หมิงเว่ยหรานเดินออกมาตรงหน้าพระพักตร์พร้อมกับกราบทูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องเมื่อวานนี้โดยมีฉินเกาหานที่เข้าประชุมในวันนี้ช่วยเป็นพยานในเหตุการณ์ได้ดี “เป็นดังที่ท่านอ๋องตรัสมาทุกประการพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเป็นผู้ที่เฝ้าดูแลความเรียบร้อยอยู่ที่นั่น เพียงแค่เดินไปสอบถามพวกนางเท่านั้น แต่บุตรีสกุลชุนผู้นั้น เป็นผู้หาเรื่องคุณหนูใหญ่สกุลฟางก่อนพ่ะย่ะค่ะ” “เรื่องไร้สาระเช่นนี้ ไม่น่าจะมาถึงพระพักตร์ฝ่าบาทได้เลย เพราะเมื่อวานนี้ท่านแม่ทัพฉินและกระหม่อมอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย นึกไม่ถึงว่าสองสกุลที่มิได้ทำตามขั้นตอน เพียงแค่ถูกต่อว่าไม่กี่คำถึงกลับกล้านำเรื่องนี้มาทูลให้ระคายพระทัย ช่างไม่รู้จักกาลเทศะไม่สมกับตำแหน่งและความไว้เนื้อเชื่อพระทัยจริง ๆ” “ท่านอ๋อง!! พระองค์ตรัสเช่นนี้หรือว่าพระองค์ก็เห็นว่าหลานสาวของกระหม่อม…แส่ไม่เข้าเรื่องงั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ” “พวกท่านย่อมรู้ดีแก่ใจ หากอยากช่วยเหลือ