4

2146 คำ
วันต่อมา 3.23 pm. (ดีแล้วลูก แบบนี้ก็แปลว่าพี่ๆเขามั่นใจในตัวหนูนะ) "ค่ะแม่ หนูเองก็จะได้ทำให้พวกเขาเห็นด้วยว่าหนูเองก็พัฒนาเหมือนกัน" (แม่ได้ยินแบบนี้ก็ดีใจ) ฉันยิ้มออกมาบางๆหลังแม่ตอบกลับมาแบบนั้น "แล้วพ่อล่ะคะ ไปไหนแล้วรึขึ้นไร่เหรอ?" (จ้า ขึ้นไปทำงานกับคนงานแล้วล่ะวันนี้เห็นว่าต้องตัดหญ้ากัน หญ้ามันรกซะเหลือเกินช่วงนี้) "พ่อเอาบูทยาวไปอยู่ใช่ไหมแม่ หนูกลัวพวกสัตว์มีพิษอยู่นะ" (พ่อเอาไปอยู่พิณไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวพ่อกลับมาแม่จะคุยเรื่องงานลูกให้ฟัง เขาคงจะดีใจมากไม่ต่างจากแม่หรอก) ฉันหัวเราะออกมาอย่างเขินๆหลังโดนแม่อวยอีกครั้ง (แล้วนี่ได้ข่าวน้องบ้างไหมพิณ ไม่เห็นโทรหาแม่หลายวันแล้ว) "เงินยังไม่หมดเลยยังไม่โทรหาแม่น่ะสิไม่ว่า" (โถ่) เสียงของแม่ทำเอาฉันต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ และพยายามข่มอารมณ์ตัวเองไม่ให้มันเสียหลังแม่พูดถึงน้องชายตัวดีของฉัน "พิณเองก็ไม่ได้คุยกับน้องนานแล้วแม่ แต่ยังไงเดี๋ยวพิณดูให้...จริงๆก็คงอยู่มหาลัยแหละช่วงนี้ช่วงสอบด้วยหนิ" (อือ ยังไงแม่ฝากน้องด้วยนะลูก ดูแลกันไปเดี๋ยวน้องก็เรียนจบแล้ว) "ค่ะแม่ เดี๋ยวใกล้ถึงเวลาแล้วหนูไปเตรียมตัวก่อนนะ" (จ้า ตั้งใจนะลูก) "ค่ะแม่ รักแม่กับพ่อนะคะ" ฉันบอกรักแม่เป็นคำสุดท้ายก่อนวางสาย และสะพายกระเป๋าอุปกรณ์การบำบัดที่ตัวเองเตรียมมา ถามว่าหนักไหมคือหนักเอาเรื่องอยู่นะแถมรอบนี้ยังไม่มีพี่ๆมาช่วยอีก วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันจะได้มาคนเดียวมีแค่รถของบริษัทที่ขับมาส่งแล้วเขาก็ขับกลับไปแล้ว ส่วนตอนกลับบ้านฉันต้องหอบของพวกนี้กลับห้องเอง คิดแล้วก็เหนื่อย ยังต้องขึ้นรถไฟหลายต่ออีก "เอาเถอะ วันนี้ก็สู้ๆแล้วกัน" เอี๊ยด.. เสียงรถที่ขับเข้ามาจอดที่ทางเข้าคอนโดตัดหน้าฉันทำให้ฉันต้องหยุดเดิน และมองรถตู้คันใหญ่ที่กำลังจอดส่งให้คนลงอยู่ ฉันยืนนิ่งรอจนรถขับออกไปก่อนจะเลิกคิ้วมองร่างสูงคุ้นตาที่กำลังเดินขึ้นไปที่คอนโด "นั้นมัน...คุณติณณ์!" ไวกว่าความคิดเพราะตอนนี้ฉันเรียกเขาไปแล้วแถมเขายังได้ยินและหันกลับมามองด้วยความสงสัยอีก ฉันเบิกตามองการแต่งตัวที่ไม่คิดว่าเขาจะแต่งด้วยความสงสัย เพราะตอนนี้เขาแต่งชุดนักศึกษาอยู่... "เรียกทำไม?" "โอ๊ะ!" ฉันสะดุ้งพร้อมกับรีบวิ่งข้ามถนนไปหาคุณติณณ์ที่กำลังยืนอยู่ "สวัสดีค่ะคุณติณณ์ พอดีพิณไม่คิดว่าจะเจอคุณน่ะเลยตกใจจนเผลอเรียก" คุณติณณ์ขมวดคิ้วมองฉันก่อนเขาจะหัวเราะในลำคออย่างขำๆ "บ้าป่าวเนี่ย" นั้นโดนด่าจนได้ ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะยิ้มให้เขาอีกครั้ง...เอาว่ะ ยังไงเขาก็คือคนที่จะช่วยให้ฉันผ่านโปรแบบไม่ต้องประเมินเลยเพราะงั้นใจดีสู้เสือหน่อย "ว่าแต่คุณติณณ์ไปไหนมาเหรอคะ ทำไมแต่งชุดนักศึกษาล่ะ?" "ไม่คิดว่ามันเป็นคำถามที่มากเกินไปหน่อยเหรอ เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นอีกอย่างเธอมาเพื่อบำบัดฉันเท่านั้นนะ" "อ่า..ขอโทษนะคะแต่การพูดคุยเพื่อสร้างความสนิทกับคุณติณณ์มันก็เป็นงานของพิณเหมือนกัน" คุณติณณ์เลิกคิ้วมองฉันก่อนเขาจะยกยิ้มมุมปากอีกครั้งพร้อมกับเอียงใบหน้ามองด้วยรอยยิ้ม...รอยยิ้มแบบพวกตัวร้ายอ่ะ "ถ้าอยากรู้ขนาดนั้นวันนี้ก็ทำให้ฉันพอใจสิ" "คะ?" "ก็ทำกายภาพบำบัดให้ฉันรู้สึกว่าอาการมันจะดีขึ้นในเร็ววันนี้ไง แล้วฉันจะบอกเรื่องที่เธออยากรู้เอง" ฉันเบิกตามองคุณติณณ์ขณะที่เขาก็เลิกคิ้วข้างเดียวมองท้าทายฉันอย่างกวนอารมณ์ เขาส่ายหน้าไปมาอย่างขำก่อนจะเดินนำหน้าไปขึ้นลิฟต์ฉันจึงรีบเดินตามแม้จะสะพายกระเป๋าพะรุงพะรังก็ตามที "รอด้วยสิคะ" "ชักช้า ฉันต้องอาบน้ำก่อนนะ" "ทราบแล้วค่ะนี่ก็รีบอยู่" "อะไรของเธออยู่ๆก็มาทำตัวยังกะว่าเราสนิทกัน" ฉันยิ้มแห้งตอบคุณติณณ์ไปที จะว่ายังไงล่ะถ้าฉันไม่สนิทกับเขาฉันเองก็หาสาเหตุของอาการเขายาก ไอ้การทำงานของฉันเนี่ยมันต้องใช้หลายทักษะอยู่นะ ทั้งหลักที่เรียนมาและหลักจิตวิทยาเพราะบางทีอาการที่เขาเป็นมันก็อาจเกิดจากสิ่งที่เขาเองก็ไม่รู้ เพราะงั้นยังไงฉันก็ต้องหาทางสนิทกับเขาให้ได้มากที่สุดแหละ เพื่อโปรการทดลองงานที่ต้องผ่าน! เวลาต่อมา แกร๊ง ฉันหันมองคุณติณณ์ที่กำลังเดินเข้ามาในห้องเขาเลิกคิ้วมองฉันที่กำลังมองเขาที่สวมแค่ชุดคลุมด้วยสายตาเบื่อหน่ายก่อนเขาจะเดินมานั่งบนเตียง "วันนี้จะนวดตรงไหนอีกล่ะ?" "วันนี้จะไม่มีการนวดค่ะ และตอนนี้พิณก็อยากให้คุณไปใส่เสื้อผ้าเหมือนเมื่อวานก่อน" "ห๊ะ ไม่นวด?" "ไม่ค่ะ" ฉันส่ายหน้าไปมาพร้อมกับมองคุณติณณ์ด้วยรอยยิ้ม "ไม่นวดงั้นเหรอ" "วันนี้คุณเดาผิด เพราะงั้นช่วยกลับไปใส่เสื้อผ้าด้วยนะคะ รบกวนด้วยค่ะ" แม้คุณติณณ์จะยังสงสัยมาก แต่เขาก็ลุกเดินกลับออกไปและกลับมาหลังจากแต่งตัวตามที่ฉันบอกไปเสร็จสรรพ "เชิญมานั่งตรงนี้นะคะ" ฉันผายมือให้เขาไปนั่งที่โซฟาก่อนจะมองตามร่างสูงที่เดินผ่านหน้าไปนั่งตามที่บอก แต่กลิ่นตัวเขาหอมจังแฮะ...ตัวหอมแบบผู้ชายเล่นกีฬา...แปลกๆละฉันว่า "ให้นั่งทำอะไร?" "นั่งให้สบายที่สุดค่ะ" "อะไรของเธอ" ฉันยิ้มออกมาบางๆก่อนจะก้มลงไปหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับโยนไปทางคุณติณณ์ "คุณติณณ์รับนะคะ" พรึบ! "เชี้ย!" ถึงคุณติณณ์จะตกใจ แต่ปฏิกิริยาการตอบสนองของเขากลับไวมากเพราะเขาหันมารับลูกบอลที่ฉันโยนไปให้ได้ทันที ฉันจึงโยนไปให้เขารับอีกหลายๆลูกติดต่อกัน ซึ่งเขาก็รับได้ทั้งหมด "ว้าว สุดยอดมากเลยนะคะเนี่ยตอบโต้ได้ดีมาก" "เฮอะ นี่เธอคิดว่าฉันจ้างเธอให้มาโยนบอลเล่นรึไงยัยบ้า!" ฉันมองคุณติณณ์ที่โยนบอลออกจากตัวพร้อมกับหันมามองฉันอย่างไม่พอใจ ขณะที่ฉันเองก็เดินไปหยิบลูกบอลมาไว้กับตัวและมองเขาอีกครั้ง "คราวนี้ตั้งใจรับนะคะ" "ทำไมฉันจะต้องตั้งใจ" "ไม่ทราบค่ะ แต่ว่าอยากให้ตั้งใจรับนะคะ" ฉันว่าก่อนจะตั้งใจโยนบอลให้คุณติณณ์ขณะที่เขาก็ยืนมองฉันพร้อมกับรับทุกลูก พรึบ! "เชี้ย!" ดวงตาฉันเบิกกว้างมองมือข้างขวาที่กำลังสั่นของคุณติณณ์ก่อนจะรีบเดินไปหยิบยานวดที่เตรียมไว้ติดมือมาหาเขา "นั่งก่อนค่ะ" "พาฉันทำบ้าอะไรของเธอวะ!?" "กำลังทดลองอะไรอยู่น่ะค่ะ แล้วก็พอได้คำตอบแล้วด้วย" ฉันตอบคุณติณณ์พร้อมกับนวดกดเส้นให้เขา ครั้งนี้ฉันนวดไล่ตั้งแต่ไหล่ลงมาจนถึงข้อมือเลย "เวลาคุณตั้งใจอาการเหมือนจะแย่ขึ้นนะคะ ตอนไม่ได้ตั้งใจทำไม่เห็นเป็น" คุณติณณ์ชะงักไปทันทีที่ฉันว่าแบบนั้นก่อนเขาจะมองสบตาฉันที่กำลังมองเขาอยู่เช่นกัน ฉันยิ้มออกมาก่อนจะมองเขาด้วยแววตาจริงจัง "ต้องหายแน่ค่ะ แต่คุณเองก็ต้องช่วยเปิดใจให้พิณด้วย...ถ้าเปิดใจรับการบำบัดพิณต้องหาสาเหตุที่อาการมันกำเริบได้แน่" "นี่เหรอวิธีการรักษาของเธอ?" "ค่ะ..มันไม่ดีเหรอคะ?" ฉันเอียงใบหน้ามองคุณติณณ์ระหว่างที่นิ้วก็กำลังกดนวดตามเส้นให้เขาอยู่ "รึพิณทำอะไรให้คุณไม่พอใจรึเปล่า?" "ไม่...เอาเป็นว่ารีบหาทางที่ฉันจะหายขาดจากอาการโง่ๆนี้เร็วๆเถอะ ยิ่งเร็วได้เท่าไหร่ยิ่งดี" "แล้วช่วงนี้คุณติณณ์ทำอะไรอยู่เหรอคะ?" คุณติณณ์มองหน้าฉันทันทีที่ฉันถามเขาแบบนั้น "ก็คุณติณณ์พูดเองนี่ว่าถ้าฉันทำให้พอใจได้คุณจะตอบ" "เธอไม่ได้ทำให้ฉันพอใจได้สักหน่อยยัยบ้า" เอ้า...ทำไมฉันโดนด่าตลอดเลยล่ะ ฉันลอบถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะเบนสายตามามองที่เส้นเลือดที่กำลังปูดที่แขนของเขาอยู่ เพราะอาการกำเริบเส้นเลือดเลยปูดขนาดนี้ แสดงว่าอาการไม่ได้เป็นเฉพาะที่ข้อมือสินะ "ช่วงนี้ฉันโดนพักซ้อมอยู่" ฉันเงยหน้ามองคุณติณณ์อีกครั้งหลังเขายอมพูดด้วย "หลังจากรักษาแผล และอาการช้ำในหายฉันก็ลงสนามซ้อมเลยแต่อาการมันแย่ลงอีกครั้ง จะฝืนก็ไม่ได้เพราะอาการมันกำเริบบ่อยจนขับรถไม่ได้" "เพราะแบบนี้เลยได้กลับมาทำกายภาพบำบัดอีกสินะคะ" "อืม ก่อนหน้าหลังรักษาหายฉันเข้าบำบัดไปแล้ว" "โอเคค่ะ แล้วตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่คะ?" "เธอยังติดใจเรื่องที่ฉันใส่ชุดนักศึกษาทั้งที่อายุมากกว่าเธออยู่สินะ" "เปล่านะคะ คือ..แต่มันก็สงสัยอยู่หน่อยๆ" เขาอายุเยอะกว่าฉันสองปีไงใครจะไม่ติดใจก็บ้าแล้ว จริงๆนอกจากจะอยากรู้เพื่อเป็นข้อมูลการบำบัดแล้วก็อยากรู้เพราะความสอดรู้สอดเห็นของตัวเองด้วยนี่แหละ "เฮอะ" คุณติณณ์หัวเราะในลำคอพร้อมกับถอนหายใจเสียงดัง "ฉันยังเรียนไม่จบไง เหลือเทอมสุดท้ายแต่ติดแข่งซะก่อนเลยดรอป" "อ่อ พอมีเวลาถึงกลับไปเรียนสินะ คุณนี่สุดยอดเลยนะคะเนี่ย" คุณติณณ์ขมวดคิ้วใส่ฉันอีกครั้งก่อนเขาจะเอนหลังไปกับพนักอิงโซฟาระหว่างที่ฉันกำลังนวดแขนให้เขา "อาการดีขึ้นบ้างไหมคะ?" ฉันถามขึ้นเบาๆหลังจากที่แขนของเขาเลิกสั่นไปแล้ว "ก็ดีขึ้น แต่นวดต่อไป" "หือ...มันยังปวดแปลบๆอยู่เหรอคะ?" "ให้ตาย" คุณติณณ์ลืมตาขึ้นมามองฉันด้วยความไม่พอใจอีกครั้งหลังฉันถามไปแบบนั้น "มันกำลังสบายนวดต่อไปเงียบๆเถอะยัยบ้า!" ฉันเม้มปากมองคุณติณณ์ทันทีที่เขาด่ากลับมาแบบนั้นก่อนเขาจะหลับตาลงด้วยความหงุดหงิด แต่ฉันไม่ใช่หมอนวดนะให้ตาย พรึบ ฉันลุกขึ้นยืนทันทีที่คิดได้แบบนั้นพร้อมกับดวงตาคมกริบที่ลืมตามองตามอย่างไม่พอใจ "เป็นบ้าอะไรของเธออีกล่ะ รึไม่อยากนวด?" "จริงๆพิณไม่ใช่หมอนวดนะคะ การทำงานของหมอนวดกับนักบำบัดคล้ายกันก็จริงแต่มันไม่เหมือนกันแน่นอน" "จะไม่นวดให้ฉันว่างั้น?" "พิณว่าถ้าจะเอาให้สบายเชิญคุณติณณ์ขึ้นนอนบนเตียงเถอะค่ะ พิณจะนวดให้ตั้งแต่หลังเลยเป็นไง" คุณติณณ์หัวเราะออกมาเบาๆก่อนเขาจะขยับลุกขึ้นยืนพร้อมกับถอดเสื้อโชว์กล้ามเนื้อเป็นมัดๆของเขาสู่สายตาฉัน "สุดท้ายฉันก็ต้องถอดเสื้ออยู่ดีถูกไหม?" "ก็..ค่ะ ดีนะคะที่พิณพกเครื่องกระตุ้นไฟฟ้ามาด้วย" "เออ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน แต่ฉันอยากให้เธอนวดด้วยมือมากกว่านะ" "อ่อ ไม่มีปัญหาเลยค่ะเดี๋ยวพิณจัดการให้" ฉันรับคำเสียงใสพร้อมฉีกยิ้มให้คุณติณณ์ที่กำลังเดินขึ้นไปนอนคว่ำบนเตียงก่อนฉันจะยกมือขึ้นทำท่าจะชกเขาลับหลังด้วยความหมั่นไส้ สั่งๆอยู่นั้น เดี๋ยวแม่ช็อตซะให้เข็ด!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม