เช้าวันต่อมา
กลิ่นหอมของอาหารลอยโชยมาเตะจมูกทำให้เจ้าของร่างสูงที่กำลังหลับสนิทอย่างเอเรียสค่อยๆ ลืมตาขึ้น สีหน้าของชายหนุ่มยังคงดูง่วงงุนอยู่ไม่น้อย ภาพเบลอในตอนแรกค่อยๆ ชัดเจนขึ้น นัยน์ตาสีฟ้าครามมองฟูกนุ่มข้างตัวที่ก่อนหน้านี้เคยมีร่างเล็กของภรรยาหมาดๆ นอนเคียงข้างแต่ว่าตอนนี้ไร้เงาของอีกฝ่าย ร่างสูงขยับตัวลุกขึ้นทิ้งเท้าทั้งสองข้างลงบนพื้นห้อง ในขณะที่ดวงตาคู่คมเหลือบไปมองนาฬิกาทรงกลมบนฝาผนังที่บอกเวลาเจ็ดนาฬิกาเศษ ชายหนุ่มลุกจากเตียง เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าคว้าผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนใหญ่ขึ้นมาแล้วสาวเท้าเข้าห้องน้ำไป
พระจันทร์กำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารเช้าอยู่ในครัวภายในบ้านที่เธอขอนุญาตเรียกมันว่าเรือนหอ ซึ่งบ้านหลังนี้อยู่ห่างจากคฤหาสน์ฟรีเดลราวๆ สิบไมล์ ทันทีที่ส่งพ่อกับแม่ของเธอเดินทางกลับประเทศไทย เอเรียสก็พาเธอไปจัดการเรื่องเอกสารต่างๆ สำหรับการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แม้บ้านหลังนี้จะไม่ได้ใหญ่โตเหมือนคฤหาสน์ฟรีเดลพระจันทร์ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ สำหรับเธอนั้นให้อยู่ที่ไหนก็ได้ บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวสไตล์อิงลิชคันทรี วินเทจ ตัวบ้านกรุผนังด้วยไม้ฝาทาสีขาว กรุกระจกบานยาวตลอดแนว หลังคาทรงจั่วโทนสีเอิร์ธโทน ดูละเมียดละไมแต่ยังคงหรูหรา บริเวณหน้าบ้านมีสระว่ายน้ำ และพื้นที่รอบๆ ก็ประกอบด้วยต้นไม้น้อยใหญ่และบางส่วนเป็นสนามหญ้าเขียวชอุ่มที่ดูแล้วให้ความสดชื่นรื่นรมย์อยู่ไม่น้อย ร่างบางในชุดแซกแขนกุดสีครีมอ่อนที่ความยาวของชายกระโปรงยาวเสมอเข่าและมีผ้ากันเปื้อนลายน่ารักสวมทับเอาไว้หันไปคลี่ยิ้มกว้างให้มารี หญิงร่างท้วมวัยกลางคนในชุดแม่บ้านที่ถูกส่งตัวมาจากคฤหาสน์ฟรีเดลแต่เช้าตรู่
“รบกวนขอจานกลมให้หน่อยค่ะ”
มารีที่ยืนอยู่ไม่ห่างรีบหยิบจานกลมที่คว่ำอยู่บนชั้นวางส่งให้พระจันทร์ทันทีที่อีกฝ่ายร้องบอก รอยยิ้มหวานยังคงปรากฏบนเรียวปากอวบอิ่มตอนที่รับจานมา
“ขอบคุณนะคะ”
มารีตอบรับคำขอบคุณของหญิงสาวด้วยการยิ้มกว้างแต่แฝงไปด้วยความไม่สบายใจอยู่หลายส่วน
“จริงๆ แล้วคุณพระจันทร์ไม่น่าลำบากเลยนะคะ ให้เป็นหน้าที่ของฉันน่าจะดีกว่า”
มารีบอกอย่างเกรงใจ เพราะเธอถูกส่งมาที่นี่เพื่อช่วยในเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องการทำงานบ้านทุกอย่างด้วย
“ไม่เป็นไรค่ะ พระจันทร์ทำได้ เผื่อมารีไม่รู้ พระจันทร์เรียนจบคหหรรมศาสตร์มาเลยนะคะ และทำอาหารได้อร่อยมากๆ ”
พระจันทร์ไม่ได้ต้องการจะโอ้อวดเพียงแต่พูดให้มารีสบายใจ หญิงสาวรักการทำอาหารมาก เรียกว่าเป็นชีวิตจิตใจเลยก็ว่าได้ แต่น่าเสียดายที่ยังไม่มีโอกาสเป็นเชฟตามที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะหลังจากเรียนจบไม่ถึงเดือน หญิงสาวก็ถูกบิดามารดาพามาที่นี่ทันที
และกลายเป็นคนที่มีสามีในช่วงข้ามคืน ถึงแม้ว่าในตอนนี้ยังความสัมพันธ์ลึกซึ้งทางกายจะยังไม่เกิดขึ้นก็ตาม
และเป็นภรรยาที่ไร้พิธีแต่งงานและทะเบียนสมรส
วูบหนึ่งที่รอยยิ้มหวานหายไปจากดวงหน้าเนียนใส แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้นก่อนจะกลับมายิ้มอีกครั้ง
“ช่วยเอาจานนี้ไปวางที่โต๊ะให้หน่อยนะคะ”
พระจันทร์ส่งจานไข่ดาว ไส้กรอกและเบค่อนที่จัดเรียงอย่างน่ารับประทานให้มารี อีกฝ่ายรับเอาไว้ก่อนจะสาวเท้าไปที่โต๊ะอาหารทันที หญิงสาวถอดผ้ากันเปื้อนออกแขวนไว้ที่ราวแขวน เดินไปล้างมือก่อนจะสาวเท้าไปที่โต๊ะอาหารเพื่อดูความเรียบร้อยอีกครั้ง ในขณะที่หญิงสาวกำลังจะถึงโต๊ะอาหาร ร่างสูงของเอเรียสในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว ชายเสื้อถูกสอดเอาไว้ในกางเกงสแล็กสีกรมท่ามีเข็มขัดหนังสีดำมันวาวคาดทับไว้อีกที เสื้อสูทสีน้ำเงินเข้มพาดเอาไว้ที่ท่อนแขนซ้าย ชายหนุ่มพาดเสื้อสูทไว้ที่เก้าอี้ตัวหนึ่งก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัว พระจันทร์มองอีกฝ่ายคล้ายชั่งใจ เมื่อชายหนุ่มไม่เปิดปาก หญิงสาวจึงเป็นฝ่ายเปิดปากก่อนเสียเอง ส่วนมารีนั้นเดินหายกลับเข้าไปในห้องครัว ราวกับว่าต้องการให้เจ้านายได้ใช้เวลาส่วนตัว
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
“อรุณสวัสดิ์”
โชคดีที่เขาตอบกลับมาในทันทีพระจันทร์จึงไม่ต้องรู้สึกเก้อเขินนัก เพราะถึงอย่างไรเขากับเธอก็เหมือนคนแปลกหน้าที่เพิ่งจะมาอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน ยังไม่รู้จักนิสัยใจคอ แม้ว่าเมื่อคืนอีกฝ่ายจะสวมกอดเธอเอาไว้ทั้งคืนก็ตาม แต่นั่นก็เป็นเพียงความสัมพันธ์ทางกายเท่านั้น
“พระจันทร์ไม่ทราบว่าคุณเอเรียสชอบดื่มกาแฟแบบไหนก็เลยไม่ได้เตรียมเอาไว้ให้ค่ะ”
คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อยตอนที่มองเจ้าของร่างเล็กตรงหน้า ก่อนที่ดวงตาคมกริบจะกวาดสายตามองมื้อเช้าที่ดูหน้าตาน่ารับประทานที่จัดวางอยู่บนโต๊ะ แล้วดึงสายตากลับมาที่หญิงสาวอีกครั้ง
“คุณทำเองหมดเลยงั้นเหรอ”
“ค่ะ” พระจันทร์ตอบคำถามของอีกฝ่ายในทันที ก่อนจะทวงถามถึงคำตอบก่อนหน้านี้ “แล้วกาแฟ…”
“กาแฟสองครีมหนึ่งไม่ใส่น้ำตาล”
“ค่ะ”
เมื่อได้คำตอบหญิงสาวก็รีบขยับเท้าไปในห้องครัวทันที เอเรียสมองตามแผ่นหลังบอบบางไปจนลับสายตา ก่อนจะดึงสายตากลับมาที่อาหารเช้าบนโต๊ะอีกครั้ง
“หน้าตาอาหารก็ไม่ได้แย่ หวังว่ารสชาติคงจะพอใช้ได้”
เอเรียสพึมพำเบาๆ ระหว่างนั้นพระจันทร์ก็เดินกลับมาถึงโต๊ะอาหารพอดีพร้อมแก้วกาแฟบนจานรองเข้าชุดที่มีควันสีเทาจางลอยเหนือแก้ว หญิงสาววางมันลงตรงหน้าชายหนุ่ม ก่อนจะสาวเท้ากลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
“เรากินมื้อเช้าเลยดีไหมคะ”
พระจันทร์ถามอย่างขอความเห็น หญิงสาวพยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติให้มากที่สุด แต่ถึงกระนั้นคนที่นั่งฝั่งตรงกันข้ามอย่างเอเรียสก็สัมผัสได้ถึงอาการเกร็งๆ ของอีกฝ่าย
และเขาก็เลือกที่จะมองข้ามไปเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายต้องรู้สึกอึดอัด
“อืม เอาสิ”
เมื่อเอเรียสเอ่ยปากอนุญาตพระจันทร์จึงลงมือจัดการอาหารที่อยู่ตรงหน้า มื้อเช้าของหญิงสาวคือข้าวต้มทรงเครื่องกับนมสด ส่วนของเอเรียสนั้นหญิงสาวเตรียมอาหารเช้าแบบอเมริกันไว้ให้ ทั้งคู่จัดการอาหารตรงหน้าอย่างเงียบเชียบ จนกระทั่งหญิงสาวจัดการข้าวต้มจนหมดถ้วย
“คุณเรียนจบอะไรมา”
“พระจันทร์จบคหกรรมศาสตร์ค่ะ”
“แล้วเคยทำงานหรือยัง”
“พระจันทร์เพิ่งจะเรียนจบได้เดือนกว่าๆ ค่ะก็เลยยังไม่ได้เริ่มทำงาน แต่ก่อนจบก็เคยฝึกงานเป็นผู้ช่วยเชฟในโรงแรมค่ะ”
“แล้วอยากทำงานหรือเปล่า”
ประกายตาแห่งความดีใจลุกวาวในดวงตาคู่สวย รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าเนียนใส หญิงสาวถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ปกปิดความดีใจเอาไว้ไม่มิด