ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงผม ไอ้ธีม พี่พีชและพี่โจต่างพากันเดินออกจากห้องอธิการบดีในสภาพคอตกไปตามๆกันเพราะเราทั้งสี่คนต่างถูกทำทันบนแต่เนื่องด้วยผมเป็นถึงเดือนคณะและมีประวัติที่ดีมาโดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อาจารย์จึงลดโทษผมและพี่พีชเป็นกรณีพิเศษเพราะพี่พีชเองก็มีความดีให้ความช่วยเหลือแก่คณะสภานักศึกษามาโดยตลอดเช่นกัน สำหรับไอ้ธีมและพี่โจอาจารย์สั่งให้พวกเขาสองคนใช้ชีวิตร่วมกันหนึ่งอาทิตย์เต็มโดยให้พี่โจย้ายของมาอยู่หอในร่วมกับไอ้ธีมสองคน เพื่อให้ทั้งสองคนได้ปรับความเข้าใจและเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างไม่มีเรื่องบาดหมางใดๆเช่นที่ผ่านมา เมื่อทั้งสองคนมาอยู่ด้วยกันแบบนี้พวกเขาจะไม่ฆ่ากันตายคาหอพักนักศึกษาเลยเหรอครับผมรู้สึกเป็นกังวลมาก ขณะที่พวกเราทั้งสี่คนกำลังเดินลงมาจากตึกอธิการบดีไอ้เคและรุ่นพี่สุดหล่อของผมคงได้ข่าวต่างก็วิ่งกันมาคนละเส้นทางตรงมาหาเราทั้งสี่คนเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
"มันเกิดอะไรขึ้นวะไอ้พีช เห็นว่าพวกมึงต่อยกับรุ่นน้องมันเรื่องอะไรกันวะ มึงอย่าบอกนะว่าเรื่องที่กูขอร้องให้มึงช่วยแล้วไอ้โจเสือกมาได้ยินพอดี" รุ่นพี่สุดหล่อของผมถามขึ้นด้วยความรู้สึกใจเสีย
"ที่พี่ได้ยินมาไม่ผิดหรอกแต่มันผิดตรงที่เพื่อนของพี่มันทำเรื่องอุบาทว์กับเพื่อนผม ผมถึงได้ต่อยมันเข้าให้ไงครับ หนำซ้ำอาจารย์ยังจะให้เพื่อนพี่มาอยู่กับผมที่หอพักนักศึกษาที่ผมพักอีกอ่ะ ผมไม่มีวันอยู่ร่วมโลกกับคนอย่างนี้หรอกทำตัวทุเรศมาก" ไอ้ธีมพูดเสริมด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเช่นเดิม
"แล้วมึงคิดว่ากูอยากจะอยู่ร่วมกับมึงเหรอไอ้รุ่นน้องปากมาก"
"แล้วพี่คิดว่าผมอยากอยู่กับพี่นักหรอ ทำตัวอุบาทว์แบบนี้อยู่ด้วยไม่ได้หรอก เดี๋ยวเผื่อวันดีคืนดีเกิดหื่นกามขึ้นมาผมจะอดฆ่าคนตายไม่ได้เปล่าๆ"
"มึงทำเป็นปากดีไปเถอะสักวันหนึ่งกูจะจับมึงปล้ำ ดูซิมึงจะกล้าปากดีแบบนี้อยู่ไหม"
"กว่าพี่จะได้ปล้ำผม พี่คงตายคาบาทาผมไปแล้วล่ะ" ผมและคนที่เหลือต่างยืนฟังรุ่นพี่และรุ่นน้องเถียงกันต่อหน้าจนผมรู้สึกรำคาญและไม่อยากมีปากเสียงอะไรเพิ่มเติมอีกจึงรีบเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้เลยว่ากำลังมีใครอีกคนเดินตามผมอยู่ กระทั่งผมเดินมาหยุดที่บริเวณด้านข้างตึกคณะเพื่อหลบหนีความวุ่นวายของผู้ชายสองคนนั้นอย่างปลงๆ
"พี่ขอโทษนะกันที่ทำให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น" ผมรู้สึกตกใจแล้วรีบหันไปหาต้นเสียงก็พบกับใบหน้าคมของรุ่นพี่สุดหล่อที่อยู่ในระยะกระชั้นชิดปลายจมูกของผมอย่างไม่ตั้งใจ ผมรีบดึงใบหน้าตัวเองออกห่างเพื่อความปลอดภัยอย่างประหม่า
"พี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับทำไมผมไม่รู้ตัว" ใจผมเต้นแรงไม่เป็นจังหวะมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมรู้สึกแบบนี้เมื่ออยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายตรงหน้า ผมพยายามรวบรวมสติที่กำลังเตลิดด้วยความตกใจกับใบหน้าคมคายของผู้ชายคนที่ผมแอบรักด้วยใจสั่นระทึก
"พี่ก็เดินตามเรามานี่แหละแล้วทำไมกันต้องเหงื่อออกแบบนั้นกลัวพี่หรอ" เหมือนตอนนี้ผมกำลังเจอคำถามแทงใจดำกับอาการที่เขาจับสังเกตได้
"แล้วผมจะกลัวพี่ทำไม ก็ในเมื่อพี่ไม่มีอิทธิพลอะไรสำหรับผมสักหน่อย สรุปที่พี่เดินตามผมมาพี่มีอะไรหรือเปล่าครับแต่ถ้าไม่มีผมจะได้เดินขึ้นตึกเพื่อไปเตรียมเรียนต่อ" ผมก็พูดทิ้งท้ายตามเดิมก่อนจะทำทีก้าวขาไปยังทางขึ้นตึกคณะนิเทศตามปกติแต่คราวนี้กลับถูกฝ่ามือใหญ่ของเขาจับเข้าที่ข้อมือของผมอยากตั้งใจก่อนที่พี่ไรเฟิลจะพูดอะไรบางอย่างออกมา
"กันจะให้พี่ทำยังไงกันถึงจะยอมรับพี่ พี่พยายามทำทุกอย่างในสิ่งที่พี่คิดว่ากันน่าจะชอบและพอใจแต่ทุกอย่างที่พี่ทำมันกลับไม่มีผลทำให้กันหันมาสนใจพี่ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว มันเป็นเพราะอะไรหรอกันกันตอบพี่ได้ไหม พี่ทำอะไรผิด ทำไมคนอื่นๆเขาก็ทำคล้ายๆพี่แต่กันกลับไม่ปฏิเสธแต่พอเป็นพี่เรากลับทำเป็นไม่สนใจ กันบอกพี่ได้ไหมสิ่งที่กันทำกับพี่อยู่ตอนนี้มันเป็นเพราะกันไม่อยากสนใจพี่จริงๆ หรือว่ากันต้องการจะทรมานให้พี่เจ็บปวดกับการถูกปฏิเสธกันแน่ กันต้องการอะไรจากพี่กันบอกพี่ดีๆสิ ทำไมต้องทำกับพี่แบบนี้ด้วย พี่ก็มีหัวใจเหมือนคนอื่นๆ พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรทำไมพี่ถึงได้ชอบและรู้สึกรักกันมากมายขนาดนี้ กันให้คำตอบพี่ได้ไหมอย่าทำให้พี่ทรมานใจมากไปกว่านี้เลยนะครับ" คำพูดที่แสดงออกถึงความรู้สึกน้อยใจและตัดพ้อของรุ่นพี่สุดหล่อของผมที่พยายามอธิบายและพรั่งพรูออกมาจากห้วงความรู้สึกของเขา ยิ่งผมได้ฟังมันทำให้ผมรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกทั้งที่อีกใจก็รู้สึกสงสารแต่ความรู้สึกสงสารมันช่างน้อยนิดนัก มันน้อยกว่าความต้องการอยากทวงคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผมให้กลับมาเหมือนเดิมและมันก็คงมีวิธีเดียวที่จะทำให้ผมกลับมามีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหมือนเดิมนั่นก็คือทำให้เขาทรมานเจียนตาย ต้องทรมานแทบเจียนตายเท่านั้นผมถึงจะหายและศักดิ์ศรีของผมก็จะกลับมาสู่ตัวผมดังเดิมเหมือนตอนที่ผมเป็นเจ้าตันตันหรือไอ้หมีควายที่เขาเคยเรียกเมื่อในอดีตและผมไม่ขอโต้ตอบและอธิบายถึงเหตุผลในเรื่องที่เขาอยากจะรู้ด้วยการเงียบและเดินกลับขึ้นตึกโดยไม่แยแสคนด้านล่าง ผมยิ้มกับตัวเองอย่างภูมิใจขณะที่กำลังย่างก้าวขึ้นชั้นบนของตึกนิเทศศาสตร์
วันนี้ช่างเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนและไม่นานไอ้ธีมและไอ้เคก็เดินตามผมขึ้นมาหลังจากที่มันเสร็จสิ้นการปะทะคารมกับรุ่นพี่เป็นที่เรียบร้อยโดยมีพี่พีชและพี่โจก็เดินเข้าไปปลอบโยนรุ่นพี่สุดหล่อของผมอย่างเห็นใจก่อนจะพากันแยกย้ายไปเรียนตามปกติ
จากเหตุการณ์เมื่อเช้านี้จึงทำให้ผมและไอ้เคต้องมาช่วยไอ้ธีมจัดห้องใหม่เพราะพี่โจต้องย้ายเข้ามาอยู่กับไอ้ธีมจริงๆตามคำสั่งของอาจารย์ฝ่ายกิจการนักศึกษาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งพี่โจเองก็มีพี่ไรเฟิลและพี่พีชเป็นธุระหาจ้างรถเช่าช่วยขนของจากหอนอกมายังหอในอย่างเอิกเกริก ระหว่างนั้นรุ่นพี่สุดหล่อของผมก็พยายามชวนผมคุยตลอดแต่ผมก็เลี่ยงที่จะไม่พูดด้วยโดยการใส่หูฟังเพื่อฟังเพลงในโทรศัพท์และผมก็รู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าพี่ไรเฟิลต้องชวนคุยผมจึงใส่หูฟังไว้ก่อนจะเข้าไปช่วยไอ้ธีมจัดของแต่ผมเปิดเสียงแค่พอได้ยินเพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุขณะจัดของแต่พอถึงช่วงที่พี่ไรเฟิลชวนคุยผมก็ทำเป็นไม่สนใจและจัดของตามปกติ ก็แอบได้ยินที่เพื่อนเขาร้องด่าเขามากมายว่าเขาเซ้าซี้ผมไม่อยากคุยด้วยก็ชวนคุยอยู่นั่นแหละอะไรทำนองนี้ ผมก็แอบสะใจอยู่ลึกๆที่ทุกอย่างเริ่มเป็นไปตามความต้องการของผมและทันใดนั้นความคิดหนึ่งของผมก็เกิดขึ้นในระหว่างที่พวกเราทั้งสี่คนช่วยกันจัดของตามสัดส่วนที่ไอ้ธีมต้องการแต่มันก็โวยตามนิสัยใจร้อนของมัน ผมที่เห็นข้าวของที่พี่โจขนมาห้องมัน ผมและพี่พีชช่วยกันพูดอยู่นานกว่าทั้งสองจะสงบศึกกัน เมื่อโอกาสมาถึงความคิดนั้นก็ปรากฏขึ้น
"น้องกันระวังครับ...โอ๊ย!" ผมค่อยๆลืมตาขึ้นก็อยู่ในอ้อมแขนของพี่พีชตามต้องการก่อนจะร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวดแล้วยกมือจับที่หัวของตัวเอง ทางพี่พีชก็กอดประคองผมและลูบคลำที่ศีรษะผมตามอาการที่ผมแสดง ส่วนคนอื่นที่ผมอยากให้เขาเห็นมากที่สุดก็หันมาพร้อมกับอาการตกใจอย่างหนักก่อนจะรีบเดินเข้ามาหาผมและพี่พีชก่อนคนอื่นๆ
"เจ็บตรงนี้เหรอครับน้องกัน"
"ครับพี่พีช ผมเจ็บหัวมากเลยครับ" ผมอธิบายถึงอาการพร้อมกับทำท่าเชิงอ้อนๆพี่พีชโดยไม่ให้สงสัยว่าผมกำลังแสดงละครอยู่และก็ไม่มีใครสงสัยจริงๆ
"ไอ้พีชกูว่าพาน้องเขาไปห้องพยาบาลเถอะเดี๋ยวกูอุ้มเอง" ทันทีที่พี่พูดจบก็เตรียมท่าจะอุ้มผม
"โอ๊ยย! ผมไม่ไปไหนทั้งนั้นผมขยับตัวไม่ได้ครับพี่พีช ให้ผมอยู่แบบนี้สักพักนะครับเพราะทันทีที่ผมขยับตัวผมจะรู้ปวดหัวจนแทบระเบิดเลยครับ"
"เอ่อ...ได้ครับน้องกันนอนนิ่งๆนะครับ พี่จะประคองเราเองครับ” ทุกคนสงบนิ่งมองผมนอนซบอกกว้างๆของพี่พีชอย่างมีความสุข จนเวลาผ่านไป
"พี่พีชครับผมรู้สึกดีขึ้นแล้วครับ ขอบคุณพี่มากนะครับที่ช่วยดูแลผม"
"ด้วยความยินดีครับน้องกัน พี่เห็นเราอาการดีขึ้นแล้วพี่ก็ดีใจแล้วล่ะ" เมื่อจบประโยคคำพูดพี่พีชผมก็ยกมือสองข้างขึ้นสวมกอดลำคอขาวๆของพี่พีชเพื่อโน้มตัวขึ้นก่อนที่ผมจะตัดสินใจหอมแก้มขาวๆของพี่พีชอย่างเต็มใจแล้วผมจะถูกพี่เขาเตะก้นไหมนะ
"ฟ้อด!!" ทุกคนตกใจกับการกระทำของผมโดยเฉพาะพี่ไรเฟิลที่มีสีหน้าแดงกล่ำ กำมือแน่น ตาแดงๆเหมือนมีน้ำใสๆเอ่อล้นดวงตาคมคู่นั้น มันช่างเป็นที่สวยงามจริงๆผมโคตรมีความสุขที่สุด พี่พีชมีอาการหน้าแดงแล้วปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าขาวๆนั้นนับว่าเป็นความโชคดีของผมที่ไม่โดนเตะอย่างที่คาดการไว้ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นยืนแล้วช่วยไอ้ธีมจัดของต่อหน้าตาเฉย จากนั้นทุกคนก็กลับมาสู่โหมดปกติเพื่อช่วยกันจัดของจนเสร็จสมบูรณ์โดยรุ่นพี่สุดหล่อของผมเขาได้เดินออกจากห้องไปหลังจากผมหอมแก้มพี่พีชไม่กี่นาที แล้วนี่เป็นเพียงบทเรียนเบาะ ๆที่พี่ไรเฟิลต้องเรียนรู้จากผม ผมยังมีบทเรียนอีกมากมายที่จะสอนเขาให้รู้จักกับความเจ็บปวดในคราวต่อๆ ไปและผมขอยืนยันเลยว่าจะสร้างความเจ็บปวดให้เขาเจียนตายได้แน่ๆอีกไม่นานนี้ พี่พีชผมขอโทษด้วยนะครับที่ใช้พี่เป็นเครื่องมือให้ผมเอาคืนพี่ไรเฟิล ผมขอโทษจริงๆครับ ผมนั่งมองเขาขณะที่พวกเรากำลังทานข้าวเย็นร่วมกันเพื่อเป็นการขอบคุณที่พวกเขามาช่วยเพื่อนผมจัดของจนเสร็จโดยไร้เงาพี่ไรเฟิลตามคาด รู้จักไอ้ตันตันน้อยไปพี่ไรเฟิลสุดหล่อของผม หึๆๆๆๆ