เมื่อเอริกาตัดสินใจจะฝากครรภ์ที่อื่น เธอก็ไม่ได้ไปที่โรงพยาบาลเอกสิน อินเตอร์เนชั่นแนลอีกเลย แม้ว่ามันอาจจะสามารถเรียกคืนค่าใช้จ่ายได้บางส่วน ด้วยเพราะว่าเธอไม่อยากเจอกับโจทย์ของเธอ ให้มันจบแบบนี้แหล่ะดีแล้ว เพราะเธอและเขาก็ไม่ได้มีความผูกพันใดๆ ต่อกัน เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่ควรจะมารับผิดชอบอะไรกับเธอ ส่วนเรื่องของลูกเธอจะเป็นคนรับผิดชอบเองแต่เพียงผู้เดียว
แต่สิ่งที่เธอคิดมันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะว่าวันนี้เธอมาถึงที่ทำงาน เธอก็ต้องพบกับนมกล่องหนึ่ง ซึ่งเป็นนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมทั้งผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวหลายอย่าง เอริกาไม่รู้ว่าใครส่งมาให้เธอ เพราะคนที่นี่ส่วนมากก็ไม่มีใครรู้ว่าเธอตั้งครรภ์
หญิงสาวเหลือบเห็นกระดาษโน๊ตแผ่นหนึ่งที่วางอยู่ เธอหยิบขึ้นมาอ่านด้วยความสงสัย และเมื่อเห็นเนื้อความในจดหมาย เอริกาถึงกับหน้าซีดด้วยความตกใจ เพราะในกระดาษโน๊ตบ่งบอกชัดเจนว่าของทั้งหมดมาจากพ่อของลูกเธอ เธอไม่เข้าใจเลยว่าเขาต้องการอะไร เขาจะมาสนใจเธอทำไม แบบนี้แล้วหลังจากนี้เธอคงหาความสงบไมได้อย่างแน่นอน
“นี่ใครเอามาส่งให้คะ” เอริกาต้องการรู้ความจริง เธอจึงเดินไปถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านล่าง
“มีเมสเซ็นเจอร์มาส่งครับ ผมเลยฝากคนที่แผนกคุณให้เอาขึ้นไปวางไว้ที่โต๊ะของคุณน่ะครับ ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบตอบด้วยความสงสัย
“ไม่มีค่ะ ขอบคุณนะคะ” เอริการีบตอบ ก่อนที่เธอจะเดินกลับไปที่โต๊ะด้วยความเครียด
“ไปไหนมาจ๊ะเพื่อนรัก” วิมุกตราเดินมาหาเอริกาที่โต๊ะหลายรอบแล้ว แต่ก็ไม่พบเพื่อนสนิท เธอจึงเดินวนกลับมาหาเพื่อนสนิทที่โต๊ะอีกรอบ จึงได้พบว่าเพื่อนสนิทของเธอ นั่งหน้าเครียดราวกับว่ากำลังกังวลใจกับเรื่องราวบางอย่างอยู่
“ไปที่ป้อมมาน่ะ” เอริกาตอบเสียงเรียบ แต่มันแฝงไปด้วยความกังวล
“มีอะไรหรือเปล่า” เพื่อนสนิทอย่างวิมุกตราเริ่มจับสังเกตความผิดปกติของเพื่อนได้
“ก็นายคนนั้นเขาส่งพวกนี้มาให้เรา” เอริกาเอ่ยด้วยท่าทางกลืนไม่เข้าคลายไปไม่ออก พร้อมทั้งเลื่อนของทั้งหมดให้เพื่อนของเธอดู
“นายคนไหนล่ะ” วิมุกตรายังไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนของเธอบอก