ตอนที่ 4
เห็นหน้าก็ใจอ่อน
“ทำไมนายไม่ลงไปเองวะทิน” อธิปัตย์บ่นกับทินภัทรเมื่อเขาบอกให้ตนเองลงไปบอกผู้หญิงที่อยู่ในร้านกาแฟว่าคนที่เธอต้องการนั้นทางบริษัทเขาไม่สามารถจัดหาให้ได้
“ก็ฉันไม่กล้าปฏิเสธลูกค้านี่หว่า ยังไงนายก็ช่วยหน่อยนะอธิป” ทินภัทรขอร้อง
“นายนี่นะ เปิดบริษัทให้เช่าแฟนแต่หน้าบางแบบนี้บริษัทจะไปรอดเหรอ” อธิปัตย์บ่นอย่างไม่จริงจังมากนัก
“รอดไม่รอดฉันก็เปิดได้มาเกือบสี่เดือนแล้วนะ” ทินภัทรเถียงกลับ
“ผู้หญิงที่จะให้ไปพูดด้วยเนี่ยหน้าตาเป็นยังไง”
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันเธอไม่ได้ส่งรูปมา”
“นี่นายรับลูกค้าโดยไม่ดูหน้าเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิมีผู้หญิงที่ไหนอยากจะให้เห็นบ้างแหละ ว่าตัวเองหน้าตายังไงเกิดขี้ริ้วขี้เหร่ขึ้นมาแล้วลูกน้องฉันไม่รับงานล่ะ”
“แล้วกรณีนี้ลูกน้องของนายปฏิเสธงานหรือยังไงเธอถึงต้องหาคนใหม่”
“ไม่ใช่หรอกเป็นเธอที่ปฏิเสธน่ะ ก็อย่างว่าล่ะนะการจ้างแต่ละครั้งราคาก็ค่อนข้างสูงเธอก็จำเป็นจะต้องเลือกหน่อย”
“ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมผู้หญิงจะต้องจ้างผู้ชายมาควงเป็นแฟนด้วยนะ ไม่มีก็บอกคนอื่นสิว่าไม่มี”
“เราไม่ใช่ผู้หญิงนะ เราไม่เข้าใจอารมณ์ของพวกเธอหรอกนะอธิป”
“ก็จริงนะผู้หญิงเป็นเพศที่เข้าใจยากที่สุด” อธิปัตย์เห็นด้วยกับความคิดของเพื่อนเพราะเขาเคยมีแฟนมาก่อนจึงรู้ดีว่าพวกเธอนั้นเข้าใจยากมากแค่ไหน
“ทีนี้นายก็ลงไปบอกเธอได้แล้วนะว่าทางบริษัทไม่สามารถหาคนที่เธอต้องการได้ให้”
“แล้วฉันจะไม่โดนเธอตบหน้าเอานะโทษฐานที่ไปปฏิเสธงานแบบนั้น” ชายหนุ่มเป็นกังวลเพราะเขาไม่เคยต้องทำเรื่องแบบนี้มาก่อน
“ไม่หรอกน่า” ทินภัทรเจ้าของบริษัทสานฝันรีบบอกกับเพื่อน
“แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงคนนั้นคือคนไหน”
“นายถือสัญญาของบริษัทไปสิ มันเป็นสีชมพูเด่นแบบนั้นเธอต้องเขามาทักทายนายแน่” เขาบอกอย่างมั่นใจ
“ถ้าเธอไม่เห็นฉันไม่รออยู่ตรงนั้นจนถึงเย็นเลยเหรอวะ”
“นายลงไปรอแค่ 15 นาทีถ้าผู้หญิงคนนั้นยังไม่ปรากฏตัว ฉันจะโทรบอกเธอเองว่านายมาแล้ว”
“แล้วทำไมนายไม่โทรไปตั้งแต่ตอนนี้ล่ะ” อธิปัตย์ไม่เข้าใจกับสิ่งที่เพื่อนทำเลย
“เราต้องให้ความเป็นส่วนตัวกับเธอด้วยสิ เผื่อว่าเอต้องทำใจก่อนมาเจอกับนาย”
“อะไรของกันวะเนี่ย เหลือเชื่อเลยนี่ฉันกลับมาพักผ่อนแท้ๆ แต่กลับโดนใช้งานเยี่ยงทาส”
“ไม่ต้องมาพูดมากเลยนะอธิปฉันใช้งานในเยี่ยงทาสที่ไหน นี่ก็เพิ่งไปรับมาจากสนามบินแล้วเย็นนี้ก็ว่าจะพาไปเลี้ยงเหล้าอีก ช่วยเพื่อนแค่นี้อย่าทำเป็นบ่นไปเลย”
“เออช่วยก็ช่วย รอฉันตรงนี้นะไม่ใช่ขับรถชิ่งหนีไปไหนล่ะ ฉันไม่ค่อยคุ้นเส้นทางอยู่ด้วย”
“เออน่าฉันรอนายตรงนี้แหละ โทรศัพท์มือถือนายก็เอาลงไปด้วยสิ ถ้าฉันชิ่งหนีไหนก็โทรให้คนที่บ้านมารับไม่เห็นจะยากเลย”
“ไม่ล่ะ ฉันยังไม่อยากให้ใครรู้ว่าฉันกลับมา”
“อ้าวแล้วทีนี้จะไปพักที่ไหน”
“ก็คอนโดไงฉันให้คนทำความสะอาดไว้เรียบร้อยแล้ว”
“นายคิดเหรอว่าคนที่คอนโดจะไม่ปากโป้งไปบอกครอบครัวของนาย”
“ไม่หรอกน่าฉันกำชับไว้แล้วถ้าคนที่บ้านฉันรู้ฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลย” อธิปัตย์พูดกับเพื่อนก่อนจะเปิดประตูรถแล้วลงไปยังร้านกาแฟข้างหน้า
เขายืนมองหน้าร้านอัญญาคาเฟ่แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน
ในเวลาบ่ายลูกค้าในร้านมีอยู่ประปรายเขาเลือกไปนั่งมุมในสุดแล้วเอาสัญญาวางบนโต๊ะให้มันเด่น ขณะนั้นพนักงานก็เข้ามาถาม
“คุณจะรับอะไรดีคะ”
“ขอเอสเย็นสองแก้วครับเอาแบบกลับบ้านนะ” เขาสั่งเพราะคิดว่าจะซื้อไปเผื่อทินภัทรที่รออยู่ในรถด้วย
พนักงานของร้านเหลือบไปเห็นกระดาษสีชมพูที่วางบนโต๊ะก็รีบเดินมาบอกอัญญารินทร์
“พี่อัญญาคะ ค่ะผู้ชายคนนั้นเขาถือสัญญาของบริษัทมาด้วยค่ะ กวางว่าเขาน่าจะเป็นคนที่บริษัทส่งมานะคะ”
“คนไหน”
“ก็คนนั้นไงคะ คนที่นั่งอยู่มุมในสุดเลย”
“ไม่น่าเชื่อเขาจะมารับงานนะ เขาดูดีมาก” อัญญารินทร์มองอย่างไม่เชื่อสายตาเท่าไหร่
“แต่เขาถือสัญญาสีชมพูมานะ พี่อัญญาลองไปคุยกับเขาสิเดี๋ยวกวางจะชงกาแฟให้เขาก่อน ถ้าพี่อัญญาได้ผู้ชายคนนี้มาควงเป็นแฟนรับรองว่าเพื่อนพี่อัญญาได้อิจฉากันทั้งงานแน่ๆ” กวางพูดทิ้งท้าย
“เอาละพี่จะลองไปคุยกับเขาก่อนนะ” หญิงสาวรู้สึกใจเต้นแรงมากขณะที่เดินเข้าไปหาชายหนุ่มตรงหน้า
“สวัสดีค่ะคุณมาจากบริษัทสานฝันใช่ไหมคะ” อัญญารินทร์ เอ่ยทักทายพร้อมกับรอยยิ้ม
อธิปัตย์ที่กำลังก้มหน้าอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมาตามเสียงหวานเมื่อเห็นเธอยิ้มให้เขาก็ชะงักไปเล็กน้อย
ชายหนุ่มไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่มาจ้างบริษัทของทินภัทรนั้นไม่ใช่ขี้ริ้วขี้เหร่อย่างที่เขาจินตนาการถึงเลย หญิงสาวมีใบหน้าที่สวย ผิวเธอขาวอมชมพู ดวงตากลมโตนั้นดูท่าทางจริงใจและมีความหวังทำให้อธิปัตย์ไม่รู้จะปฏิเสธเธอยังไงดี
“สวัสดีครับ ผมมาจากบริษัทสานฝัน”
“ฉันชื่ออัญญาค่ะ คุณล่ะคะ”
“อธิปัตถ์ เรียกอธิปก็ได้”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณอธิป คุณจะรับงานที่ฉันจ้างใช่ไหมคะ”
“เอ่อ....”
“คือฉันรู้ว่ามันค่อนข้างอึดอัดที่จะรับงานนี้ แต่ฉันจำเป็นจริงๆ นะคะถ้ายังไงคุณช่วยรับจ้างเป็นแฟนฉันหน่อยนะคะ ใช้เวลาทำงานไม่นานเลย” อัญญารินทร์อ้อนวอนเสียงหวานเพราะถ้าไปควงผู้ชายคนนี้ไปงานแต่งงานก็คงจะดีไม่น้อย
“เวลาไม่นานนี้ประมาณกี่ชั่วโมงครับ” อธิปัตย์ถามเพราะไม่รู้ข้อมูลการทำงานเท่าไหร่
“ก็น่าจะประมาณหกโมงไม่เกินเที่ยงคืนค่ะ ค่าใช้จ่ายก็ตามที่ฉันตกลงกับบริษัทไว้แล้วตกลงคุณจะรับงานไหม” อัญญารินทร์ถามย้ำอีกครั้งสายตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยความหวัง
“ถ้าหากผมปฏิเสธงานนี้ล่ะครับคุณจะทำยังไง” ชายหนุ่มถามออกไปเพราะอยากรู้ว่าหญิงสาวจะทำยังไงต่อ
“ถ้าคุณปฏิเสธฉันก็คงไปหาเจ้าอื่นค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยความรู้สึกผิดหวังเธออยากให้เขารับงานนี้เพราะเขาเป็นผู้ชายที่ดูดีทุกกระเบียดนิ้วถ้าเพื่อนๆ เห็นคงจะต้องอิจฉากันแน่ๆ
“ตกลงผมจะรับงานของคุณก็ได้”
“ถ้างั้นเราเซ็นสัญญากันเลยได้ไหม” หญิงสาวดีใจมากที่เขาตอบตกลงและเธอก็อยากจะรีบทำสัญญาเพราะกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจ
“ผมว่าเอาไว้วันหลังดีกว่าพอดีในสัญญามันเขียนชื่อผมผิดนะเดี๋ยวผมจะมาพรุ่งนี้ใหม่อีกครั้ง” อธิปัตย์หยิบสัญญาบนโต๊ะมาถือไว้เพราะกลัวหญิงสาวจะเห็นว่าบนนั้นไม่มีชื่อใครอยู่เลย
“ก็ได้ค่ะถ้ายังไงพรุ่งนี้คุณมาช่วงเย็นได้ไหมเรา อาจจะต้องทำความรู้จักกันนิดหน่อยร้านฉันปิดประมาณ 5 โมงเย็นค่ะ คุณมาสักห้าโมงครึ่งก็ได้นะคะ ฉันอยากคุยกับคุณตอนที่ไม่มีลูกค้าคนอื่นอยู่ในร้าน”
“ได้สิถ้างั้นพรุ่งนี้ตอนเย็นผมจะมานะ”
“ค่ะ กาแฟสองแก้วนี้ถือว่าฉันเลี้ยงคุณก็แล้วกันนะคะ” อัญญารินทร์รับกาแฟมาจากมือของกวางแล้วส่งให้ชายหนุ่มตรงหน้า
“ขอบคุณมากครับ”