แม้แสงจันทร์นวลผ่องกระจ่างตาทว่าร่างบางกลับรู้สึกเหงาใจ เมื่อปกติมักมีเสียงจอแจจากเจ้าตัวแสบก่อกวนไม่ให้เข้านอน โชคดีเมื่อครู่ยังได้คุยกับภูตะวันเพื่อคลายความคิดถึง อีกแค่ไม่กี่วันก็สำรวจสถานที่เสร็จเรียบร้อยคงได้พบลูก คิดดังนั้นจึงเอาเสื้อผ้าวางพาดตรงเก้าอี้ มองดูนาฬิกาถอนหายใจช้า ๆ เธอพะวงว่าเมื่อไรพนักงานจะมาเสียที เข็มหมุนใกล้เลขสิบเอ็ดเฉียดสิบสองบ่งบอกเวลาใกล้เที่ยงคืน
“ทำไมยังไม่มานะ หรือเขาลืม” ริมฝีปากกระจับบ่นพึมพำ หมายคว้าเครื่องมือสื่อสารจะติดต่อข้างล่างตามเลขที่น้ำหวานให้ไว้ แต่เสียงเคาะประตูหนัก ๆ ดังขึ้นถี่ระรัว
ก๊อก! ก๊อก!
ปรายดาวจึงสาวเท้าจ้ำอ้าวเดินไปทันที ส่องดูตาแมวเพื่อตรวจตราความเรียบร้อยอย่างละเอียดรอบคอบ ไม่มีใครยืนอยู่หน้าห้องแต่สิ่งของถูกวางไว้ คิดในแง่ดีจึงเปิดประตูขึ้นทันใด สุดท้ายคนที่ไม่ปรารถนาพบเจอที่สุดใช้แรงหนัก ๆ จู่โจม สองเท้าเกี่ยวปิดประตูอย่างถนัดถนี่
“ไงปราย”
ภวัฒน์แสยะยิ้มร้ายทักทายราวปีศาจ ร่างสูงก้าวรุกรานเธอเชื่องช้า แต่กลิ่นฉุนจากแอลกอฮอล์แตะเข้าจมูกอย่างจัง
“ถอยไป ไม่งั้นฉันจะเรียกให้คนมาช่วย!”
แม้หวาดกลัวสุดกู่หากแสร้งปั้นหน้าดุดันตอกกลับไม่ลดละ ความกังวลพุ่งละลิ่วสูงขึ้นเรื่อย ๆ เวลานี้อยากลาลับหายไป เพราะคนพาลแบบเขา…ไม่น่าสนทนาด้วยสันติวิธี
“เอาดิเรียกดัง ๆ เลย ผมก็อยากรู้เหมือนกันคนอื่นจะทำหน้ายังไง” ภวัฒน์ไล่มองด้วยแววตาจาบจ้วง “ถ้ารับรู้ถึงเรื่องลับ ๆ ของเรา!” นิ้วชี้เลื่อนไล้ท่อนแขนขาวจนปรายดาวสะบัดออก
เพียะ!
ฝ่ามือสาวลงน้ำหนักจนรอยแดงปรากฏชัดบนใบหน้าคมเข้ม
“คุณมันเหลือทน ทำไมไม่นึกถึงใจคุณนิชาบ้าง” เธอโพล่งถามขณะนัยน์ตาพยายามหาทางหลบหลีก
“รู้หรือเปล่าเธอรักคุณ แต่ก็กลายเป็นเจ้าสาวที่น่าสงสารที่สุด เพราะการกระทำเลว ๆ ของว่าที่เจ้าบ่าว!”
“ผมไม่สนใครทั้งนั้น คุณจะอ้างนู้นอ้างนี่ให้เปลืองน้ำลายทำไม แค่บอกว่ารักผัวใหม่มากกว่าผัวเก่าก็จบ” ภวัฒน์คว้าหมับยังเรียวไหล่บาง น้ำเสียงแหบพร่าแทบตะโกนใส่ เพราะเริ่มหัวเสีย
“ทุเรศ เพราะความคิดต่ำ ๆ แบบนี้ไง ฉันถึงได้เกลียด”
“เกลียดผมงั้นเหรอ!” นัยน์ตาคมกริบจ้องเขม็งประหนึ่งกินเลือดกินเนื้อ
“ใช่ ออกไปให้พ้น ๆ หน้าสักที อยู่ใกล้คุณแค่นี้ ฉันยังรู้สึกขยะแขยง!”
“เกลียดมากก็ลองลิ้มรสชาติผัวเก่าหน่อยละกัน!” ถ้อยคำจากริมฝีปากหยักเล่นเอาเธอขนลุกซู่ทั่วเรือนกาย มือป้องกันทุบตีสุดแรงยามคนตัวโตอุ้มไปในทิศทางที่ปรารถนา
“ปล่อยเดี๋ยวนี้!”
“ปล่อยแน่!” เขายิ้มพรายเจ้าเล่ห์ แต่ไม่ทิ้งละอองเยือกเย็น
“แต่ปล่อยบนเตียง”
อดีตคนรักโยนร่างอรชรกระแทกเตียงคิงไซซ์ขนาดกว้าง ปรายดาวจุกจนเอื้อมมือกุมท้องน้อยแสดงอาการเจ็บปวด แต่มีหรือซาตานร้ายจะแยแส เขาทุ่มกายทาบทับทันที
“คืนนี้แหละผมจะทำให้คุณลืมไม่ลง!” สัญชาตญาณชี้ชัดถึงอันตราย ปรายดาวจึงยกขาหมายถีบร่างหนาให้กระเด็นแต่ไร้ประโยชน์ เพราะคนฉลาดรู้ทันแกม
“ชอบความรุนแรงก็ไม่บอก”
“คุณมันสารเลว!”
“เออผมมันเลว เป็นได้ทุกอย่างแหละที่คุณอยากให้เป็น” เขาไม่ปฏิเสธแถมยื่นอกรับคล้ายภาคภูมิใจ
“รับรองหลังจากนี้คุณจะกลับมารักผมเหมือนเดิม!”
“ทุเรศ จะใช้เซ็กซ์ผูกมัดฉัน คิดว่าเรานอนด้วยกันอีกครั้งมันจะเหมือนเดิมหรือไง!”
น้ำเสียงหนักแน่นยิ่งกว่าหินผาเล่นเอาใจแกร่งสั่นสะท้าน แต่อย่างไรเขาก็จะปราบพยศเธอจนสุดทาง ให้มันรู้ต่อให้วันนี้ไม่เหลือรักแต่อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน!
“ผมเป็นคนชอบความท้าทาย ถ้าไม่รักก็อยู่กันทั้งที่เกลียดนี่แหละสนุกดี!” เพ่งพิศมองดูใบหน้างดงามอีกครั้ง สาวน้อยบริสุทธิ์อ่อนหวานแปรเปลี่ยนเป็นเด็ดขาดฉับพลัน เธอทิ้งคราบโศกเศร้ามีเพียงเขาซึ่งจำฝังใจ
“เริ่มเหอะ อยู่ใกล้คุณมาก ๆ ผมเครื่องร้อนทุกที!”
ปรายดาวเบิกตากว้าง ทั้งร่างดิ้นรนเมื่อริมฝีปากหนาซุกไซ้ซอกคอ สัมผัสแผ่วผ่าวทำเอาเธอทุรนทุรายปวดร้าว อยากขูดเนื้อตนเองออกมาเป็นชิ้น ๆ เพราะรังเกียจชายเบื้องบนสุดใจ
“ปล่อยฉัน!!” มือข้างหนึ่งทุบตีแผ่นอกแกร่ง กลิ่นน้ำหอมเยือกเย็นชวนเหม็นน่าสะอิดสะเอียน
“ฮะ…ฮึก ปล่อยสิ”
คนใจร้ายไม่คิดหยุด เขาพยายามประกบจูบหากดวงหน้ามนไม่ร่วมมือ น้ำตาเปียกชื้นไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง
ท่าทางรังเกียจเดียดฉันท์ทำภวัฒน์ชะงักค้างกลางอากาศ เธอหันหาม่านหน้าต่างราวผู้ชายคนนี้เป็นสัตว์เดรัจฉาน
“ปราย…” ลุกขึ้นทันควัน เพราะลึกแล้วไม่อาจทำร้ายผู้หญิงคนนี้ได้อีกครั้ง สุ้มเสียงร้องไห้ ทีท่าราวแตกสลายเล่นเอาเขาปวดหนึบทั้งใจ แสบร้อนกลางอกไม่ต้องถามหาสาเหตุ…
…ทั้งหมดเป็นเพราะ ‘รักเธอ’ กล่องความทรงจำแสนหวาน ภวัฒน์ไม่เคยเลือน
“ผมขอโทษ” มือสากปรารถนาเช็ดน้ำตาก็ถูกปัดป่าย ภวัฒน์เพียงหรี่มองอีกฟากหนึ่ง กำหมัดแน่นไม่ต่างกับคนขี้แพ้
เขาแพ้ให้พลรบหมดรูป… ปรายดาวไม่เคยเปลี่ยนใจจากหมอนั่น เธอยังซ่อนมันไว้ตลอดเวลา
“คุณยังเหมือนเดิม เสมอต้นเสมอปลาย”
“หมายความว่ายังไง” มองดูคนที่รักลูบกายเร็ว ๆ คล้ายเหยียดหยาม ผู้ชายคนนี้มันสกปรกนักหรือไง เธอถึงทำราวใกล้ขาดใจ เห็นดังนั้นจึงโน้มหน้าเข้าใกล้ก่อนเอ่ยช้า ๆ ว่า…
“ใจคุณไงตั้งแต่วันแรก”
“…” ปรายดาวเม้มริมฝีปาก
“หรือแม้กระทั่งคืนนั้นก็ยังเหมือนเดิม”
ว่าพลางหมุนกายจ้ำอ้าวปิดประตูดังสนั่น สุ้มเสียงเย็นชาคลายผนึกความทรงจำ รู้อีกทีนัยน์ตาแสนหวานพลันแดงก่ำ สมองหวนนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านแม้ยาวนานเต็มที ต้นเหตุรักร้าวรัดกุมหัวใจซ้ำ ๆ ปรายดาวไม่อาจลืมฝันร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับลูกผู้หญิงคนหนึ่ง…
ไม่มีวัน!
หลายปีก่อน…
ปรายดาวสูดลมหายใจเข้าปอด มือบางถือกล่องไม้ผูกโบกระจิ๋วย่ำอยู่หน้าคฤหาสน์กว้าง เพราะต้องการเวลาทำใจอยู่หลายนาที กว่าจะพาตนเองมาถึงที่นี่นอนคิดทั้งคืน อย่างไรวันนี้ก็วันเกิดเขา… พลรบควรได้รับของขวัญสักชิ้น เดี๋ยวจะหาว่าน้องคนนี้ใจดำ!
แม้อีกไม่กี่เดือนชายหนุ่มใกล้จบการศึกษา พี่ชายคู่กัดยังไม่มองหน้าเหมือนเดิมตั้งแต่รู้ข่าวว่าน้องน้อยคบหากับคู่อริ
เขาออกตัวหมายเอาเรื่องภวัฒน์สุดฤทธิ์ เพราะมั่นใจว่า หมอนั่นวางแผนทุกอย่างไว้ทั้งที่ฝ่ายตอบรับความสัมพันธ์คือปรายดาว หนุ่มปากร้ายเข้ามาทำความรู้จักผ่านชมรมปลูกป่าของมหาลัยฯ เขาพิสูจน์ให้หญิงสาวเห็นเกือบปีว่าตนจริงจังแค่ไหน ภวัฒน์เปิดเผยหลายแง่มุมที่คนตัวเล็กไม่เคยรับรู้ เขาอ่อนโยนเพียรทำทุกอย่างให้ปรายดาวเปิดใจ กระทั่งเธอยอมก้าวไปข้างหน้า เมื่อไม่อาจจมอยู่กับความผูกพันวัยเด็กจนไม่กล้ามีชายใดในชีวิต
แม้ครั้งหนึ่งเคยรู้สึกดีกับพลรบแค่ไหนแต่หยุดชะงักยาม ‘รินรดา’ ปรากฏกาย หล่อนคือเพื่อนใหม่แถมยังสอนบทเรียนให้หญิงใสซื่อเรียนรู้ว่าโลกนี้ไม่มีแค่ ‘พี่รบ’ และ ‘น้องปราย’ เมื่อใครบางคนที่พลรบประทับจนอยากเลื่อนเป็นคนรักในอนาคตมาขอร้อง
รินรดาบีบน้ำตาขอให้ปรายดาวถอย หล่อนเล่าว่าพลรบ อึดอัดเพราะต้องดูแลอีกคนในสถานะน้องสาวจนไม่มีเวลาสานสัมพันธ์…
‘อ่าวหนูปราย’ แพรทองยิ้มทักทายร่างบางในชุดเดรสสีหวาน
‘สวัสดีค่ะคุณน้า’ คนมารยาทงามยกมือกระพุ่มไหว้ผู้ใหญ่
‘มาหาตารบใช่ไหมลูก อยู่ทางสระนู้น’
ท่านเหลือบมองหลังแปลงดอกไม้ แต่ไม่อธิบายทิศทางต่อ เพราะปรายดาววิ่งเล่นที่นี่ตั้งแต่วัยกระเตาะ
‘พอดีปรายเอาของขวัญมาให้พี่รบ ขอบคุณมากนะคะ’
ร่ำลาท่านอย่างเร่งรีบเมื่อได้รับข้อความจากภวัฒน์ก่อนมาที่นี่ว่าคนรักมีเรื่องมีราวที่ผับชื่อดัง ปลายเท้าจ้ำอ้าวมุ่งตรงยังจุดหมาย ทว่าไม่ทันได้มอบให้ราวกับโลกหยุดหมุน
สองร่างมอบจุมพิตให้แก่กันทำเอานัยน์ตาหวานนิ่งสงัด น้ำข้างในจะไหลก็ไม่ไหล ปรายดาวเพียงผสานมือปิดกั้นทุกความรู้สึก กระนั้นคนไม่มีสิทธิ์ก็ยังวางกล่องไม้ไว้บนโต๊ะ เพราะอยากให้ของขวัญเขาอยู่ดี แต่ถ้ารบกวนตอนนี้…
เธอไม่กล้า
หมุนกายก้าวออกจากคฤหาสน์เมื่อได้รับแจ้งเตือนอีกระลอกหนึ่ง ภวัฒน์ส่งข้อความมาว่าเขาบาดเจ็บจนปรายดาวต้องโบกรถแท็กซี่ และส่งโลเคชันให้พลขับ
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงที่หมาย คิ้วเรียงสวยขมวดเป็นปม ไม่เห็นเป็นอย่างเขาอ้างสักนิด เหล่าผีเสื้อราตรียังคงโยกย้ายสนุกสนานเช่นเคย
เมื่อเหล้าเข้าปากทีไรภวัฒน์ชอบโกหกตลอด เห็นทีต้องสั่งสอนให้เข็ด เดินเข้าไปหาโต๊ะโซนวีไอพี เพราะคนอย่างภามตระเวนที่ไหนไม่เคยธรรมดา
‘พี่ภามหลอกปรายทำไมเนี่ย!’ เจอตัวต้นเรื่องก็ลงมือตีแขนหนัก ๆ จนเพื่อนเขารอบข้างผิวปากแซว
‘ก็คิดถึง ถ้าบอกความจริงปรายคงไม่มาหรอกที่แบบนี้’
เขาดึงให้เธอนั่งข้าง ๆ ท่อนแขนกำยำยกขึ้นสั่งเครื่องดื่มอัตโนมัติ ไม่กี่นาทีแก้วแอลกอฮอล์ถูกเสิร์ฟชุดใหญ่
‘ปรายไม่ดื่ม’ เมื่อเขายื่นแก้วเธอก็โบกไม้โบกมือปฏิเสธ
‘ไม่ต้องห่วงน่าปราย พ่อไอ้กันย์เป็นหุ้นส่วนที่นี่’
ภวัฒน์อธิบายคล้ายติดรำคาญ เพราะท่าทีของคนรักเล่นเอาเพื่อนทั้งโต๊ะส่งสายตาล้อเลียน
‘แต่ปราย…’
‘ดื่มฉลองให้พวกพี่หน่อยนะน้องปราย’ กันย์ดันแก้วทรงสูงผ่านโต๊ะกระจก
‘เดี๋ยวคนอื่นจะว่าเอาได้ว่าแฟนไอ้ภามเหมือนเด็กประถมต้องดื่มเฉพาะนมก่อนนอน’
เสียงทุ้มฟังดูก็รู้ว่าแดกดัน แท้จริงปรายดาวไม่สนิทกับพวกเขาเท่าไรนัก แต่เพราะไว้ใจภวัฒน์เธอจึงยอมมา
‘นิดเดียวน่าปราย สนุก ๆ’
ภวัฒน์หยิบแก้วขึ้นมาจ่อริมฝีปากกระจับ ปรายดาวกลืนน้ำลายลงคอแทบไม่ทันแต่ยอมทำตามเพราะไม่คิดอะไร จากแก้วที่หนึ่งเปลี่ยนไปเป็นแก้วแล้วแก้วเล่า…
สุดท้ายตื่นมาก็พบว่าตนเองถูกคนรักแบกไปยังห้องสีเหลี่ยมชั้นบนของร้าน ภวัฒน์ไม่ได้พาเธอกลับบ้าน เสื้อผ้าหลุดลุ่ยกระจัดกระจายอยู่บนพรมสีแดง ส่วนอีกฝ่ายนอนเปลือยกายทั้งยังไม่รู้สึกตัว…
เลือดแดงฉานไหลเปรอะผ้าปูที่นอนสีขาว ปรายดาวหน้าซีดตัวสั่นอยากทึ้งศีรษะตนเองนัก ทำไมถึงปล่อยให้เรื่องผิดพลาดแบบนี้มันเกิดขึ้นได้…
เอี้ยวมือไปปลุกชายหนุ่มก็สะบัดออกคล้ายรำคาญ มองดูหน้าจอโทรศัพท์พบว่าสายของมารดามากกว่ายี่สิบสาย ท่านกระหน่ำโทร. มาทั้งคืน
เมื่อรอไม่ไหวจึงตัดสินใจพาร่างอันปวดร้าวกลับบ้าน แม้ใจกลางดอกไม้งามเจ็บเพียงใดแต่ก็กล่ำกลืนฝืนทน เมื่อถึงบ้าน คนรักก็ส่งข้อความย้ำนักย้ำหนาว่าอย่าลืมกินยาคุมจนคนไม่ประสีประสาทำตาม ความผิดพลาดยามค่ำคืนตามหลอกหลอนจนเธอต้องปิดกั้นตนเอง
‘ฮะ…ฮึก แกมันง่ายปราย’
ขูดผิวขาวผ่านม่านน้ำฝักบัว ชำระร่างกายนานนับสองชั่วโมงปล่อยน้ำตารินไหลราวเขื่อนแตก เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์สิ่งที่เธอหวาดกลัวที่สุดพลันเกิดขึ้นจริง!
รูปถ่ายปรายดาวนอนกับผู้ชายคนหนึ่งแปะทั่วมหา’ลัย ใบหน้าหล่อเหลาถูกเบลอด้วยโมเสกจนจำไม่ได้ว่าคือใคร คนที่เสียหายมีแค่เธอ ช่วงเวลาทุกข์ทรมานเหล่านั้นทำให้ปรายดาว ได้ยินนักศึกษาพูดกันปากต่อปาก พวกเขาเล่าว่าหนุ่มไฮโซแค่พนันชิงหัวใจคนสนิทพลรบเพื่อแก้แค้น!
ความจริงกระแทกใส่หน้าจนชา ทั้งพยายามเปิดใจรับเขา เข้ามา สุดท้ายสิ่งที่ได้คือแค่คำลวง…
ภวัฒน์ที่หญิงสาวรู้จักไม่ใช่ตัวจริง คนใจร้ายฆ่าชีวิตลูกผู้หญิงคนหนึ่งให้ตายทั้งเป็น!
ปรายดาวถูกระงับการสอบ เธอโดนอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกไปคุยเรื่องความประพฤติจนเรื่องถึงหูพลรบ พี่ชายคู่กัดแทบเหาะมาหา เขาพาคนถูกกระทำไปพบซาตานเพื่อตัดขาดความสัมพันธ์…
แต่ภวัฒน์หน้าด้านถามเธอกลับว่าจะลืมเขาได้จริงหรือ ลืมความผูกพันระหว่างเราง่าย ๆ ใช่ไหม คราแรกปรายดาวยั้งคิดชั่วครู่ แต่ใจดวงน้อยร้องตะโกนอย่างไรก็ให้อภัยการกระทำเลวร้ายนี่ไม่ได้เด็ดขาด
นั่นคือจุดจบของความสัมพันธ์ แม้หลังจากนั้นผ่านไปเพียงหนึ่งเดือนกลับพบว่าตนเองตั้งท้องลูกของเขาก็ตามที
ปรายดาวสูญเสียทุกอย่างจากการรู้จักผู้ชายคนนี้ เธอต้องหยุดเรียนกะทันหันจบช้าไปหลายปี แต่ที่ทรมานเกินพรรณนาคือมารดาต้องรับกรรมจากคำลวง!
“เป็นกำลังใจให้แม่ด้วยนะน้องภู”
มือสั่น ๆ หยิบรูปถ่ายคู่ภูตะวันและพ่อในกระเป๋าสตางค์พร้อมบรรจงจูบ โชคดีของดาวอับแสงซึ่งมีดวงตะวันคอยเคียงข้าง… วินาทีที่มองใบหน้าจิ้มลิ้ม แววตาใสแป๋ว เสียงร้องก้องห้องคลอด เธออุ่นซ่านไปทั่วอณูของร่างกาย
ชื่อของลูกชายจึงมีความหมายดั่งพระอาทิตย์เพราะเขาคือแสงทองสาดส่องหล่อเลี้ยงหัวใจมารดาตั้งแต่แรกเจอ