@ห้างสรรพสินค้า
“วินจะกลับเลยไหมลูก ไม่ต้องสนใจพ่อเราหรอก แม่กับน้องไม่เป็นไร แค่นี้สบายมาก”
“ไม่เป็นไร ผมไม่ได้รีบ” เดี๋ยวบ่ายเขาค่อยเข้าไปตรวจงานอีกที
หากงานออกมาไม่ตรงตามแบบวิศวกร เขาก็ให้ลูกน้องทุบทำใหม่ แล้วก็หักเงินคนงานซะก็สิ้นเรื่อง
ด้วยเหตุนี้ ทำให้งานเขาไม่ค่อยพลาด การทำแบบนี้ จะทำให้ลูกน้องตั้งใจทำงาน ไม่ปล่อยงานไม่ตรงตามแบบออกมา
ความจริงเขาไม่เคยคิดอยากหักเงินคนงานด้วยซ้ำ แต่พอไม่ทำ งานก็พลาดบ่อยเกิน
แต่พอมีกฎ งานก็ผิดพลาดน้อยลง ไม่เสียเวลา และค่าวัสดุไปฟรี ๆ
“ขอบใจมากนะลูก” ถึงนาวินค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูง และคำพูดคำจาได้พ่อมาเยอะหน่อย แต่ด้านความเป็นห่วงแม่แล้ว นาวินยังคงมีมากไม่ต่างจากพ่อของตัวเอง
แค่ไม่ชอบแสดงออกทางคำพูด แต่ออกมาทางการกระทำมากกว่า
เหมือนสามีของเธอ ถึงจะพูดจาหวาน ๆ ไม่เป็น แต่ทุกการกระทำก็คือ บ่งบอกว่าเป็นห่วงเมีย
“ไปกันเถอะจ้ะ” เดินไปจับมือคนตัวเล็กแล้วเดินไปพร้อมกัน
น้ำหนึ่งเลือกเสื้อผ้า และของใช้ช่วยพลอยไพลิน โดยมีนาวินทำหน้าที่เป็นคนเข็นรถเข็นเดินตามหลัง จนมาหยุดอยู่โซนชุดนอน
“ชุดนี้สวยมากเลยพลอย” หยิบชุดสีแดงขึ้นมาให้คนตัวเล็กดู ทำเอาพลอยไพลินชะงักไป
“หนูชอบไหมจ๊ะ ชุดนอนไม่ได้นอน”
เด็กสาวส่ายหัวทันทีแบบไม่ต้องคิด ไม่ชอบ และไม่เคยคิดอยากใส่มันเลย ทั้งบางและชิ้นเล็ก แบบนั้นไม่ต้องใส่ดีกว่า เพราะต่อให้ใส่ยังไง ก็ปิดไม่หมด
“ทำไมล่ะ ผู้หญิงที่ไหนก็ชอบแบบนี้ทั้งนั้นนะ”
“คือพลอย...”
“เอาไปเถอะ แม่ว่าผู้หญิงเรามันต้องมีโมเมนต์แบบนี้สักครั้ง เผื่อวันไหนที่พลอยเกิดอยากเซ็กซี่ขึ้นมา ก็หยิบมันไปใส่ไง” น้ำหนึ่งวางมันลงในรถเข็น ก่อนจะเดินเลือกดูชุดใหม่ให้กับหญิงสาว
พลอยไพลินทำหน้าเหยเกออกมา แต่ไม่ได้พูดอะไร
จังหวะที่เงยหน้าขึ้น ทำให้สบตากับคนตัวโต ก่อนที่เธอจะรีบเบนสายตาไปทางอื่น
น้ำหนึ่งจูงมือเด็กสาว เดินไปยังโซนอันเดอร์แวร์ ได้มาครั้งไหนก็ตื่นเต้นตลอด เธอมักได้ชุดชั้นในตัวใหม่กลับไปใส่ยั่วสามี
แล้วคุณภาคินก็ชอบมาก ชอบให้เมียเซ็กซี่
ปากพูดไปงั้นเถอะว่าไม่ชอบ ๆ แต่จริง ๆ ชอบมาก หรรมแข็งกว่าปาก!
“พลอยใส่เสื้อในไซซ์ไหนจ๊ะ?” เสื้อผ้าเธอพอกะขนาดได้เพราะดูจากสายตา แต่ไม่รู้ว่าหน้าอกพลอยไพลินน่ะเท่าไหร่
“เอ่อ....
“สามสิบหกมั้ย?” ถึงพลอยไพลินจะตัวเตี้ย แต่หน้าอกของอีกฝ่ายนูนออกมาชัดเจน ดันเสื้อยืดสีขาวออกมาเลย
และไม่ใช่แค่นมที่ใหญ่นะ สะโพกด้วย โคตรสวย งอนรับกับกางเกงขาสั้น สีขาวน่าตีจริง ๆ
“สะ...สามสิบแปดค่ะ” พลอยไพลินตอบเสียงเบา เพราะไม่อยากให้ใครได้ยินด้วย และใครที่ว่า ก็คือคนที่ยืนอยู่ตรงรถเข็นนี่ไง
มันน่าอายนะ สำหรับผู้หญิงที่ต้องเอ่ยให้ผู้ชายที่ไม่ใช่แฟนตัวเองรู้
“โอ้โห! ใส่สามสิบแปดเลยเหรอลูก นมใหญ่มาก!”
พลอยไพลินตาโต เพราะเธออุตส่าห์เอ่ยเสียงเบาแล้วนะ ทว่าท่านกลับเอ่ยเสียงดัง
อดเหลือบมองไปยังคนด้านข้างไม่ได้ อยากรู้ว่าพี่วินได้ยินไหม ก็เห็นอีกฝ่ายมองที่เธออยู่
ไม่ใช่มองหน้า แต่มองนม
พลอยไพลินรีบหันหลังให้ทันที เพราะพฤติกรรมของอีกคนเมื่อกี้ ตอกย้ำเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ว่าพี่วินมองหน้าอกของเธอจริง ๆ
“หนูชอบสีไหน เดี๋ยวแม่เลือกช่วย” ยังตกใจไม่หายกับขนาดหน้าอกของเด็กม.ปลาย โอ้โห! แม่พันธุ์ดี ๆ นี่เอง
“สีเนื้อค่ะ” จะได้กลืนกินไปกับสีผิว ไม่หวือหวาจนเกินไป
“โหย เอาสีแซ่บ ๆ ดีกว่า อย่าไปใส่มันเลยสีเนื้อ”
น้ำหนึ่งเลือกชุดชั้นในสีดำ สีแดง และสีชมพู เน้นที่ดูเซ็กซี่ตัดกับผิวขาวของเด็กมัน
แต่ก็เลือกสีขาวมาด้วย เผื่อพลอยไพลินมีความจำเป็นต้องใช้ แต่สีที่เธอไม่เลือกแน่ ๆ ก็คือสีเนื้อ มันกลืนกับผิวเกินไป แบบนั้นไม่น่าตื่นเต้นหรอก
พลอยไพลินไม่กล้าขัด จำต้องเอาแบบที่ท่านว่า ถึงอย่างไรมันก็อยู่ข้างใน หากวันไหนที่ใส่ชุดนักเรียน ค่อยสวมเสื้อสายเดี่ยวทับอีกชั้นก็แล้วกัน
น้ำหนึ่งเดินชอปปิงอย่างสนุกสนานราวกับว่าเป็นเสื้อผ้าของใช้ของตัวเอง แล้วเสร็จจึงเดินไปหยุดที่ร้านขายชุดนักเรียน
ซื้อด้วยกันทั้งหมดสามชุด เพราะใส่ชุดนักเรียนสามวัน ส่วนอีกสองวันใส่ชุดพละ เธอค่อยโทรไปติดต่อทางโรงเรียนอีกที จากนั้นเดินไปซื้อรองเท้านักเรียนกับรองเท้าผ้าใบ
กว่าสามชั่วโมงที่เดินเลือกชุดและของใช้จึงเริ่มรู้สึกเหนื่อย แวะนั่งพักกินข้าวที่ร้านอาหาร
‘ลาบแซ่บผู้การสันต์’ ขายอาหารอีสานเป็นหลัก เขาว่ากันว่า อาหารอีสานร้านนี้อร่อยมาก เจ้าของร้านเป็นถึงอดีตข้าราชการตำรวจยศสูง
“แม่ขอจัดเต็มเลยนะลูก หิวมาก!” บอกกับคนทั้งคู่ นาวินนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ส่วนพลอยไพลินนั่งข้างเธอ
ทั้งสามคนสั่งอาหารเสร็จ จังหวะที่รอกับข้าวมาส่ง น้ำหนึ่งนึกอยากไปห้องน้ำ จึงบอกกับคนทั้งคู่
“เดี๋ยวแม่มานะ ขอไปห้องน้ำแป๊บ” บอกแล้วลุกเดินไปเลย ทำให้บรรยากาศตรงนี้ดูเงียบสนิท ทั้งที่คนอยู่กับเต็มร้าน ทั้งพนักงาน และคนที่มากินข้าว แต่พลอยไพลินกลับรู้สึกเหมือนว่าไม่มีใครอยู่ด้วย
นั่งบีบมือตัวเองก็แล้ว มองซ้ายมองขวาก็แล้ว แม่ก็ยังไม่มาสักที
นาวินเอามือกอดอกก่อนจะทิ้งแผ่นหลังลงไปกับพนักพิงเก้าอี้ แล้วมองใบหน้าจิ้มลิ้มนิ่ง ไล่สายตาลงไปยังเนินอกอิ่มซึ่งมันดันเสื้อยืดสีขาวออกมาจนเห็นได้ชัด
สามสิบแปดจริงเหรอ? ไม่มั้ง สี่สิบมากกว่า เด็กคนนี้คงโกหกแม่เขาแน่นอน
ถ้าให้เปรียบเทียบ ไม่ลูกมะพร้าว ก็หัวเด็กสองหัว ใหญ่ประมาณนั้นเลย
“ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารค่ะ” พนักงานของที่ร้านนำเมนูอย่างง่ายมาเสิร์ฟก่อน ไม่นานน้ำหนึ่งก็เดินกลับมา
“ทานเลยลูก” บอกกับคนทั้งสอง แล้วลงมือกินข้าวกัน