(โลมา)
15.36 น.
"สร้อย...ทำไมไม่มีล่ะ!?"
มือของฉันคว้าไปทั่วทั้งกระเป๋าตัวเองทันทีพร้อมกับล้วงทุกช่องที่มีเพราะตอนนี้หาสร้อยไม่เจอ...บ้าน่านี่ฉันไม่ได้เอามันไว้ในกระเป๋าจริงๆงั้นเหรอ!? ริมฝีปากฉันเม้มเข้าหากันแน่นพร้อมกับหัวใจตัวเองที่กำลังเต้นแรง เพราะของสำคัญที่สุดในชีวิตฉันตอนนี้มันหายไป!
"คงไม่ได้.."
ฉันลุกขึ้นจากเตียงเดินไปดูในห้องน้ำอีกครั้งเผื่อตัวเองถอดไว้แล้วลืมแต่มันก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรแขวนอยู่ในห้องน้ำด้วยซ้ำ...แววตาที่เต็มไปด้วยความกังวลใจของฉันสะท้อนผ่านกระจกบานใหญ่ภายในห้องน้ำตัวเองทันทีขณะที่มือก็กำเข้าหากันแน่น
ฉันคิดว่าที่หาไม่เจอ เพราะฉันถอดเอาไว้ในกระเป๋าที่อยู่ที่ทำงานแต่ฉันก็ไปเอามาแล้วมันกลับไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลยมีเพียงแต่พวกของฉันที่จำเป็นของฉันแต่มันไม่มีสร้อย มันไม่มีสร้อยที่แม่ฉันให้ไว้ก่อนตาย...แม่ฉันท่านเสียได้หนึ่งปีแล้วก่อนที่ฉันจะเข้าปีหนึ่ง และเพราะเธอเสียทำให้ฉันต้องยกเลิกที่จะเข้าเรียนเพราะไม่มีเงิน ฉันต้องออกมาหางานทำก่อนเพราะจะเก็บเงินให้ได้สักก้อนเพื่อส่งตัวเองเรียน
แต่ตอนนี้กำลังใจเพียงอย่างเดียวของฉันมันหายไป
ติ๊ดๆๆ
"อ๊ะ!?"
เสียงโทรศัพท์ทำให้ฉันกลับมาสู่ปัจจุบันอีกครั้งพร้อมกับขาของฉันที่ก้าวไปที่เตียง และหยิบโทรศัพท์ตัวเองมากดรับทันที
"สวัสดีค่ะพี่โฟร์"
(พี่รู้นะว่าวันนี้เป็นวันหยุดของเราแต่ที่ร้านคนเยอะมากเลยแถมพนักงานยังมาป่วยอีก โลมามาช่วยที่ร้านหน่อยได้ไหม?)
"งั้นเดี๋ยวโลมาเข้าไปที่ร้านนะคะ"
(ขอบคุณนะ เดียวพี่เพิ่มค่าขนมให้)
"ค่ะ แล้วเจอกันนะคะ"
ปลายสายตอบกลับมาก่อนจะรีบวางสายไปนั้นทำให้ฉันรู้ว่าที่ร้านตอนนี้คนเยอะจริงๆ แต่นั่นไม่ใช่คลับที่ฉันไปทำเมื่อคืนหรอกนะคลับนั้นฉันทำแค่อาทิตย์ล่ะสามวันส่วนร้านพี่ โฟร์ที่เป็นร้านอาหารฉันทำทุกวันพี่โฟร์เป็นเจ้าของร้านที่ใจดี และเข้าใจฉันมากฉันถึงอยากช่วยเขาเท่าที่จะช่วยได้
"..."
สายตาฉันมองไปที่รูปของตัวเองกับแม่บนหัวเตียงด้วยความรู้สึกผิดเพราะตัวเองดันทำของสำคัญที่แม่ให้ไว้หาย ไม่สิ...ฉันต้องหามันให้เจอมันต้องตกอยู่ที่ไหนสักที่แต่ตอนนี้ฉันต้องไปทำงานก่อน ฉันรีบเดินไปเปลี่ยนเป็นชุดฟอร์มที่ร้านพี่โฟร์และออกจากห้องตัวเองทันที ที่ที่ฉันอยู่เป็นหอพักที่เขาให้นักศึกษาพักน่ะ เพราะหอพักนักศึกษามันถูกถึงมันจะเล็กไปหน่อยแต่ก็ถือว่าอยู่ได้สบายเลยล่ะ
---ร้านพี่โฟร์---
16.30 น.
"ขอโทษจริงๆนะโลมา"
"ไม่เป็นไรค่ะพี่โฟร์ อันนี้ของโต๊ะไหนหรอคะ?"
"โต๊ะสิบครับ"
ฉันเอื้อมมือไปหยิบจานอาหารใส่ถาดที่ตัวเองกำลังถือทันทีที่เข้ามาด้านในของร้านพร้อมกับสายตาตัวเองที่มองไปรอบๆร้านที่ตอนนี้มีลูกค้าอยู่แน่นทุกโต๊ะ ขาของฉันก้าวเดินไปที่โต๊ะสิบด้วยความลำบากนิดๆ ก่อนจะวางจานอาหารลงตรงโต๊ะลูกค้าและยิ้มให้
"อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะ ขอโทษที่ให้รอนะคะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ"
ฉันก้มหัวให้พวกเธอก่อนจะเดินหันหลังกลับออกมาและยิ้มให้พี่ๆที่ทำงานด้วยกันคนอื่นที่ยิ้มให้ฉันพร้อมกับพี่ศรที่เดินเข้ามาหาฉันทันทีที่เห็น
"คนเยอะมากเลยนะเนี่ยพี่ยังไม่ได้นั่งตั้งแต่เที่ยง"
"วันนี้แถวนี้มีงานหรอคะ?"
"อืม มีงานแถลงข่าวของดาราน่ะเห็นเขาว่า"
"เขาจะมาแถลงที่ร้านเราเหรอคะ?"
"ไม่ใช่หรอก เขามาแถลงตึกตรงหน้าเราส่วนคนที่มากินข้าวเป็นคนขับรถของพวกนักข่าวน่ะ"
"อ่อ...คงจะดังน่าดูนะคะคนเยอะขนาดนี้"
"อืมเห็นว่าดังมาก พี่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"
"ค่ะ เดียวทางนี้โลมาดูให้"
"จ้า"
พี่ศรยิ้มให้ฉันบางๆก่อนที่เธอจะรีบเดินเข้าไปหลังร้านขณะที่ฉันก็มองไปที่ตึกหน้าร้านเราด้วยความสนใจ ตึกเราอยู่หน้าบริษัทของค่ายดังน่ะนักข่าวเลยมาที่นี่บ่อยๆ ซึ่งพี่โฟร์ก็เป็นคนที่วางแผนดีมากเพราะมันทำให้ร้านเขามีลูกค้าเข้าตลอดส่วนมากก็เป็นพนักงานตึกตรงหน้าเป็นส่วนมาก
"น้องคะๆ"
"คะ...ต้องการอะไรเพิ่มรึเปล่าคะ?"
"พี่ขอเปลี่ยนช่องได้ไหม"
"ได้ค่ะ"
ฉันรับคำพร้อมกับเดินไปหยิบรีโมทมาให้ลูกค้าที่ขอมาพร้อมกับเธอที่รับไป และกดเปลี่ยนช่องตามที่ว่าก่อนจะยื่นมาให้ฉันพร้อมกับยิ้มให้อย่างขอบคุณ ฉันจึงเดินมายืนที่เดิมเพราะตอนนี้ลูกค้าก็ได้อาหารครบทุกโต๊ะแล้วรอแค่เก็บอย่างเดียว
"แกว่าเขาจะตอบยังไง??"
"ไม่แน่ใจวะ...อาจจะเหมือนพวกดาราคนอื่นๆที่เคยมีข่าว"
"แต่มันน่าสนใจตรงที่เขาจะแถลงเอง ปกติเห็นแต่บริษัทออกมาแถลงข่าวให้"
"ใช่ แต่ก็อยากที่รู้เอาจริงๆ พีเคนั่นแหละเจ้าของค่ายนี้ฉันว่า"
"อืม คิดเหมือนกัน"
ลูกค้าที่ขอรีโมทไปเปลี่ยนช่องหัวเราะคิกคักกันใหญ่แต่ฉันกลับนิ่งไปอย่างทำอะไรไม่ถูกเมื่อได้ยินชื่อของเขา...ชื่อของคนที่ทำเลวๆกับฉันเมื่อคืนนี้ มือของฉันกำถาดไว้แน่นพร้อมกับสายตาตัวเองที่ค่อยๆเหลือบมองจอทีวีเหมือนกับคนทั้งร้านที่หันมองทีวีด้วยความสนใจสนใจทันทีที่มันเริ่มฉายภาพของพีเคที่เดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้โดยที่ตรงหน้าเขามีนักข่าวจากหลายสำนักที่รอทำข่าวอยู่
"สวัสดีครับ"
เสียงทุ้มนุ่มของพีเคเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพพร้อมกับเขาที่โค้งทักทายนักข่าวอย่างเป็นกันเองเมื่อมาถึง ซึ่งใครๆก็รู้ว่าพีเคนั้นเป็นที่รักของนักข่าวทุกคนขนาดไหน ถึงจะโดนข่าวขนาดนี้แต่เขากลับดูไม่กระทบกระเทือนอะไรเลยด้วยซ้ำ
"ที่ผมออกมาแถลงข่าววันนี้คงจะรู้กันอยู่แล้วว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร...ผมขอไม่ตอบคำถามเรื่องของผู้หญิงนะครับเพราะอาจส่งผลเสียต่อเธอ"
"เรื่องที่ว่าคุณพีเคตามจีบเธอมันจริงไหมคะ??"
"อ่า...ถึงผมจะเป็นคนดังแต่ผมก็เป็นมนุษย์คนนึงนะครับ"
"มันก็แปลว่าคุณตามจีบเธอจริงๆ"
พีเคไม่ตอบแต่ยิ้มให้นักข่าวที่ถามแทนซึ่งหลับตาฟังก็รู้ว่าเขาไม่ได้ปฏิเสธอะไรแถมยังดูยอมรับซะอีก
"แล้วมันจริงไหมคะที่คุณพีเคกับคุณแร็ปเปอร์อักษรย่อวอแย่งเธอคนนั้น?"
นักข่าวถามจี้พีเคต่อทันทีและคำถามก็ค่อนข้างแรง และพาดพิงไปถึงดาราอีกคนด้วยแต่พีเคยังยิ้มอยู่และจ้องมองไปที่นักข่าวคนที่ถามด้วยแววตาขำๆ
"เขาเรียกว่าแข่งกันจีบครับเธอเป็นคนนะไม่ใช่ของเล่น พวกผมก็แค่อยากเอาชนะใจผู้หญิงที่ตัวเองชอบตามประสาผู้ชายทั่วไปก็แค่นั้นเอง"
แซะๆๆๆ
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นทันทีพร้อมกับแสงแฟลชที่ดังระงมจนดังออกมานอกจอ ขณะที่ลูกค้าในร้านก็หันไปซุบซิบกันทันทีต่างจากฉันที่ยืนนิ่งจ้องมองเขาผ่านจอพร้อมกับความคิดตัวเองที่คิดภายในหัว...ถึงว่าทำไมพีเคถึงเอาแต่ร้องหาเธอจนดูเหมือนคนเสียสติขนาดนั้น
"แต่ก็นั่นแหละครับ ผมอกหักมาเองซึ่งพวกเขาสองคนก็เหมาะสมกันดีครับ"
"สรุปว่าเธอเลือกดาราอีกคนหรอคะ??"
"ถ้าเลือกผมผมจะมานั่งแถลงข่าวไหมล่ะครับ??"
พีเคเหยียดยิ้มออกมาอย่างกวนๆแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ใบหน้าเจ้าตัวดูกวนไปด้วยเลย เพราะมันเต็มไปด้วยความดูดีจนไม่สามารถละสายตาได้ พีเคก็ยังคงเป็นคนดังที่สามารถรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองได้ดีแม้สถานการณ์จะแย่มากแค่ไหนก็ตาม
"ผมอาจจะทำให้แฟนคลับของผมเสียใจ ซึ่งผมก็รู้สึกแย่ไม่ต่างกันที่ทำอะไรไม่คิดแต่ผมก็ขอบคุณที่ซัพพอร์ตผมมาเสมอนะครับ"
"แล้วเรื่องคัมแบ็คละคะ?"
"ตอนนี้ยังไม่มีแผนครับผมอยากโฟกัสกับทางการแสดงก่อน"
"ที่ไม่คัมแบ็คนี่เกี่ยวกับเรื่องนี้ไหมคะ!?"
"พีเคตอบได้แค่นี้ครับ ขอบคุณพี่ๆนักข่าวมากที่มาในวันนี้"
เสียงของผู้จัดการเขาดังขึ้นพร้อมกับพีเคที่ลุกยืนก้มหัวให้นักข่าวนิดหน่อยก่อนที่เขาจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นอีกครั้งพร้อมกับกล้องของทางรายการที่ซูมเข้าหาใบหน้าเขาทำให้ฉันสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง...บางอย่างที่อยู่บนคอของเขา
"นั่นมัน!?"
ดวงตาฉันเบิกกว้างทันทีที่สายตาตัวเองเห็นสร้อยที่ฉันหามาหลายชั่วโมง มือของฉันกำถาดในมือแน่นพร้อมกับหัวใจตัวเองที่กำลังเต้นแรงมันทั้งตกใจและทำอะไรไม่ถูกเพราะสิ่งที่ฉันคิดว่าทำหายตอนนี้มันไปอยู่ที่คอของพีเค...สร้อยที่แม่ฉันให้ไว้อยู่ที่เขา!
"โลมา...น้องโลมา!"
"คะ...คะพี่โฟร์!?"
"เก็บโต๊ะด้วยจ้า"
"ได้ค่ะได้ ขอโทษนะคะ"
พี่โฟร์ยิ้มให้อย่างไม่ถือสาเมื่อฉันที่เอาแต่จ้องมองจออยู่ ฉันหันกลับไปมองพีเคที่กำลังยิ้มให้กล้องอีกครั้งด้วยความรู้สึกแน่นที่อก...ให้ตายมันต้องหล่นตอนที่ฉันขัดขืนเขาแน่ๆ แล้วแล้วฉันจะทำยังไงดีล่ะทำยังไงฉันถึงจะได้ของสำคัญของฉันคืน!?
20.34 น.
"คุณโฟร์คุณคิมมาหาค่ะ"
"โอ๊ะ ขอบคุณครับพี่ศรฝากตรงนี้ด้วยนะโลมา"
"ค่ะ"
ฉันตอบกลับพี่โฟร์เบาๆและจัดการเก็บเศษพวกอาหารและทำความสะอาดต่อหลังจากที่พี่โฟร์ออกไปด้านนอกห้องครัวพร้อมกับพี่ศรที่เดินเข้ามาแทน เธอยิ้มให้ฉันบางๆและช่วยฉันเก็บไปด้วยพร้อมกับสายตาเธอก็มองเข้าไปในร้านเป็นระยะๆ
"สงสัยจะคุยเรื่องเครียดกัน"
"คะ!?"
ฉันหันไปหาพี่ศรทันทีเพราะคิดว่าเธอจะคุยด้วยแต่เธอส่ายหน้าไปมาช้าๆและพยักหน้าไปที่พี่โฟร์ที่กำลังนั่งคุยกับคนที่มาหาอยู่
"พี่หมายถึงเพื่อนคุณโฟร์น่ะ เขาดูเครียดมาเลยตอนเข้ามาในร้าน"
พี่ศรว่าพร้อมกับมองไปที่เพื่อนพี่โฟร์อย่างเห็นใจทำให้ฉันต้องมองตามไปด้วยก่อนที่จะหรี่ตาลงช้าๆเมื่อรู้สึกคุ้นหน้าเขามาก...มากเหมือนเพิ่งจะเห็นกันไปไม่กี่ชั่วโมง
"เห็นว่าเป็นผู้จัดการดาราแต่พี่ว่าถ้าเป็นแล้วต้องมาประสาทเสียแบบนี้พี่ลาออกดีกว่า"
"หืม ผู้จัดการดาราเหรอคะ?"
"อืมแต่คงกำลังมีปัญหาแหละเพราะถึงกับมาหาคุณโฟร์แบบนี้ พวกเขาเป็นเพื่อนกันน่ะ"
"ถึงว่าพี่โฟร์คงเป็นห่วงเพื่อนมากนะคะ"
"พี่ก็ว่างั้นแหละ"
ฉันยิ้มออกมาบางๆอย่างเห็นใจไม่ต่างกันขณะที่สายตาตัวเองก็ค่อยเบนหนีจากพวกเขาทั้งสอง และหันกลับมาทำงานต่ออีกครั้งเพราะตอนนี้ใกล้เวลาปิดของร้านแล้วด้วยและฉันก็อยากจะกลับไปพักผ่อนเต็มที
"เจอกันพรุ่งนี้นะโลมา"
"ค่ะ กลับดีๆนะคะ
พี่ๆที่ทำงานด้วยกันโบกมือลาฉันที่กำลังเก็บของอยู่ยิ้มๆขณะที่ฉันก็เก็บของใส่กระเป๋าตัวเองเพื่อกลับแล้วเหมือนกัน ฉันเช็คของอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ลืมอะไรก่อนจะเดินออกมาหน้าร้านเพื่อออกประตูใหญ่อย่างเคย
"พี่โฟร์โลมากลับก่อนนะคะ"
"อ่อ...อืม"
ฉันยิ้มให้พี่โฟร์บางๆก่อนจะก้มหัวให้เขาและเพื่อนของเขาที่กำลังมองมาที่ฉันด้วย ก่อนจะหันหลังเตรียมเดินออกมา
"ดะ..เดี๋ยวน้องโลมา!"
"...คะ?"
เสียงของพี่โฟร์ดังขึ้นทำให้ฉันต้องหันไปมองเขาอย่างงงๆ เมื่อเขาเรียกชื่อฉันดังลั่นร้าน
"มาคุยกันหน่อยได้ไหม?"
ริมฝีปากฉันเม้มเข้าหากันอย่างงงๆ แต่ก็เดินเข้าไปที่โต๊ะที่พี่โฟร์นั่งอยู่กับเพื่อนก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้เมื่อพี่โฟร์เลื่อนเก้าอี้มาให้ ฉันมองเขาทั้งสองด้วยความสงสัย
"นี่คิมเป็นเพื่อนของพี่ มันทำงานที่บริษัทข้างหน้านี้"
"สวัสดีค่ะ"
"คงจะสงสัยสินะว่าพี่เรียกเรามาทำไม"
"ก็...ใช่ค่ะพี่โฟร์มีอะไรรึป่าวคะ?"
พี่โฟร์ยิ้มออกมาอย่างทำอะไรไม่ถูกก่อนที่เขาจะสะกิดเพื่อนตัวเองที่นั่งข้างๆทันที เพื่อนพี่โฟร์ที่ชื่อคิมกระแอมไอนิดก่อนจะยิ้มให้ฉันบางๆ
"ยินดีที่ได้รู้จักนะน้องโลมา คือพี่ทำงานเป็นผู้จัดการดาราน่ะ"
"ค่ะ"
"แล้ว...แล้วคือพี่ต้องไปดูแลงานที่ฝรั่งเศสกะทันหัน"
แล้วเขามาพูดให้ฉันฟังทำไมกัน...ฉันคิดกับตัวเองอย่างงงๆ ขณะที่สายตาก็มองเขาอย่างไม่เข้าใจ
"พี่ต้องหาผู้จัดการคนใหม่ที่รักการทำงานนี้แบบสุดๆ และโฟร์มันแนะนำน้อง...มันบอกว่าน้องรักการทำงานมาก"
"แต่งานที่โลมาทำเป็นพวกเสิร์ฟอาหารมากกว่านะคะ"
"แต่เงินดีมากเลยนะครับ ดีกว่าน้องจะมาทำงานหนักๆที่ร้านโฟร์อีก"
"ใช่โลมา เราจะได้เก็บเงินเรียนต่อได้เร็วๆไง"
นี่...พวกเขากำลังเสนองานให้ฉันงั้นหรอ ให้ไปเป็นผู้จัดการดาราเนี่ยนะจะบ้ารึไงฉันทำไม่เป็นหรอก ที่ต้องไปดูแลใครและอีกอย่างฉันก็ไม่เคยทำงานแบบนี้
"แต่โลมาทำงานนี้ไม่เป็นหรอกค่ะ โลมาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวงการเลย"
"เดี๋ยวพี่สอน"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คือโลมาทำไม่เป็นจริงๆ"
"แล้วถ้าพี่บอกว่าคนที่น้องต้องไปเป็นผู้จัดการคือใครล่ะ?"
"เป็นใครโลมาก็ไม่..."
"พีเค...น้องโลมาต้องรู้จักสิพีเคน่ะเขาดังมากๆเลยนะครับ"
ฉันชะงักไปทันทีที่ได้ยินชื่อนี้...ชื่อของพีเค พี่โฟร์และพี่คิมยิ้มให้ฉันบางๆทันทีที่เห็นฉันเงียบไปซึ่งที่ฉันเงียบไปไม่ใช่ว่าเพราะชื่อของเขา แต่มันเป็นเพราะเขามีของสำคัญของฉันอยู่กับตัว ริมฝีปากฉันเม้มเข้าหากันแน่นพร้อมกับพี่คิมที่ยื่นนามบัตรมาตรงหน้าฉันช้าๆ
"พี่ไม่ได้โกหกนะครับ พี่เป็นผู้จัดการพีเคจริงๆและนี่คือนามบัตรของพี่"
"..."
"พี่ยังเหลือเวลาที่จะไปอีกอาทิตย์นึงถ้าน้องโลมาติดสินใจยังไงช่วยโทรมาหาพี่ด้วยนะครับ...พี่ขอร้องจริงๆถ้าน้องโลมาไม่ช่วยพี่พี่คงไม่ได้ไปแน่ๆ"
สายตาฉันมองไปที่นามบัตรตรงหน้าตัวเองอย่างลังเลทันทีที่เขาพูดจบ เพราะถ้าฉันเข้าทำงานมันก็มีโอกาสที่จะได้สร้อยคืนแต่ถ้าฉันไม่รับทำงานนี้แล้วฉันจะเข้าหาพีเคทางไหน มือของฉันค่อยๆหยิบนามบัตรพี่คิมมาถือไว้พร้อมๆกับสายตาตัวเองก็มองไปที่เขาที่กำลังยิ้มให้ฉันอย่างมีความหวัง เขาหวังจะได้คนไปทำงานแทนส่วนฉันก็หวังว่าจะได้สร้อยของแม่คืน
"ขอเวลาโลมาสักคืนนะคะแล้วโลมาจะติดต่อไป"
"ขอบคุณ ขอบคุณมากๆนะครับน้องโลมา!"
"ค่ะ"
"ขอบคุณมึงด้วยไอ้โฟร์ที่แนะนำน้องโลมา!"
พี่คิมว่าขึ้นอย่างดีใจพร้อมกับพี่โฟร์ที่ยิ้มให้เพื่อนตัวเองบางๆเมื่อเห็นว่าพี่คิมไม่ได้ทำหน้าเครียดอีกแล้วต่างจากฉันในตอนนี้...ที่ภายในใจตัวเองมันลังเลไปหมด ฉันไม่แน่ใจว่าจะทำยังไงถึงจะได้สร้อยคืนแต่ตอนนี้ทางเลือกมาให้ฉันแล้วและมันอยู่ที่ว่าฉันจะเลือกมันไหมแค่นั้นเอง