ผ่านไปสามเดือน ตอนนี้ทุกอย่างในชีวิตแก้มบุ๋มเริ่มลงตัว เธอได้ทำงานที่โรงงานใกล้บ้าน อาการของพ่อของเธอก็เริ่มดีขึ้น แม้จะอ่อนเพลียไปบ้างจากการที่ต้องเข้ารับคีโม แต่เมื่อหมอทำซีทีสแกนติดตามผลการลุกลามของมะเร็งในปอด ก็พบข่าวดีว่าก้อนมีขนาดเล็กลง นั่นทำให้ความสุขค่อยๆกลับมาเยือนครอบครัวของเธอ นั่นทำให้เธอรู้สึกดีที่การตัดสินใจในคืนนั้นสามารถแลกมากับความสุขและรอยยิ้มของพ่อแม่อีกครั้ง เหมือนแสงตะวันแห่งการเริ่มต้นใหม่กำลังทอประกายมองให้เห็นรำไร
มีบางครั้งที่ล้มตัวลงนอน สายคมเข้มของพ่อเลี้ยงเหนือฟ้าในคืนนั้นยังตามหลอกหลอนเธออยู่บ้าง แต่ด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานก็ทำให้หัวถึงหมอนก็หลับได้อย่างรวดเร็ว
"แก้ม น้องแก้ม เป็นไงบ้าง" เสียงเรียกข้างๆหู ทำให้คนตัวเล็กค่อยๆกระพริบตาช้าๆ เพื่อทำการปรับสายตา เธอเหม่อมองเพดานที่ไม่คุ้นเคย ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง ที่นี้โรงพยาบาล แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เมื่อเห้นสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามของเด็กสาวรุ่นน้อง ทำให้กานดาต้องรีบอธิบาย
"ก็น้องเข้าเครื่องแพ็คอยู่ดีๆ ก็เป็นลมหมดสติไป เรียกเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกตัว ผู้จัดการตกใจ ก็เลยรีบพาน้องมาหาหมอที่โรงพยาบาลนี่แหละ"
เธอจำอะไรไม่ได้เลย ช่วงนี้ก็นอนหลับปกตินะ แถมรู้สึกว่าง่วงมากกว่าปกติด้วยซ้ำ แล้วทำไมอยู่ดีๆถึงเป็นลมแบบนี้ไปได้ แต่ยังไม่ทันจะได้หายสงสัยไปมากกว่านี้ หมอเจ้าของคนไข้ก็เดินมาหาเธอทันที
"ประจำเดือนครั้งสุดท้ายมาเมื่อไหร่ค่ะ" คำถามของหมอเมื่อเธอลองย้อนคิดดู สมองเธอเหมือนดับไปชั่วขณะ ตั้งแต่ที่เธอนอนกับพ่อเลี้ยงเหนือฟ้า เธอก็ไม่เคยได้ซื้อผ้าอนามัยใช้อีกเลย แก้มบุ๋มกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอทันที ไม่นะ เธอกินยาแล้ว มันคงจะไม่ซวยขนาดนั้นหรอก
"สามเดือนค่ะ" เมื่อเธอบอกหมอ ก็ได้รับกระปุกใสๆมาขวดหนึ่งเพื่อให้เธอไปฉี่แล้วเอามาตรวจ มือคนตัวเล็กสั่นเทาแถมเย็นเฉียบ
ขณะที่นั่งรอผล ใจเธอสั่นจนแทบจะหลุดออกมา อย่าให้เป็นแบบที่เธอคิดเลย เธอคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอก
"คนไข้ตั้งครรภ์นะคะ ถ้าอยากตรวจเช็กให้แน่ใจถึงจำนวนอายุครรภ์หรือยังไงก็สามารถตรวจเพิ่มเติมได้ จะฝากครรภ์เลยมั้ยค่ะ"
จบคำพูดของหมอ แก้มบุ๋มเหมือนจะหูดับไปเลยทันที ดวงตาคู่สวยมีน้ำตาไหลรินลงมา เธอท้อง ท้องได้ยังไง ในเมื่อพ่อเลี้ยงให้เธอกินยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินแล้ว แต่เมื่อลองคิดดูกลับไป หลังจากที่เธอกินเธอก็อ้วกออกจนหมด เพราะความมักง่ายของเขาแท้ๆ ทำให้เธอต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
ข่าวลือที่เธอท้องแพร่กระจายไปทั่วทั้งโรงงาน เพราะพี่กานดาที่พาเธอไปหาหมอเมื่อกลับมาจากโรงพยาบาลก็หวังดีโพนทะนาไปทั่ว เธอทั้งอาย ทั้งเสียใจ แต่ที่แย่กว่านั้น
"หนูเพิ่งเข้ามาทำงานได้แค่สามเดือน แล้วท้อง ต้องเข้าใจโรงงานของเราด้วย เนื่องจากมันต้องทำงานค่อนข้างหนัก พี่เกรงว่าการที่หนูท้องเนี่ยมันจะทำให้หนูทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ ยังไงหนูก็หยุดพักไปก่อนก็แล้วกัน คลอดลูกเมื่อไหร่ ถ้าทุกอย่างดีขึ้นก็ค่อยกลับเข้ามาสมัครใหม่ก็แล้วกันนะ"
เธอโดนเชิญออก เพราะคนท้องมักถูกมองว่าเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ยิ่งโรงงานเธอ ต้องเข้างานเป็นกะ ไม่สามารถเลือกได้ ว่าต้องเข้าเวลาไหน ซึ่งแน่นอนว่าสภาพการทำงานมันไม่เอื้อต่อคนท้องอยู่แล้ว แก้มบุ๋มกำซองกระดาษที่ได้จากการชดเชยขณะที่เชิญออก โดยให้เหตุผลว่า เธอไม่ผ่านการทดลองงาน
น้ำตาคนตัวเล็กไหลริน เขาจะรู้มั้ย ว่าผลจากการที่เขาเห็นแก่ตัวในวันนั้น มันจะทำให้ชีวิตเธอกำลังกลับไปลำบากอีกครั้งหนึ่ง
อุ๊บ! แหวะ!
เสียงโอ้กอ้ากของลูกสาวในห้องน้ำ ทำให้โชคและก้อยมองตากัน เพราะสัปดาห์นี้แก้มบุ๋มไม่ได้ไปทำงานเลย เพราะเธอบกว่าเธอลาป่วยไม่สบายอาหารเป็นพิษ คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนแบบพ่อและแม่ย่อมรู้ดีว่าตอนนี้ร่างกายลูกสาวไม่ได้ป่วยเป็นโรคที่บอกแน่
"แก้ม มีอะไรจะคุยกับพ่อและแม่รึเปล่า" ใบหน้าซีดเซียวออกมาจากห้องน้ำ ก็ต้องตกตะลึงตัวแข็ง เมื่อเจอกับสายตาของคนเป็นพ่อและแม่ คำถามของแม่ ทำให้เธอรู้ว่า เธอไม่ควรจะปกปิดอีกต่อไป ดวงตากลมโตแดงก่ำ มีรอยช้ำจากการที่เธอร้องไห้อย่างหนัก ยิ่งเจอกับสายตาผิดหวังของพ่อและแม่ นั่นทำให้เธอแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่
"แก้ม บอกมาเถอะ หนูเป็นอะไร" เสียงแหบห้าวของพ่อ ที่ตอนนี้ผมร่วงหมดหัวเนื่องจากการให้คีโม ทำให้ใจเธอยิ่งเจ็บไปใหญ่ น้ำตาสั่นไหวในดวงตาคู่สวย
"แก้มท้อง ได้สามเดือนแล้วจ๊ะพ่อกับแม่" พูดจบเธอก็ถลาไปจับเท้าของพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ แน่นอนว่าความเสียใจ ความผิดหวังของคนทั้งคู่ สาดซัดเข้ามากระทบร่างกายบอบบางของเธอจนรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัว
"แก้มท้องกับใคร บอกพ่อกับแม่ได้มั้ย พ่อจะไปพูดให้มันมารับผิดชอบ"คำถามของพ่อที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ทำให้น้ำตาร้อนๆไหลรินออกจากดวงตาคู่สวยอย่างไม่ขาดสาย เธอทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังแถมพ่อเธอกำลังไม่สบาย อยู่ในช่วงการรักษาตัว เธอกำลังทำบาปมหันต์ที่ทำให้พ่อกับแม่เสียใจ
"แก้มจะไปคุยกับเขาดูก่อน พ่อกับแม่อย่าโกรธแก้มนะ ฮึกๆ พ่อจ๋าแม่จ๋า แก้มขอโทษ" ที่ผ่านมา เธอเป็นเด็กดีมาตลอด ทั้งโชคและก้อยเมื่อเห็นลูกสาวร้องไห้แทบขาดใจ ก็อดร้องตามเด็กสาวไม่ได้ เขาอยากรู้ว่าผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร เขาอยา่กจะไปเอาเลือดหัวมันออก โทษฐานที่มันมาหยากเกียรติเหยียบดวงใจของเขา โชคได้แต่คิดอย่างแค้นใจ แต่เมื่มองสภาพตัวเองตอนนี้ แค่จะเดินไปไหนใกล้ๆ เขายังไม่มีเรี่ยวมีแรงที่จะไปเลย คนเป็นพ่ออดสูตัวเองเหลือเกิน แต่พยายามใช้มือที่ผอมแห้งลูบหัวลูกสาวเพื่อปลอบประโลมความทุกข์ที่เธอได้รับในตอนนี้