หลังจากนำข้าวของทุกอย่างไปจัดเก็บจนเรียบร้อย เธอก็ออกไปสำรวจห้องทั้งหมดอย่างตั้งใจ ครัวแบบเปิดมีลิ้นชักเครื่องครัวเรียงแนวซ้ายไปขวา เตาไฟฟ้าสามหัว เครื่องชงกาแฟวางข้างเครื่องบดเมล็ด สต๊อกแคปซูลเรียงเป็นถาด ตู้แช่ไวน์เล็ก ๆ ซ่อนอยู่หลังบานปิดเรียบ
ห้องทำงานของเขาจัดเนี้ยบจนแทบไม่กล้าหายใจ แฟ้มเอกสารติดสันชื่อแยกตามปี หนังสือทุกเล่มถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ แม้แต่ตำแหน่งปากกาและของใช้บนโต๊ะก็เหมือนจะวางตามองศาที่จะสามารถหยิบใช้งานได้ง่ายเช่นกัน
เธอจดจำตำแหน่งกุญแจสำรอง กล่องปฐมพยาบาล ผ้าที่แขวนไว้ในห้องน้ำเล็ก กระดาษทิชชูสำรองในตู้บานตะแกรงเหนือเครื่องซักผ้า เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกหลายอย่างที่ไม่จำเป็นต้องจำแต่เธอกลับจำมันอย่างขึ้นใจแม้มันจะไม่ใช่หน้าที่หลักก็ตาม
กระทั่งใกล้เที่ยงแล้ว เธอจึงได้เดินไปดูข้อมูลร้านอาหารที่เขาจดไว้ก่อนจะคาดเดาว่าเขาจะชอบกินอะไรแล้วก็โทรสั่งมาตามนั้น
อาหารมาส่งตรงเวลาตามที่นัด เธอจัดทุกอย่างลงบนโต๊ะอาหารจนเรียบร้อย แต่ยังเหลือหน้าที่สุดท้าย นั่นก็คือการไปเรียกเจ้าของห้อง
นภาภัสยืนหน้าห้องนอนของเขา ก่อนยกมือเคาะเบา ๆ
“คุณนนท์…อาหารมาแล้วค่ะ”
...เงียบ เธอจึงเคาะอีกครั้ง
“คุณนนท์คะ” ความเงียบยังเหมือนเดิม เสียงแอร์วูบเบา ๆ อยู่หลังบานประตู ความร้อนใจไต่ขึ้นมาตามสันอก
เขาจะเป็นไข้หรือไม่สบายรึเปล่านะ?
เธอกัดริมฝีปาก คว้าลูกบิดอย่างลังเล ก่อนตัดสินใจผลักเข้าไปในที่สุด
ห้องนอนสว่างด้วยแสงธรรมชาติจากผ้าม่านกรองแสง เตียงนอนแบบโมเดิร์นสีขาวกับผ้าปูเตียงสีเทาเข้มกลมกลืนกันหมด บนเตียงคิงไซซ์ ร่างสูงนอนตะแคงหันหน้าออกมาทางประตู ผมเสยหลุดนิด ๆ แตกต่างจากความเนี้ยบยามตื่น ทำให้เขาดูอ่อนวัยลงอย่างไม่น่าเชื่อ เธอหวนนึกถึงประโยคสั้น ๆ ของเขาเมื่อเช้า ‘ปกติผมไม่นอนตอนกลางวัน’ แล้วก็อดยิ้มจาง ๆ ไม่ได้
เธอเดินเข้าไปใกล้ทีละก้าว ระยะระหว่างเตียงกับชายกระโปรงสั้นลงจนได้กลิ่นสะอาดของเขา หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นโดยไม่มีเหตุผล เธอค่อย ๆ ทรุดนั่งลงข้างเตียง ระวังไม่ให้ที่นอนยุบแรงเกินไป มือที่ยังพันผ้าพลิกคว่ำ เธอยกมืออีกข้าง ปลายนิ้วแตะแก้มสากของเขาอย่างเบาที่สุด เหมือนจะยืนยันว่าเขาหลับจริง ๆ
อุณหภูมิผิวอุ่นกว่าที่คิด เสียงลมหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เธอยิ้ม ยิ้มที่ไม่มีใครเห็น รอยยิ้มของคนที่ได้เห็น ‘อีกด้าน’ ของชายเย็นชาผู้ควบคุมทุกอย่างได้อย่างดีเยี่ยมอยู่เสมอ
เมื่อมั่นใจว่าเขาไม่ได้ป่วย เธอก็ไม่กล้ารบกวนเวลาพักผ่อนที่น่าจะมีไม่บ่อยครั้งของเขานัก ตั้งใจว่าจะกลับออกไปเก็บอาหารเอาไว้ก่อน รอให้เขาตื่นเองแล้วค่อยยกมาเสิร์ฟอีกหน
แต่ทันทีที่เธอขยับลุกข้อมือของเธอก็ถูกจับไว้แน่นแต่ไม่รุนแรง ไม่ทำให้เจ็บทว่ามั่นคง เสมอ
“คุณ” เสียงทุ้มพร่ากึ่งง่วงกึ่งตื่นดังขึ้น เขาดึงมือเธอเบา ๆ จนร่างเธอเสียหลักเอนลงบนที่นอน ก่อนที่แขนอีกข้างจะยกกั้นไม่ให้เธอล้มทับเขา
ดวงตาคมเปิดเต็มที่แล้ว ลึกและนิ่งเหมือนเดิมแต่มีเงาอุ่นของคนเพิ่งตื่น
“มีอะไร” เขาถามตรง ๆ น้ำเสียงเรียบไม่ได้ฟังดูดุดัน แต่กลับทำให้ใจสั่นอย่างประหลาด
หัวใจเธอเต้นตึกตัก เมื่อสายตาประสานกันโดยไม่ได้นัดหมาย ระยะห่างแค่ฝ่ามือกั้น เธอเห็นเงาขนตาของเขาทาบบนโหนกแก้ม เห็นรอยจางของเส้นเลือดขมับที่เต้นเบา ๆ
“เอ่อ...ฟ้า…มาเรียกคุณไปกินข้าวค่ะ แต่เห็นคุณหลับอยู่ก็เลย...คิดว่าจะรอให้คุณตื่นเองดีกว่า” เธอกระซิบบอกแทบไม่กล้าหายใจด้วยซ้ำ
ปลายนิ้วเขายังจับข้อมือเธอไว้ สายตาลดต่ำลงชั่วเสี้ยววินาทีผ่านริมฝีปากเธอ เพียงแวบเดียว แต่ร้อนวาบไปทั้งอก เขาขยับกายเล็กน้อย รอยยิ้มกึ่งยิ้มกึ่งทดสอบฉายขึ้นที่มุมปาก ร่างสูงเอนขึ้น เหมือนจะลดระยะห่างให้สั้นลงอีกนิด จนลมหายใจอุ่นของเขาแตะผิวแก้มเธอ
นภาภัสตัวสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ เปลือกตากะพริบปริบ เธอไม่ถอย แต่ก็ไม่กล้าก้าวต่อ ช่องว่างเล็ก ๆ ระหว่างคนสองคนขยายและหดลงพร้อมกับเสียงหัวใจสองดวงที่ดังไม่พร้อมกัน
แต่ไม่นานเขาก็หยุด เสียงหายใจเขากลับมาสม่ำเสมอและปล่อยข้อมือเธออย่างตั้งใจ ดึงแขนออกจากแนวกัน แล้วเอนตัวพิงหัวเตียง พยักหน้าไปทางประตู
“เดี๋ยวผมออกไป ขอไปล้างหน้าก่อน” เขาว่าเพียงเท่านั้น ท่าทีเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ความร้อนบนแก้มเธอยังไม่จาง เธอดันตัวลุกขึ้น ตั้งใจไม่มองตาเขาเกินความจำเป็น
“ค่ะ…ฟ้าไปรอที่โต๊ะนะคะ” บอกแค่นั้นเธอก็รีบผุดลุกจากเตียงแล้วก้าวยาว ๆ ไปทางประตูห้องโดยมีสายตาของเขามองตามตลอด ก่อนที่เขาจะลุกไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นแล้วเดินออกไปด้านนอก
“ฟ้าสั่งเป็นเมนูอาหารเที่ยงที่ไม่หนักท้องมากมาให้นะคะ เผื่อคุณอยากจะกลับไปนอนต่ออีก ก็เลยสั่งเป็นพวกสเต๊กและสปาเกตตีมาให้ค่ะ อ้อ มีซีซาร์สลัดเอาไว้แก้เลี่ยนด้วย” เธอบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ขณะหยิบมีดและส้อมขึ้นมาหั่นเนื้อสเต๊กอย่างคล่องแคล่วเหมือนมันเป็นอาหารที่เธอเคยกินอยู่บ่อยครั้ง
“อืม” เขาตอบรับในลำคอ ไม่ได้เอ่ยชื่นชมกับความใส่ใจของเธอ เพราะเขากำลัง ‘สังเกต’ เพื่อนร่วมห้องเพื่อจะได้ทำความรู้จักเธอไปอย่างเงียบ ๆ
“เก็บของเสร็จหมดแล้วเหรอ”
เขาเอ่ยขึ้นหลังจากกินไปได้สักพักแล้ว