บทนำ (2) ผู้หญิงปริศนา

1259 คำ
ภายในรถพยาบาลกำลังวุ่นวาย เสียงสัญญาณชีพจากเครื่องวัดดังติ๊ด ๆ คงที่ บุญญานนท์ที่ขับรถตามอยู่ด้านหลังกำลังนึกถึงใบหน้าของหญิงสาวที่หมดสติ มือใหญ่เผลอกำหมัดแน่นอยู่บนพวงมาลัย ความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจแล่นวาบขึ้นมาในอก เขาไม่รู้จักเธอ ไม่รู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน แต่ภาพตอนที่เธอวิ่งตัดหน้ารถเขา กับเสียงกระแทกที่ยังดังก้องอยู่ในหู…มันทำให้หัวใจเขาเหมือนถูกบีบแน่น คงเพราะเขาไม่เคยขับรถชนใครมาก่อน และเลือดที่โชกของเธอมันก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกและนั่นก็ทำให้เขาได้แต่บอกตัวเองว่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เขา...ต้องรับผิดชอบผู้หญิงคนนี้ ถึงแม้เธอจะเป็นฝ่ายวิ่งตัดหน้ารถของเขาเองก็ตาม แต่ตอนนี้ความถูกต้องไม่สำคัญเท่ากับชีวิตหนึ่งที่อาจจะดับสูญไปได้ตลอดเวลา โรงพยาบาลสิริเวช รถพยาบาลจอดสนิทที่ทางเข้าฉุกเฉิน แพทย์เวรและพยาบาลรีบวิ่งออกมาต้อนรับ หญิงสาวถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินทันที บุญญานนท์ก้าวตามไปด้วย ใบหน้าคมขรึมเคร่งเครียดจนพนักงานหลายคนไม่กล้าสบตา เขายืนรอหน้าห้องฉุกเฉินนานเกือบชั่วโมง ทุกนาทีผ่านไปอย่างเชื่องช้า ความเงียบยิ่งตอกย้ำความกังวลในใจ ระหว่างนั้นพยาบาลก็มาถามข้อมูลส่วนตัวของเธอกับเขา แต่เขาก็ตอบอะไรไม่ได้เลย ตอนนี้เธอจึงได้กลายเป็นคนไข้ไม่มีชื่อสำหรับพวกเขาชั่วคราว จนกระทั่ง…ประตูห้องเปิดออกหลังจากนั้นนานเกือบสองชั่วโมงแพทย์หนุ่มจึงได้เดินออกมาพร้อมรายงานเบื้องต้น “ผู้ป่วยเพศหญิงไม่ทราบชื่อ อายุประมาณยี่สิบกลาง ๆ ศีรษะกระแทกแรง ทำให้มีเลือดออกแต่ไม่พบเลือดคั่งในสมอง ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้วครับ เดี๋ยวเราจะย้ายเธอไปที่ห้องผู้ป่วยรวม...” “ให้ย้ายไปห้องพิเศษ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดลงบัญชีของผมไว้ และจัดให้มีพยาบาลคอยดูแลทุกสองชั่วโมงจนกว่าเธอจะฟื้น” เขาบอกน้ำเสียงหนักแน่น “ได้ครับ เดี๋ยวผมจะจัดการให้ ขอตัวก่อนนะครับ” “อืม” “ไม่เป็นไรครับ เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว แต่ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วผมว่าผู้อำนวยการกลับไปพักผ่อนเถอะครับ ยังไงคืนนี้เธอก็คงยังไม่ฟื้น เอาไว้พรุ่งนี้เธอฟื้นเมื่อไหร่ผมจะให้พยาบาลโทรไปแจ้งนะครับ” “ขอบใจนะหมอ” “ครับ” หมอหนุ่มบอกยิ้ม ๆ ก่อนจะกลับเข้าไปในห้องฉุกเฉินอีกครั้ง ส่วนเขาก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เธอยังมีลมหายใจอยู่ จากนั้นเขาก็เดินทางกลับเพราะตอนนี้เป็นเวลาเกือบตีสองแล้ว เช้าวันใหม่ ภายในห้องพักผู้ป่วยพิเศษหญิงสาวนอนนิ่งอยู่บนเตียงสีขาว สายน้ำเกลือพาดผ่านแขนเรียว แสงไฟอ่อนสาดลงบนใบหน้าซีดเซียวบุญญานนท์ยืนมองอยู่นาน มือใหญ่กอดอกแน่น หัวใจเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ทั้งที่พยาบาลยังไม่ได้โทรแจ้ง แต่วันนี้เขากลับรีบมาโรงพยาบาลแต่เช้าทั้งที่เพิ่งจะได้นอนไม่กี่ชั่วโมง และห้องแรกที่เขามาก็ไม่ใช่ห้องทำงาน แต่เป็นห้องของคนไข้ไม่มีชื่อคนนี้ ใช่...เธอไม่มีชื่อ ไม่มีประวัติอะไรเลย และไม่มีญาติมาตามหาเธอด้วย เขานั่งมองหน้าเธออยู่นานร่วมชั่วโมง มองจนแทบจะจำทุกรายละเอียดบนใบหน้าของเธอได้อยู่แล้ว และสิ่งหนึ่งที่เขาต้องยอมรับเลยก็คือ...เธอมีใบหน้าที่สวยมาก แถมรูปร่างก็ยัง... ความคิดของเขาหยุดชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเปลือกตาเธอค่อย ๆ ขยับขึ้น ดวงตากลมโตปรือเปิดทีละน้อย จนเห็นความพร่ามัวของแสงไฟ เธอหอบหายใจสั้น ๆ ก่อนกะพริบตาเพื่อปรับสายตา “คุณ…ฟื้นแล้วเหรอ” เสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว แม้น้ำเสียงจะไม่ได้บ่งบอกว่าดีใจแค่ไหน แต่แววตานั้นแสดงออกว่าเขาโล่งอกที่เธอฟื้นขึ้นมาเสียที หญิงสาวหันตามเสียง ดวงตาคู่สวยเหม่อลอยก่อนเอ่ยถามเสียงแผ่ว “ฉัน…ฉันอยู่ที่ไหนคะ” “โรงพยาบาลน่ะ เมื่อคืนคุณวิ่งตัดหน้ารถผม จำได้รึเปล่า” น้ำเสียงของเขาไม่ได้คาดคั้นแต่ก็เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้ “โรงพยาบาล...วิ่งตัดหน้ารถ...” เธอทวนคำพลางขมวดคิ้วเหมือนพยายามนึกอะไรบางอย่าง แต่ยิ่งนึก…สีหน้าก็ยิ่งว่างเปล่า “ฉัน...จำไม่ได้เลยค่ะ” “ไม่เป็นไร คุณเพิ่งฟื้นอาจจะยังสับสน แล้วคุณชื่ออะไรล่ะ เจ้าหน้าที่จะได้ทำประวัติคุณไว้ แล้วจะได้ช่วยติดต่อญาติพี่น้องให้ด้วย” เขาถามต่อ เธอส่ายหน้าเบา ๆ น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว “ฉัน…จำไม่ได้เลย…จำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง…” คราวนี้กลายเป็นเขาที่ต้องขมวดคิ้วเสียเอง เขาจึงได้กดปุ่มเรียกพยาบาลให้เข้ามา “มีอะไรรึเปล่าคะท่านผู้อำนวยการ” “คนไข้เหมือนจะความจำเสื่อม ไปตามหมอมาประเมินอาการให้ที” “ได้ค่ะ” แล้วพยาบาลก็รีบก้าวออกไปตามคำสั่ง เมื่อได้ยินพยาบาลเรียกเขาว่าผู้อำนวยการ ก็ทำให้คนป่วยยิ่งรู้สึกกลัว “คุณ...คุณจะเอาเรื่องฉันรึเปล่าคะ” เธอถามเสียงสั่น “ไม่หรอก ผมแค่อยากรู้ว่าสมองของคุณได้รับความกระทบกระเทือนมากกว่าที่เราเข้าใจรึเปล่าเท่านั้นเอง” แม้เสียงเขาจะฟังดูนุ่มนวล แต่เธอกลับรู้สึกว่าเขากำลังจับผิดและอาจไม่เชื่อว่าเธอจำอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ ไม่นานหมอก็เข้ามาตรวจอาการของเธอ ก่อนจะพาเธอเข้าเครื่อง MRI เพื่อตรวจดูสมองอย่างละเอียด ก่อนที่เขาจะให้คำตอบกับผู้อำนวยการหนุ่มในช่วงบ่ายในห้องทำงานของเขาเอง “ดูเหมือนว่าคนไข้จะเกิดภาวะ Post-Traumatic Amnesia เรียกสั้น ๆ ว่า PTA หรือภาวะการสูญเสียความทรงจำชั่วคราวครับ โดยจะมีอาการตั้งแต่จำเหตุการณ์ก่อนหน้าไม่ได้ เรียกว่าความจำเสื่อมย้อนหลัง หรืออาจจะจำข้อมูลใหม่ไม่ได้ เรียกว่าความจำเสื่อมไปข้างหน้า หรืออาจจะเป็นได้ทั้งสองอย่าง แต่สำหรับเคสนี้ผมว่าเป็นอย่างแรกครับ” “แปลว่า...เธอไม่ได้โกหกงั้นเหรอ” “ครับ” “แล้วอีกนานมั้ยกว่าความจำของเธอจะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม” “ภาวะนี้จะคงอยู่จนกว่าความจำต่อเนื่องจะกลับคืนมา และระยะเวลาของ PTA เป็นตัวบ่งชี้ความรุนแรงของการบาดเจ็บที่สมองครับ” นี่คือคำตอบที่หมออธิบายกับเขา “สรุปคือชี้ชัดไม่ได้สินะว่าเธอจะกลับมาเป็นปกติได้เมื่อไหร่” “ก็...ประมาณนั้นครับ” “อืม ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณมากครับหมอ คุณไปทำงานต่อเถอะ” “ครับ งั้นผมขอตัวนะครับ” แพทย์เฉพาะทางระบบประสาทและสมองก้าวออกไปแล้ว บุญญานนท์จึงได้กลับลงไปดูคนไข้สาวปริศนาของเขาอีกครั้ง แต่ตอนนี้เธอหลับไปแล้ว ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งแล้วมองเธอนิ่ง ตอนนี้คำถามของเขามีเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องที่ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน แต่เขาจะทำอย่างไรกับเธอนับจากนี้ต่างหาก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม