ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง หญิงสาวมองใบหน้าคมคายที่เรียบเฉยแม้ว่าอีกฝ่ายจะพูดเรื่องที่เธอไม่คุ้นชินอย่างตื่นตระหนก จู่ๆ ลำคอแห้งผากขึ้นมาฉับพลัน นัยน์ตาสีฟ้าครามที่มองมาฉายชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดเล่น นั่นทำให้ร่างบางจำต้องกลืนน้ำลายเหนียวหนึบลงคออย่างยากลำบาก
“ว่าไงล่ะ คุณพร้อมแล้วหรือยัง”
เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่จ้องหน้าด้วยท่าทางตื่นกลัว หญิงสาวมองเขาอย่างหวาดระแวงตอนที่ร่างสูงนั่งลงข้างๆ เธอ แม้จะเว้นระยะห่างระหว่างกันพอควรแต่นั่นไม่ได้ช่วยให้ความหวาดหวั่นในอกของหญิงสาวลดลงเลย
“ถ้าคุณไม่ตอบผมจะถือว่าคุณพร้อมแล้วนะพระจันทร์”
นี่เป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายเรียกชื่อเธอ พระจันทร์ไม่อาจห้ามปรามกล้ามเนื้อในอกซ้ายที่กำลังเต้นถี่ขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุได้เลย หญิงสาวรู้สึกวูบไหวแปลกๆ จนกระทั่งตอนที่ใบหน้าคมเข้มเคลื่อนเข้ามาใกล้จนดวงหน้าเนียนใสสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อน ร่างบางผงะไปด้านหลังก่อนจะบอกเสียงตะกุกตะกัก
“อะ เอ่อ พระจันทร์ขอเวลาอีกนิดได้ไหมคะ”
เอเรียสยังคงทิ้งใบหน้าของตนไว้ที่เดิม ในขณะที่ดวงตาสีฟ้าครามยังคงจับจ้องที่ดวงหน้าเนียนใสที่มีรอยริ้วแดงพาดผ่านบริเวณพวงแก้ม ก่อนจะหยุดสายตาที่ดวงตาคู่สวยที่กำลังไหวระริก
“ทำไม”
พระจันทร์มองใบหน้าคมคายของเจ้าของคำถาม นัยน์ตาสีฟ้าครามที่จ้องเธออย่างไม่วางตานั้นทำให้หญิงสาวรู้สึกประหม่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หญิงสาวยอมรับว่าตอนนี้เธอกำลังรู้สึกร้อนที่ใบหน้า และไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไร สุดท้ายก็ได้แต่เม้มเรียวปากสีชมพูเรื่อเข้าหากันแน่น
“ว่าไงล่ะ เหตุผลคืออะไร”
เอเรียสถามเสียงเรียบ หากแต่ดวงตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวอย่างคาดคั้น และพระจันทร์เองก็ทราบว่าไม่อาจเลี่ยงที่จะตอบคำถามของอีกฝ่ายได้
“พระจันทร์แค่อยากจะขอเวลาอีกสักหน่อย เอ่อ พระจันทร์หมายความว่าเราเพิ่งจะเจอกัน อยากขอเวลาให้เราได้คุ้นชินกันมากกว่านี้อีกสักหน่อย ได้ไหมคะ”
ดวงตาคมกริบยังคงจับจ้องที่ใบหน้าเนียนใสที่ขึ้นสีแดงจางราวกับกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง พระจันทร์ทำได้เพียงจ้องใบหน้าคมคายที่ห่างจากใบหน้าของตนไม่มากนักอย่างรอคอยคำตอบ แต่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าในอกเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น หากอีกฝ่ายไม่ใจดี เธอก็คงทำอะไรไม่ได้
“คุณต้องการเวลานานแค่ไหน”
ประกายแห่งความหวังฉายชัดในดวงตากลมโตสีดำขลับเมื่อประโยคดังกล่าวออกมาจากริมฝีปากหยักสวย เรียวปากสีเรื่อที่เม้มเข้าหากันแน่นค่อยๆ คลายออก
“หนึ่งเดือนได้ไหมคะ”
“นานเกินไป”
“ถ้าอย่างนั้นก็สามสัปดาห์ก็ได้ค่ะ”
“ผมให้แค่สัปดาห์เดียว”
น้ำเสียงเด็ดขาดทำให้พระจันทร์ไม่กล้าโต้แย้งใดๆ อีก หญิงสาวทำเพียงพยักหน้ารับหงึกๆ แม้ว่าเวลาเตรียมใจจะน้อยนิด แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเวลาให้เตรียมใจเลย
“เอ่อ พระจันทร์ง่วงนอนแล้ว ขอนอนเลยได้ไหมคะ”
“ได้ แต่ก่อนนอนผมว่าเราควรทำความรู้จักกันอีกสักหน่อย คุณจะได้คุ้นชิน”
“ยังไงคะ”
พระจันทร์ถามอย่างพาซื่อ ดวงตากลมโตยังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าหล่อเหลา ทว่ากลับไร้คำตอบจากร่างสูง มีเพียงใบหน้าของเขาเท่านั้นที่เคลื่อนมาใกล้ใบหน้าของเธอ ใกล้เสียจนหญิงสาวสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่กำลังรินรดลงบนปลายจมูกและริมฝีปาก ร่างบางผงะทำท่าจะขยับถอยห่าง แต่อีกฝ่ายไม่ยอมให้เธอได้ทำแบบนั้น ท่อนแขนแกร่งข้างหนึ่งตวัดรอบเอวบางเอาไว้ ก่อนจะยกเอาคนตัวเล็กกว่าขึ้นมานั่งบนตัก
“หนะ ไหนบอกว่าจะให้เวลากันไงคะ”
พระจันทร์ทวงถามเสียงสั่น ร่างกายของหญิงสาวเกร็งเครียดตอนที่ถูกวงแขนแข็งแรงโอบรัดเอาไว้ ดวงตาคมกริบจับจ้องที่ดวงหน้ารูปไข่ที่มีเส้นผมยาวสลวยล้อมกรอบหน้า ขนตาเป็นแพงอนงามรับกับดวงตากลมโตสีดำขลับดุจดวงตาของกวางสาว ปลายจมูกที่เชิดรั้นนิดๆ รับกับเรียวปากอวบอิ่มสีชมพูเรื่อ พวงแก้มทั้งสองข้างที่กำลังขึ้นสีแดงเข้มนั่นทำให้ให้ยากต่อการละสายตา กลิ่นกายหอมละมุนอย่างเป็นธรรมชาติยิ่งทำให้เลือดในกายหนุ่มของเอเรียสเดือดพล่าน แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงรู้จักยับยั้งชั่งใจ
“ผมก็แค่จะจูบ เพราะนั่นจะทำให้เราคุ้นชินกันเร็วขึ้น”
คำพูดราบเรียบที่ออกมาจากริมฝีปากหยักสวยนั้นไม่ช่วยให้พระจันทร์วางใจได้เลย กลับกลายเป็นว่าทำให้ร่างเล็กที่นั่งทับตักแกร่งเกร็งเครียดมากยิ่งขึ้น ดวงตาคู่สวยยังคงไหวระริก กลีบปากนุ่มเม้มเข้าหากันแน่นอย่างประหม่า แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็ไม่อาจปฏิเสธความปรารถนาของคนตรงหน้าได้
เธอทราบดีว่าอยู่ตรงนี้เพราะอะไร
และเธอคงต้องทำหน้าที่นั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกสูดลงไปในปอดก่อนที่ริมฝีปากอวบอิ่มจะค่อยๆ คลายออก ดวงตาสองคู่ยังคงสบประสานกัน พระจันทร์ค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงตอนที่ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนเข้ามาใกล้อีกครั้ง จนกระทั่งปลายจมูกคมสันแตะลงบนปลายจมูกเชิดรั้นของหญิงสาว เพียงเสี้ยววินาทีต่อมาริมฝีปากของทั้งคู่ก็แนบชิดกัน หญิงสาวสะดุ้งตัวน้อยๆ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ต่อต้าน
เอเรียสขบเม้มกลีบปากนุ่มทั้งเรียวปากบนและล่างสลับกันเบาๆ คล้ายหยอกเย้า แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่ทำให้หัวใจของคนถูกกระทำเต้นแรงราวกับจังหวะรัวกลอง ความรู้สึกวูบไหวก่อตัวขึ้นอย่างไม่อาจห้ามปราม หญิงสาวรู้สึกร่างกายไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้รุกล้ำเข้ามาในโพรงปากแสนหวาน สุดท้ายก็ไม่อาจทรงตัวได้เองจนต้องยกมือทั้งสองข้างขยุ้มเนื้อผ้าที่กลางอกแกร่งเอาไว้อย่างเผลอตัว ริมฝีปากหยักสวยของชายหนุ่มยังคงตักตวงความหวานจากกลีบปากนุ่มอย่างไม่รีบร้อน จนกระทั่งร่างเล็กในอ้อมแขนเริ่มหายใจหอบสะท้าน เขาจึงยอมถอนริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่ง
“คุณยังไม่เคยจูบกับใครเลยงั้นเหรอ”
พระจันทร์รีบโกยอากาศหายใจเข้าปอดในขณะเดียวกันก็พยักหน้าหงึกๆ เป็นการยอมรับ หญิงสาวไม่เคยแนบชิดกับใครมากขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยเลยสักครั้ง
และนี่ก็คือจูบแรกของเธอ
“ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องสอนคุณเยอะหน่อย และหวังว่าจูบครั้งต่อๆ ไปของเราจะดีกว่านี้”
พระจันทร์ได้แต่ก้มหน้าหงุดและพยักหน้ารับหงึกๆ คล้ายคนโง่งม เธอมีสิทธิ์ปฏิเสธได้หรือไรกัน ไม่เลยสักนิด ส่วนเอเรียสเมื่อเห็นอีกฝ่ายรับคำอย่างไร้ข้อโต้แย้ง เขาจึงขยับตัวและวางร่างเล็กให้นอนราบลงบนฟูกนุ่ม ทุกๆ การกระทำเป็นไปอย่างระมัดระวัง หญิงสาวเผลอกลั้นหายใจเป็นพักๆ จนกระทั่งอีกฝ่ายทิ้งตัวลงนอนข้างๆ เธอ หญิงสาวจึงได้หายใจหายคอสะดวกมากขึ้น
แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น
ร่างบางถูกวงแขนแข็งแกร่งตวัดเข้าสู่อ้อมอก ชายหนุ่มนอนตะแคงแล้วโอบกอดคนตัวเล็กกว่าเอาไว้ หญิงสาวกำลังถูกอีกฝ่ายสวมกอด พระจันทร์ไม่ได้ต่อต้านการกระทำของอีกฝ่าย แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อาจห้ามร่างกายไม่ให้เกร็งเครียดได้ หญิงสาวนอนตัวเกร็งราวกับท่อนไม้แข็งๆ ท่อนหนึ่ง จนคนที่สวมกอดจากทางด้านหลังต้องเอ่ยปาก
“ไม่ต้องเกร็ง ผมแค่กอด บอกแล้วไงว่าจะให้เวลา”
เมื่ออีกฝ่ายรับปากแบบนั้น ร่างกายที่เคยเกร็งเครียดในตอนแรกจึงค่อยๆ ผ่อนคลายลง แต่ถึงกระนั้นพระจันทร์ก็ยังไม่อาจข่มสายตาให้หลับลงได้
“หนาวหรือเปล่า”
คนสูงกว่าถามเธอ แม้น้ำเสียงของเขาจะดูราบเรียบ แต่เนื้อหาในประโยคคล้ายใส่ใจทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่ทราบสาเหตุทั้งๆ ที่ก่อนหน้าเพิ่งจะสงบลงแท้ๆ และพระจันทร์ก็ไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มต้องรอคำตอบนาน
“นิดหน่อยค่ะ”
ทันทีที่เธอพูดจบประโยค ผ้าห่มผืนใหญ่ก็คลุมลงบนร่างกายของเธอ รวมถึงร่างกายของเขาก็ด้วย ก่อนที่เขาจะเอี้ยวตัวไปปิดโคมไฟที่หัวเตียง หลังจากนั้นก็สวมกอดเธออีกครั้ง พลางกระซิบบอกใกล้ใบหูเล็ก
“กู๊ดไนท์”
“กู๊ดไนท์ค่ะ”
พระจันทร์เองก็ตอบกลับไปแบบเดียวกัน ก่อนที่เปลือกตาบางใสจะค่อยๆ ปิดลง รอยยิ้มบางเบาปรากฏที่เรียวปากอวบอิ่ม
บางทีการแต่งงานในครั้งนี้อาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คิดก็ได้