสนั่น ใบหน้าหวานหมอบลงไปกับโต๊ะเมื่อรู้สึกหนักๆ ที่ศีรษะ
“แล้วนี่แกจะกลับห้องไหวไหม ให้ฉันไปส่งหรือจะไปนอนคอนโดฉัน” จิมมี่ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“เดี๋ยวค่อยกลับได้ไหม อยู่ต่ออีกแป๊บหนึ่ง”
“ตามใจแล้วกัน ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ อย่าไปไหนล่ะขี้เกียจตามหา”
“อือ” ปันปันรับปากโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองจิมมี่ด้วยซ้ำ ทำให้จิมมี่ลังเลว่าจะไปเข้าห้องน้ำดีไหม เพราะปันปันดูไร้สติมากในตอนนี้ แต่เธอเองก็กลั้นปัสสาวะมานานหลายชั่วโมงแล้วเหมือนกัน ทำให้เธอตัดสินใจเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็ไม่ลืมที่จะบอกการ์ดให้ไปยืนดูปันปันเอาไว้ เพราะถึงแม้ที่นี่จะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม แต่ยังไงมันก็สถานที่อโคจรไม่มีใครรู้ได้หรอกว่าจะเกิดอะไร เธอจึงอยากกันเอาไว้ดีกว่าแก้
“ฝากด้วยนะคะ” จิมมี่บอกกับการ์ด ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยความสบายใจ
ทางด้านปันปัน
“ปัน”
“อือ”
“ปันปัน”
“เฮียกัปตันเหรอ” ปันปันถามเจ้าของมือหนาที่วางมาบนไหล่เธอสัมผัสและน้ำเสียงที่คุ้นเคยทำให้เธอพอจะเดาได้ว่าเป็นใคร
“ทำไมดื่มเยอะขนาดนี้”
“เฮียกัปตัน” ปันปันรีบโผเข้ากอดพี่ชายของตัวเองด้วยท่าทางออดอ้อน “เฮียมาทำอะไรที่นี่”
“มาตรวจงาน มีคนมาบอกว่าเราเมาอยู่ตรงนี้ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นปกติไม่ดื่มเยอะขนาดนี้นี่” กัปตันถามน้องสาวพลางลูบเส้นผมอ่อนนุ่มด้วยความเป็นห่วง
“อกหักค่ะ”
“จากศิลาเหรอ”
“อือ”
“ไปทำท่าไหนมาล่ะ” กัปตันส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา เพราะเขารู้ดีว่าทั้งสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันมีแต่ปันปันน้องสาวเขาต่างหากที่ตามตื๊อศิลาอยู่ฝ่ายเดียว
“แบบนี้...//“ ปันปันเงยหน้าขึ้นไปทำริมฝีปากจู๋ แต่ไม่นานมันก็เบะคว่ำลง แต่นั่นก็สร้างคำถามคาใจให้กับกัปตันไม่น้อย
“หมายความว่ายังไง”
“เฮียศิลาไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น”
“นึกว่าเรื่องอะไร” กัปตันถอนหายใจด้วยความโล่งใจ แต่ไม่นานหัวคิ้วหนาก็กลับมาขมวดเป็นปมดังเดิมเมื่อได้ยินประโยคถัดมาจากปากน้องสาว
“แต่ก่อนหน้านั้นเฮียศิลาเขาจูบหนู”
“...”
“เขาจูบหนูแล้วก็ไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น”
กัปตันนิ่งเงียบโดยไม่ได้ออกความคิดเห็นอะไร เพราะกำลังชั่งน้ำหนักจากสิ่งที่ได้ยินออกมาจากปากน้องสาวเมื่อครู่ แต่จิมมี่ก็กลับมาที่โต๊ะขัดจังหวะเสียก่อน ทำให้เขาเลิกสนใจเรื่องนั้นไปชั่วขณะ
“อ้าวเฮียกัปตันสวัสดีค่ะ” จิมมี่พนมมือไหว้อย่างสนิทสนม เพราะเธอเป็นเพื่อนสนิทกับปันปัน เลยพลอยทำให้สนิทกับพี่ชายเธอไปด้วย
“สวัสดีครับ”
“จิมมี่ดูแลอย่างดีค่ะ เมื่อกี้นี้ไปเข้าห้องน้ำมาแป๊บเดียวจริงๆ ค่ะ” จิมมี่รีบออกตัว เพราะเกรงว่ากัปตันจะหาว่าเธอทิ้งปันปันสภาพนี้เอาไว้ที่โต๊ะเพียงลำพัง
“เฮียไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย กลับเลยไหมเฮียให้คนไปส่ง ส่วนปันเดี๋ยวเฮียพากลับเอง”
“งั้นฝากด้วยนะคะ เมื่อกี้จะพากลับแล้วแต่งอแง”
“ปันนิสัยเป็นเด็กแบบนี้แหละ อย่าถือสาเลยนะ ถ้าทำอะไรไม่ดีไม่งามเฮียก็ฝากเตือนกันหน่อย”
“ได้เลยค่ะ แต่ไม่ต้องให้คนไปส่งนะคะ จิมมี่ดื่มไปนิดเดียวเองค่ะขับรถกลับเองได้อยู่ ไม่อยากทิ้งรถไว้ที่นี่ด้วยพรุ่งนี้มีเรียน”
“โอเค งั้นกลับดีๆ นะ” จิมมี่พยักหน้ารับคำเดินกลับออกไป ทำให้กัปตันต้องเป็นคนอุ้มร่างเล็กของน้องสาวขึ้นไปไว้ที่ห้องทำงานด้วย เพราะเขายังต้องจัดการเอกสารอีกนิดหน่อยถึงจะสามารถกลับได้