@เช้าวันต่อมา
“นั่งเลยค่ะนั่งเลย” น้ำหนึ่งยังคงเข้าครัวทำอาหารเองทุกครั้ง โดยมีลูกมือเป็นพยูที่คอยช่วยเหลือนิด ๆ หน่อย ๆ
ก่อนสองพ่อลูกออกจากบ้าน เธอจะมีข้าวเช้าให้ทานทุกมื้อ
วันนี้เธอทำแกงจืดตำลึงหมูสับ กับผัดเผ็ดปลาดุกและไข่เจียว มีข้าวสวยนุ่ม ๆ หอม ๆ ที่ซื้อจากชาวบ้าน
ภาคินนั่งได้ไม่นาน ลูกชายคนเดียวก็เดินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ ไม่ถึงห้านาทีพลอยไพลินก็เดินตามมา ทุกคนต่างรู้ว่าเวลาอาหารเช้าตั้งโต๊ะประมาณเจ็ดโมง
ภาคินรับหน้าที่เฝ้าร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ส่วนลูกชายคนเดียวจะออกไปดูไซต์งานก่อสร้าง นาวินเรียนจบวิศวะโยธามา
จากนั้นก็ทำรับเหมาก่อสร้าง โดยวัสดุต่าง ๆ ที่ใช้ก็มาจากร้านของพ่อตัวเองทั้งนั้น
“เดี๋ยวหนึ่งพาพลอยไปซื้อของเสร็จ แล้วจะไปหาคุณที่ร้านนะคะ น่าจะช่วงบ่าย ๆ ค่ะ” หลังจากดูแลลูกกับสามีเสร็จ เธอก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ สาย ๆ เธอก็จะไปหาสามีที่ร้านค้าเพื่อไปช่วยงาน
จริง ๆ ไม่มีอะไรให้ช่วยหรอก แต่สามีเธอนั่นแหละ ชอบให้ไปหา ไม่รู้จะคิดถึงอะไรขนาดนั้น
คนติดเมีย!
“จะไปยังไง?” เมียเขาไม่มีรถใช้นี่ เพราะตอนนี้ รถของน้ำหนึ่งเอาเข้าไปซ่อมที่ศูนย์
“เดี๋ยวหนึ่งนั่งรถประจำทางไปก็ได้ค่ะ”
“ตอนไปน่ะไปได้ แล้วตอนกลับจะเอาของกลับมายังไง?” ถ้าจะให้เมียเอารถของเขาไปใช้ เขาเองก็ต้องได้ใช้อยู่ทั้งวัน เหตุนี้จึงทำให้เราสองคนผัวเมียขับรถคนละคัน เผื่อใครมีธุระ
“ก็นั่งรถประจำทางกลับมาไงคะ” ตอนไปนั่งรถประจำทาง ขากลับก็นั่งรถประจำทางน่ะถูกแล้ว
“เดี๋ยวฉันไปส่ง” แทนที่จะเอ่ยปากอ้อนผัว แต่กลับไม่ทำ ตั้งแต่เป็นเมียเขามา เคยลำบากด้วยเหรอ ภาคินมันไม่เคยให้เมียต้องลำบากเลยสักครั้ง
ยกเว้นตอนที่เลิกกันไป ช่วยไม่ได้ น้ำหนึ่งเลือกที่จะไปจากเขาเอง
แล้วเป็นไงล่ะ ก็กลับมาตายรังเหมือนเดิม เพราะติดอกติดใจผัวคนนี้มาก
‘คุณคินคะ’
‘คุณคินขา’
“เดี๋ยวคุณไปเปิดร้านสายนะคะ” เธอจะเข้าไปซื้อของในตัวจังหวัด หากให้สามีไปส่ง กว่าสามีเธอจะตีรถกลับมาเปิดร้าน คงสายพอดี ป่านนั้นลูกค้ามารอแล้ว
ไม่ใช่ว่าพนักงานที่ร้านไม่มี แต่มีแค่พนักงานขาย ส่วรคนที่ต้องคิดเงินค่าอะไรต่าง ๆ ไม่มี
“ปิดร้านสักวัน” ภาคินบอกอย่างไม่คิดมาก ถือว่าได้พักผ่อนไปในตัว เดี๋ยววันนี้เขาพาเมียกับลูกไปซื้อของก็ได้
“ไม่ได้นะคะ!” เธอเคยเป็นแม่ค้ามาก่อน เข้าใจหัวอกของลูกค้าเวลาที่ตั้งใจมาซื้อของแล้วไม่เจอแม่ค้ามาขาย มันน่าผิดหวังขนาดไหน เผลอ ๆ วันหลังอาจไม่มาแล้วด้วย
“ผู้หญิงไปกันสองคน ไหนจะถือของพะรุงพะรังขึ้นรถ จะมีที่นั่งหรือเปล่ายังไม่รู้เลย” ยิ่งวันหยุดแบบนี้ด้วย บนรถสาธารณะคงเบียดกันน่าดู
เขาไม่โอเคหรอก กว่าจะถึงบ้าน ยัยขี้เม้าท์ปวดขาแย่แน่!
“เมียคุณเก่งจะตายค่ะ” น้ำหนึ่งยิ้มให้สามีบอกว่าสบายมาก ทำอะไรทุกอย่างได้ด้วยตัวเองเนี่ยแหละ อีน้ำหนึ่งของแทร่
ภาคินถอนหายใจแรง คนหนึ่งห่วง แต่อีกคนดื้อมาก
“ไม่!”
“เถียงกันบ่อย ๆ สนุกไหมครับ?” ตั้งแต่เขายังไม่กินข้าว จนตอนนี้กินข้าวจะอิ่มอยู่แล้ว ยังไม่เลิกเถียงกัน
ไม่ใช่สิ
ตั้งแต่เขาเล็กจนโต พ่อกับแม่ขัดแข้งขัดขากันทุกวัน ไม่รู้ว่าอยู่กันมาจนป่านนี้ได้ยังไง
“ไม่เลิกกันไปให้รู้แล้วรู้รอดเลยล่ะครับ แม่ก็เอาผัวใหม่ พ่อก็มีเมียใหม่ไปเลยจบ ๆ”
น้ำหนึ่งทำหน้ายู่ เมื่อลูกชายเอ่ยแบบนั้น ก่อนจะทำปากมุบมิบใส่ผัว ว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายนั่นแหละ ที่ไม่ยอมให้เธอไปเอง
“เดี๋ยวผมพาไปเอง” นาวินบอกเสียงเรียบ ก่อนจะนั่งกินข้าวต่อ
“วินว่ายังไงนะลูก! จะพาแม่กับน้องไปซื้อของเหรอ?” น้ำหนึ่งถามลูกชายด้วยความแปลกใจ เธอฟังไม่ผิดใช่ไหม อยากให้สามีเอามือมาตบบ้องหูมันสักทีสองทีว่าที่ลูกชายพูดคือเรื่องจริง
“พ่อไปเปิดร้านเถอะ”
“เอางั้นเหรอ เราไม่ติดงานใช่ไหมวิน?” เขากลัวทำให้ลูกชายเสียงาน
“ผมค่อยเข้าไปดูงานช่วงบ่ายก็ได้ เมียพ่อคงไม่ชอปปิงจนถึงเย็นหรอกมั้ง”
“วินก็...” น้ำหนึ่งหลุดขำในคำแซวของลูกชาย สองพ่อลูกรู้ดี หากเธอได้ออกจากบ้าน ไม่ค่ำก็ไม่กลับ เหตุเพราะชอบไปเม้าท์กับคนที่รู้จัก ผัวก็เลยไม่ค่อยให้ไปไหนคนเดียวบ่อย ๆ
ภาคินรู้สึกสบายใจขึ้นมา อย่างน้อยเวลาที่น้ำหนึ่งไม่ได้อยู่ในสายตาตัวเอง ก็ยังมีลูกชายที่คอยดูแล
พลอยไพลินนั่งกินข้าวเงียบ ๆ เชื่อไหมว่าตั้งแต่ลงมาจากบ้าน เธอยังไม่กล้าสบตากับลูกชายเจ้าของบ้านเลย เพราะเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ เธอยังเอาออกไปจากหัวไม่ได้
แต่ไม่คิดเลยว่า เช้ามาเธอยังต้องนั่งรถไปกับพี่เขาอีก เพราะอีกฝ่ายบอกจะพาแม่กับเธอไปซื้อของ
@เวลาต่อมา
@บนรถ
พลอยไพลินนั่งเบาะหลัง ซึ่งด้านหน้าเป็นพี่วินกับแม่ เธอพยายามมองซ้ายมองขวาก็แล้ว แต่ทำไมยังเห็นตัวเองในกระจกมองหลังของตำแหน่งคนขับ
ก้มหน้าลง แล้วค่อย ๆ กระเถิบตัวย้ายฝั่ง พอเงยหน้าขึ้น เธอก็ยังคงเห็นใบหน้าของตัวเองในกระจกอยู่ดี
รีบก้มหน้ามองต่ำอีกทีด้วยความสงสัย
พี่วินปรับกระจกตามเธอเหรอ? แต่เขาจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร เพราะไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์
“พลอย”
“ขา” ดึงความสนใจออกจากสิ่งที่กำลังหาคำตอบอยู่ แล้วตั้งใจฟังที่แม่พูด
“พลอยมีแฟนหรือยังจ๊ะ?” หาอะไรมาคุยกันดีกว่า กว่าจะถึงห้างสรรพสินค้า
นั่งรถไปกับนาวินสองคน เธอต้องเป็นฝ่ายชวนลูกคุยทุกที นาวินก็ตอบบ้าง ไม่ตอบบ้างตามประสา เธอชินแล้ว
“คะ?” พลอยไพลินชะงักไปเมื่อเจอคำถามแบบนี้ ก่อนจะส่ายหัวออกมา
“ยังค่ะ”
“ยังไม่มีแฟนเหรอ? น่ารักอย่างกับตุ๊กตา” ไม่อยากเชื่อเลย สวยแบบนี้คงมีแต่หนุ่ม ๆ มาจีบสิไม่ว่า พลอยไพลินอาจจะโกหกเธอก็ได้ เพราะเขินที่จะพูด
โอเค เธอจะตามน้ำ
“ค่ะ พลอยยังไม่มีแฟน”
“ไม่มีหนุ่ม ๆ มาจีบเลยเหรอ”
“ก็...มีบ้างค่ะ” ไม่ใช่แค่มีมาบ้างหรอก เยอะเลยละ แต่มันก็ไม่สมควรโอ้อวดไหม
ถ้าจะบอกว่าไม่มี มันก็เป็นการโกหกเกินไป เธอกลัวผู้ใหญ่ไม่เชื่อ
“แล้วไม่สนใจใครเลยเหรอ?” น้ำหนึ่งทำสีหน้าแปลกใจ มีคนมาจีบ แต่ไม่มีใครโดนใจพลอยไพลินเลยสักคนว่างั้น
“ไม่ค่ะ” หญิงสาวส่ายหัว เธอยังไม่เจอคนที่ชอบแบบจริง ๆ จัง ๆ
“พลอยชอบคนแบบไหนเหรอจ๊ะ”
“เอ่อ...” คนแบบไหนดีนะ
“เด็กกว่า อายุเท่ากัน หรือผู้ใหญ่กว่า”
“นะ...น่าจะผู้ใหญ่ค่ะ” เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะเธอไม่มีพ่อกับแม่ไง คนที่จะเป็นแฟนในอนาคตของเธอ ต้องเป็นผู้ใหญ่กว่าเท่านั้น
และต้องเป็นคนที่ทำให้เธอรู้สึกได้ว่า เขาคนนั้นเหมือนทั้งพ่อและแม่
ให้ความรัก ให้ความอบอุ่นกับเธอ ทำให้เธอไม่รู้สึกอ้างว้างและโดดเดี่ยว มองไปเมื่อไหร่ก็เจอ
รวยจนไม่สำคัญ แค่ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของเขาก็พอ
“แม่มีผู้ชายคนหนึ่งอยากแนะนำ หนูสนใจไหม”
“ใครเหรอคะ?”
“ลูกชายแม่ไง หึหึ นาวินก็โสดนะ โสดมานานแล้วด้วย ใช่ไหมลูก” หันไปยิ้มให้ลูกชาย ทว่ากลับต้องคลายยิ้มเมื่อเจอร่างสูงปรายตามองมานิ่ง ๆ
“แฮ่ แม่แค่ล้อเล่นเองนาวิน” ไปสะกิดโดนแผลเข้าแล้วสิ และดูท่า แผลจะใหญ่ด้วย
ลูกชายเธอเคยมีแฟนมาแล้วสองคน
คนแรกคบกันตั้งแต่ปีหนึ่ง วางแผนว่าเรียนจบจะแต่งงานกัน แต่พอเรียนจบ ผู้หญิงกลับมาบอกว่ายังไม่พร้อมซะงั้น และจะไปเรียนต่อที่กรุงเทพ
ซึ่งเป็นช่วงที่นาวินเอง ก็กำลังเริ่มต้นกับการทำธุรกิจ และค่อนข้างทุ่มเทจนไม่มีเวลาไปหาผู้หญิง จึงทำให้คนทั้งคู่ค่อย ๆ ห่างกันไป และเลิกติดต่อกันในที่สุด
ส่วนคนที่สอง คนนี้ทำลูกชายเธอเจ็บแสบ คบหากันอยู่สองปี จนวางแผนจะแต่งงานกัน แต่มาวันหนึ่ง ลูกชายเธอจับได้ว่า ผู้หญิงคนนั้นนอกใจไปคุยกับผู้ชายคนอื่น นาวินโกรธมาก
เพราะผู้หญิงคนที่สองนี้ จึงทำให้ลูกชายของเธอไม่ยอมเปิดใจรับใครเข้ามาสักที เรียกได้ว่า ปิดกั้นตัวเองสุด ๆ
จนเธอกับสามีท้อแล้วว่าชาตินี้คงไม่ได้อุ้มหลานเหมือนคนอื่น ๆ แน่นอน
พลอยไพลินที่ได้ยินอย่างนั้นเหลือบมองคนตัวโตเพียงนิด ทว่ามันกลับเป็นจังหวะเดียวกันกับที่อีกคนมองผ่านกระจกมองหลังมาที่เธอพอดี เธอจึงรีบมองไปทางอื่นทันที