ผมเดินขึ้นตึกนิเทศศาสตร์เดินตรงไปยังห้องเรียนชั้นปีที่หนึ่งอย่างรู้สึกมีความสุขที่สุดเท่าที่เคยเป็นมาแต่ในใจลึกๆก็รู้สึกสงสารพี่ไรเฟิลที่ต้องมาเสียตำแหน่งเดือนคณะไป แต่ก็ช่วยไม่ได้หรอกนะ ความนิยมมันไม่ได้ยืนยาวหรือมั่นคงอะไรมากมายหรอกครับแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับผม ทำไมจู่ๆผมถึงได้มีตำแหน่งเดือนคณะคล้องคอแบบสายฟ้าแลบเช่นนี้ ทันทีที่ผมปิดประตูห้องเรียนก็มีกลุ่มเพื่อนๆในห้องต่างส่งเสียงเฮฮาแสดงความยินดีกับผมอย่างไม่ขาดสายโดยที่ผมแทบไม่ทันตั้งตัว สิ่งแรกที่ผมอยากจะรู้มากที่สุดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่ ตำแหน่งนี้ไม่ใช่ว่าใครจะได้มาง่ายๆซะเมื่อไหร่แล้วทำไมมันถึงตกมาอยู่ที่ผมได้เพียงชั่วข้ามคืน ผมก็ทักทายเป็นการขอบคุณเพื่อนๆตามเหตุการณ์ที่ควรจะเป็นในขณะที่สายตาของผมก็ทำหน้าที่มองหาเพื่อนรักทั้งสองของผมอย่างไม่ละสายตาเช่นกัน จนกระทั่งเห็นมันสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งอย่างมีอาการถึงพริกถึงขิง ผมก็สัมผัสได้ว่าเรื่องที่มันกำลังพูดถึงคงจะไม่พ้นเรื่องของผมอย่างแน่นอนผมจึงรีบเดินเข้าไปหาพวกมันหลังจากที่ขอบคุณบรรดาเพื่อนๆนักศึกษาที่แสดงความยินดีกับตำแหน่งเดือนคณะคนใหม่ของผมเป็นที่เรียบร้อย
"สวัสดีธีม สวัสดีเคพวกนายกำลังคุยอะไรกันอยู่หรออย่าบอกนะว่ากำลังคุยเรื่องของเราอยู่" ผมไปยืนต่อหน้าพวกมันสองคนก่อนที่มันทั้งสองจะเงยหน้าขึ้นมามองผมเป็นสายตาเดียวด้วยความตกใจแต่ผมก็ต้องไหลไปตามสถานการณ์ที่ควรจะเป็นต่อไปซึ่งแผนการของผมนี้หากเกิดผิดพลาดขึ้นทุกอย่างอาจจะจบ การเอาคืนและการทวงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผมจากพี่ไรเฟิลก็คงจบสิ้นเช่นกันซึ่งมันทั้งสองคนรู้ดี
"อื้มม...กูสองคนกำลังคุยเรื่องมึงนั่นแหละมันเกิดอะไรขึ้นวะทำไมจู่ๆมึงถึงได้เป็นเดือนคณะแทนพี่ไรเฟิลวะพวกกูงงหมดแล้วเนี่ย” ไอ้เคโวยใส่ผมเป็นคนแรกในขณะที่แววตาของไอ้ธีมก็แสดงออกถึงความต้องการอยากรู้ความจริงเช่นกัน พวกมึงจะรู้ไหมว่ากูเองก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน
"เราเองก็ไม่รู้เรื่องหรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นมีคนเดียวที่น่าจะตอบพวกเราได้นั่นก็คือประธานสภานักศึกษา" หลังจากที่ผมเสนอความคิดเห็นพวกมันสองคนรวมถึงเพื่อนๆภายในห้องเรียนที่จับจ้องการสนทนาของเราทั้งสามต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างพร้อมเพียงซึ่งคราวนี้ผมก็คงต้องทำหน้าที่ไปสืบหาข้อมูลด้วยตนเองอย่างนั้นหรือ เมื่อทุกคนลงความเห็นว่าควรที่จะเป็นผมเท่านั้นที่จะไปรับรู้ความจริง มาถึงจุดนี้ผมจึงตัดสินใจเตรียมเดินออกจากห้องเรียนเพื่อไปยังตึกอธิการบดีเพื่อสืบหาความจริงที่เกิดขึ้นในระหว่างนั้นประตูห้องเรียนของนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของผมก็ถูกเปิดเข้ามาและมีคณะอธิการบดีรวมถึงอาจารย์อีกหลายท่านต่างเดินกรูเข้ามาหาผมพร้อมกับนักศึกษาอีกหลายร้อยชีวิตที่ต่างพากันกรูเข้ามายังห้องเรียนของผมอย่างจ้าละหวั่นและส่งเสียงฮือฮาดังลั่นห้อง กระทั่งอาจารย์ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงอธิการบดีได้ออกคำสั่งให้นักศึกษาทุกคนอยู่ในความสงบ
"นักศึกษากรรณรส ทศนารา ซึ่งเป็นนักศึกษาใหม่ของชั้นปีที่หนึ่งคณะนิเทศศาสตร์ของเราอาจารย์และรุ่นพี่รวมถึงนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งรุ่นเดียวกัน ทุกคนต่างลงความเห็นว่านักศึกษากรรณรสมีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งเป็นเดือนคณะแทนนักศึกษา ราชภูมิ ซุ้มงามตา อย่างเป็นเอกฉันท์เนื่องจากคุณสมบัติของนักศึกษากรรณรสที่มีความเหมาะสมทั้งกิริยามารยาท ความมีมนุษย์สัมพันธ์ ความมีเมตตาจิต มีคุณธรรมและคุณสมบัติที่เหมาะสมอีกหลายอย่างที่เราทุกคนต่างสัมผัสได้ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาอันสั้นไม่ถึงวันแต่ความนิยมของนักศึกษากรรณรสก็เป็นที่ประทับใจของพวกเราทุกคน ดังนั้นอาจารย์จึงขอให้เธอขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นเดือนคณะของนักศึกษาประจำคณะนิเทศศาสตร์นับจากวันนี้เป็นต้นไปและขอให้นักศึกษาทุกคนยอมรับในการตัดสินใจของคณะอธิการบดีรวมถึงอาจารย์ทุกท่านและเพื่อนนักศึกษาทุกคนด้วยจ้ะ อาจารย์ขอแสดงความยินดีกับเธอด้วยนะกรรณรส เธอมีความน่ารักสดใสสมคำร่ำลือจริงๆ" ผมถึงกับน้ำตาคลอด้วยความดีใจแต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกสะใจที่สามารถทำตามแผนได้อีกครึ่งหนึ่ง ระหว่างนั้นสายตาของผมเหลือบไปเห็นรุ่นพี่สุดหล่อที่เพิ่งคิดจะทำร้ายร่างกายผมเมื่อช่วงเช้า พี่เขายืนกำหมัดแน่นอยู่ด้านหน้าประตูทางออกคงจะโกรธผมมากอยู่แน่ๆ ยิ่งผมได้เห็นแบบนั้นผมก็รู้สึกมีความสุขและอยากให้เขากำมือให้แน่นจนเลือดไหลโชกออกมาเลยได้ก็ยิ่งดีเพราะมันทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นกับสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับผมอย่างไร้ความปราณีและไร้หัวใจ ถึงอย่างไรผมก็ไม่ลืมที่จะยกมือกล่าวขอบคุณอธิการบดีคนสวยที่ท่านแต่งตั้งผมให้เป็นเดือนคณะอย่างเป็นทางการและคราวนี้คงไม่มีเสียงใดคัดค้านที่จะให้ผมได้ดำรงตำแหน่งอันสมเกียรติครั้งนี้แม้แต่กระทั่งพี่ไรเฟิลเองก็ตาม พิธีการแต่งตั้งเดือนคณะคนใหม่ก็เสร็จสิ้นพิธีเป็นที่เรียบร้อยผมก็กลับเข้ามาสู่การเรียนเช่นทุกๆวันแต่ที่พิเศษไปมากกว่านั้น ตลอดทั้งวันจะมีบรรดารุ่นที่ทั้งชายและหญิงจะนำสิ่งของรวมถึงดอกไม้มามอบให้ผมตลอดแทบทั้งวันอย่างไม่ขาดสายและเป็นเช่นนี้ทุกๆวันหลังจากที่ผมได้รับการแต่งตั้งเป็นเดือนคณะอย่างเป็นทางการ
เวลาผ่านไปได้เกือบสองอาทิตย์ผมก็เริ่มได้ยินข่าวถึงการเข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยกลางเทอมของผมหนาหูขึ้นรวมถึงข่าวที่เจ้าตันตันนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งที่มีรูปร่างอ้วนดำคนนั้นหายไปไหนแล้วทำไมผมถึงมาเข้าเรียนเอาช่วงกลางเทอมแบบนี้ เกิดการถกเถียงกันอย่างหนักถึงเรื่องราวและเบื้องลึกของผมเหมือนเป็นข่าว top of the town ผมเองก็ตอบคำถามกับนักข่าวซึ่งเป็นนักข่าวของมหาวิทยาลัยและก็เป็นนักศึกษาด้วยกันนั่นแหละครับที่เขามาสัมภาษณ์ถึงประเด็นร้อนแรงภายในรั้วมหาวิทยาลัยที่ผมศึกษาอยู่ ผมก็ตอบตามข้อมูลที่ผมได้วางแผนกับคณบดีที่ผมได้เคยขอความช่วยเหลือจากท่านอย่างไม่ผิดเพี้ยนเพื่อให้แผนการเป็นไปตามที่ผมตั้งใจไว้แล้วทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี รวมถึงข่าวของเจ้าตันตันนักศึกษาอ้วนดำคนนั้นด้วยโดยผมได้เพื่อนรักทั้งสองคนเป็นผู้ให้ข้อมูลแก่นักข่าวนักศึกษากลุ่มนั้นไป หลังจากนั้นทุกคนก็หมดความสนใจและข่าวของตันตันก็ได้หายไปจากสังคมนักศึกษาอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องออกแรงอะไรมากกับเรื่องนี้เพราะได้เพื่อนที่ดีนั้นเอง
จากนั้นไม่นานผมก็เริ่มได้รับข่าวดีจะไอ้เคซึ่งผมให้มันมีหน้าที่ไปสืบข้อมูลเกี่ยวกับรุ่นพี่สุดหล่อและก็ไม่น่าเชื่อว่าข้อมูลที่ผมได้รับมันจะเกินค่าที่ผมวางแผนเอาไว้เช่นนี้ พี่ไรเฟิลเริ่มไม่เหมือนเดิมเขามีมุมมองที่เปลี่ยนไป ปฏิบัติตัวเปลี่ยนไป กิจวัตรหลายๆอย่างในชีวิตประจำวันทั้งที่บ้านและที่มหาวิทยาลัยเปลี่ยนไปแทบทั้งหมดและสิ่งที่เปลี่ยนไปทั้งหมดนี้ล้วนเป็นไปในทางที่ดีขึ้น สิ่งที่ทำให้ผมแทบจะกระโดดโลดเต้นในข้อมูลเหล่านั้นก็คือ พี่ไรเฟิลเริ่มพูดถึงผมมากขึ้นในแง่ที่ดีในคำพูดที่ดีๆจนผมไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าคนที่ไร้ความเมตตาและไร้หัวใจอย่างเขาจะมีความรู้สึกแบบนี้ด้วยแต่เหนือสิ่งใดแล้ว ผลตอบรับจากแผนการของผมทั้งหมดมันทำให้ผมพอที่จะสามารถขับเคลื่อนแผนขั้นต่อไปอย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรอีกต่อไปในเมื่อเหยื่อเข้ามากินกับด้วยตัวของมันเอง อย่างนี้ผมจะปล่อยให้มันรอดออกไปอย่างปลอดภัยเพื่ออะไร สิ่งที่ผมไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
"น้องกันครับพี่เอาช็อกโกแลตมาให้ครับ" ผมรีบหันตามเสียงที่ได้ยินในขณะที่ผมกำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างตึกนิเทศศาสตร์เพียงลำพัง ผมรู้สึกตกใจและรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูกเพราะคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าผมไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือรุ่นพี่สุดหล่อของผมเอง ใจหนึ่งผมรู้สึกดีใจมากที่เขาให้ความสนใจผมแต่ความทรงจำอันเจ็บปวดของผมก็ดึงผมกลับเข้าไปอยู่ในห้วงอารมณ์ของการเอาคืนอย่างเฉียบพลัน
"ขอบคุณนะครับพี่สำหรับช็อกโกแลตกล่องนี้ ผมคิดว่าผมไม่ขอรับดีกว่าครับเพราะช็อกโกแลตมันทำให้ผมต้องรู้สึกเจ็บปวดมาจนถึงทุกวันนี้ พี่เก็บไว้กินเถอะครับไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ" ผมปฏิเสธอย่างสุภาพที่สุดเพื่อให้เกิดความแตกต่างจากตอนที่เขาเคยทำกับผมอย่างไร้ความปราณีในอดีตแต่ผมไม่อยากจะทำแบบนั้นเพราะผมยังคงต้องอยู่ในตำแหน่งนี้อีกนานที่จะจัดการทวงคืนความเป็นมนุษย์ของผมคืน