EP.6 | ตัวตน
วันต่อมา
เคย์ล่าเดินเข้ามาภายในผับตามเวลานัด ใบหน้าสวยหวานตามแบบฉบับสาวลูกครึ่งในชุดเกาะอกสีแดงเพลิงรัดรูป บนรองเท้าส้นสูงกว่าห้านิ้วทำให้เธอดูมีเสน่ห์น่าค้นหาท่ามกลางแสงสีของสถานบันเทิงยามค่ำคืน ที่เต็มไปด้วยนักท่องราตรีมากหน้าหลายตา
“เชิญทางนี้ครับ” เคย์ล่าปรายตามองแมททิวเจ้าของประโยคเมื่อครู่ ที่ยืนดักรอเธออยู่ตรงทางขึ้นไปชั้นสองโซนวีไอพีของผับด้วยสายตาหยิ่งยโส เพราะยังจำท่าทีของแมททิวที่มีต่อเธอเมื่อวานได้เป็นอย่างดี
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“คุณเคย์ล่ามาถึงแล้วครับ” แมททิวบอกกับแอชตันตามหน้าที่ ก่อนจะเดินกลับออกไป ปล่อยให้เคย์ล่าได้อยู่กับแอชตันเป็นการส่วนตัว
“สวัสดีอีกครั้งค่ะ คุณแอชตัน” เคย์ล่ากล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงมีจริต ถึงแม้นัยน์ตาของเธอจะมีแต่ความว่างเปล่าก็ตามที
“ฉันไม่ชอบให้ใครมาเรียกชื่อฉัน” แอชตันพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นไม่ต่างกัน
“แล้วจะให้เคย์เรียกคุณว่าอะไรดีคะ นายท่าน หรือว่า...แด๊ดดี้ ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ” เคย์ล่าจงใจเน้นเสียง ก่อนจะเดินสะบัดขาเรียวยาวลงไปนั่งลงบนโซฟาโดยที่ไม่ได้รับคำเชิญใดๆ “ขออนุญาตนั่งนะคะ เพราะถ้ารอมารยาทจากคุณฉันกลัวจะเป็นเส้นเลือดขอดซะก่อน" เคย์ล่าบอกด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
"ยังอวดดีเหมือนเดิมเลยนะ"
"แน่นอนสิคะ ก็คุณชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ" เคย์ล่าบอกขณะเอื้อมมือไปหยิบแก้วเหล้าของแอชตันมากระดกดื่มอย่างไร้มารยาทจนแอชตันมองมาด้วยสายตาไม่พอใจ เพราะเขาไม่ชอบใช้สิ่งของร่วมกับคนอื่น
"แล้ววันนี้ยอมคลานมาหาฉันแล้วเหรอ"
"เดินค่ะ ฉันเดินมา แต่ถ้าคุณอยากรับบทนายท่านฉันยอมรับบทเป็นนางซินให้คุณก็ได้นะคะ" เคย์ล่าจีบปากจีบคออย่างนึกสนุก "อย่าเสียเวลาเลยดีกว่าค่ะ วันนี้ฉันมาคุยกับคุณเรื่องหุ้นบริษัทฉัน ฉันรู้ว่าต้นเหตุมันมาจากคุณ ต้องการอะไรพูดมาเลยดีกว่าค่ะ"
"อย่างเธอไม่เห็นมีอะไรให้ฉันต้องการ เธอมากกว่าที่อุตส่าห์มาถึงที่นี่ต้องการอะไรจากฉัน" แอชตันเหยียดยิ้มสมเพช
"ดีค่ะ ฉันต้องการให้คุณลงทุนกับบริษัทของฉัน และก็ทำให้หุ้นบริษัทของฉันกลับมาเหมือนเดิม" เคย์ล่างยิงตรงเข้าประเด็นอย่างไม่อิดออด เมื่อแอชตันจงใจเปิดทางให้
"นั่นมันไม่ใช่ปัญหาของฉัน"
"แต่ปัญหาของฉันมันเกิดจากคุณ เพราะฉะนั้นคุณต้องเป็นคนแก้"
"ลองคลานมาหาฉันดูสิ เผื่อฉันจะเมตตาผู้หญิงอวดดีแบบเธอ" แอชตันยกมือทั้งสองข้างฟาดลงไปบนพนักโซฟาหนังราคาแพงด้วยท่าทางสบายๆ ราวกับรอให้หญิงสาวคลานมาหาเขาตามคำบอกเล่าก่อนหน้านี้
"แล้วถ้าฉันไม่คลานไปล่ะคะ" เคย์ล่าเอ่ยถามด้วยสายตาว่างเปล่าไม่ได้ตกใจกับคำพูดของแอชตันเลยสักนิด
"งั้นเธอก็รอดูบริษัทเธอล่มจมได้เลย และก็อย่าหวังที่จะได้โอกาสจากฉันอีก เพราะฉันไม่มีเวลามานั่งเล่นกับเด็กอย่างเธอ"
"ทำไมฉันต้องคลานไปในเมื่อเรามีผลประโยชน์ร่วมกัน" เคย์ล่าจ้องมองไปที่ใบหน้าคมคายตามแบบฉบับชาวยุโรปของแอชตันด้วยสายตาหยิ่งทะนง
"..."
"อีกอย่าง ถ้าเด็กกะโปโลอย่างฉันไม่มีอะไรดี จะทำให้คุณแอชตันผู้สูงส่งลดตัวลงมาลอบกัดฉันแบบนี้เหรอคะ" เคย์ล่าจ้องมองลึกไปในแววตาดุดันของแอชตันอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ
"อย่าอวดเก่งให้มันมากนัก ถ้าความอดทนฉันหมดลงเมื่อไหร่ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน"
"อึก!" ใบหน้าหวานแดงก่ำ เมื่อแอชตันพุ่งมาบีบลำคอระหงอย่างแรงจนเธอหายใจติดขัด มือเรียวพยายามดึงมือหนาออก ทว่าเธอก็สู้เรี่ยวแรงของชายหนุ่มไม่ได้
แอชตันมองสีหน้าทุรนทุรายของหญิงสาวด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ก่อนจะไปหยุดมองอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่มที่เผยอออกมา ใบหน้าคมคายโน้มลงไปกัดลงบนกลีบปากสั่นระริกอย่างแรงจนเลือดสีสดแตะลงบนขอบปากของเขาจนกลายเป็นสีแดงซ่าน แอชตันดูดกลืนกลิ่นคาวเลือดจากริมฝีปากอวบอิ่มนานอยู่หลายนาทีจนกระทั่งเลือดหยุดไหล เขาจึงคืนอิสระให้กับเธอ
"คุณมันไม่ใช่คน!" เคย์ล่ายกมือขึ้นมาลูบลำคอตัวเองเบาๆ เพื่อบรรเทาความแสบจากแรงบีบเมื่อสักครู่ ริมฝีปากอวบอิ่มยังคงสั่นระริก และรู้สึกเจ็บจากแรงกัดเมื่อสักครู่
"อยากรู้ไหมว่าฉันสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้"
"คุณคิดจะทำอะไร" เคย์ล่าพยายามประคองน้ำเสียงไม่ให้สั่น
"ทำไม กลัวขึ้นมาแล้วเหรอ" แอชตันพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ มือหนาลูบไล้ไปตามกรอบหน้าสวยๆ ของหญิงสาวอย่างเชื่องช้า
"ถะ...ถอยออกไป" เคย์ล่าพูดด้วยน้ำเสียงหวาดระแวง เพราะสายตาของเขาเปลี่ยนไปจากที่เธอเคยเห็นก่อนหน้านี้ จนเธอรู้สึกไม่ปลอดภัย
"หึ เธอควรจะต้องกลัวฉันให้เร็วกว่านี้นะ"
"..." ร่างบางแทบจะหยุดหายใจ เมื่อแอชตันเลื่อนใบหน้าคมคายเข้ามาใกล้ใบหน้าเธออีกครั้ง
"ถ้าวันนั้นที่ห้องอาหารโรงแรม เธอทำตัวเป็นเด็กดีกับฉัน ฉันอาจจะเมตตาเธอกว่านี้ก็ได้นะ"
"..."
"ฉันชอบนะผู้หญิงอวดดีแบบเธอ ส่วนเธอเองก็ชอบความท้าทายไม่ใช่เหรอ งั้นฉันจะเป็นคนมอบสิ่งที่ท้าทายที่สุดให้กับเธอเอง" แอชตันพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น จนคนฟังอย่างเคย์ล่าเผลอกลั้นลมหายใจไปโดยไม่รู้ตัว "ยุติธรรมดีไหม"
"อึก!...จะทำอะไรฉันน่ะ" เคย์ล่าพูดด้วยน้ำเสียงหวาดระแวง เมื่อแอชตันโน้มตัวลงพูดประชิดริมฝีปากสั่นระริกจนมันสัมผัสกัน
"ถ้าเธอทนได้ฉันก็จะคืนอิสระ และทุกอย่างให้กับเธอ แต่ถ้าไม่ก็ถือซะว่าเธอได้สัมผัสสิ่งที่ท้าทายที่สุดในชีวิตที่เธอเกิดมาแล้ว และก็อย่าคิดที่จะเอามารยาของเธอมาเอาชนะคนอย่างฉัน ฉันบอกตรงนี้เลยว่ามันไม่มีทางได้ผล"
คำพูดของแอชตันทำให้คนตัวเล็กรู้สึกสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปได้อย่างง่ายดาย เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตา ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ สายตาของเขาตอนนี้มันเหมือนกำลังทรมานเธอ โดยที่ตัวเขาไม่ได้ลงมือทำอะไรเลยด้วยซ้ำ